ปิด :
น่า
สยุป
ประเมิน
Unit Question
คำชี้แจะได้นักเรียนคอบต่าถามต่งอไป่นี้
จะลินายการเคลื่อนที่ของแกิตแสา์เจนจากธากาศมายนะกร่างการเข้าสู่ปอต และแกิดหาร์นสนโดยอกไรค์
จากป่อดยอกลู่ยากาศภายนยกร่างกาย
(แนวaoบ Unit Question
1. แก๊สกตกซิเจนจากภากาศเคลื่อนที่เข้าสู่ร่างกาย
ทางจมูก หรือปาก จากนั้นเคลื่อนต่อไปยัง
โพรงจมูก ท่อลม แยกไปตามหลอดลมเข้าสู่
ปอดทั้ง 2 ข้าง เพื่อไปแลกเปลี่ยนแก็สที่ถุงคม
ภายในปกด ส่วนแก๊สคาร์นถนโดอกกไซต์ที่เกิด
2. พิจารณาภาพที่กำหนดให้ แล้ดคอบคำธาม่อไปนี้
จากการแลกเปลี่ยนแก๊สนริเวณถุงลมในป่อด
อยกสู่อากาศนภายนอก โดยผ่านมายังหลอดลม
ท่อลม โพรงจมูก และจมูก ตามลำดับ
2. 21 หมายเลข 1 คือ กระดูกซี่โครง ทำงาน
ช่วมกับกล้ามเนื้อยีดกระดูกซี่โครงในการ
เปลี่ยนแปลงปริมาตรของช่องกระหว่าง
การทายใจเข้าและหายใจยan หมายเลข 2
คีย กะบังดม ทำหน้าที่รั้งปอดลง เพื่อให้
กากาศเข้าสู่ปอดรณะทายใจเข้า และตัน
ปอดขึ้นเพื่อไล่อากาศแยกจากปอดขณะ
หายใจยอา
2.2 จากภาพ เป็นการหายใจตอก เนื่องจาก
กระดูกซี่โครงเลี่ยนต่ำลงและทะนังคมลื่อน
สูงขึ้น ทำให้ในช่องยกมีปริมาตรลดลงและ
มีความดันเพิ่มขึ้น อากาศจึงถูกค้นออกสู่
2.1 จากภาพ หมายเลข 1 และหมายเลข 2 คืออวัยวะได มีส่วนช่วยในการหายใจอย่างไร
2.2 จากภาพ เป็นการหายใจเข้าหรือออก เพราะเหตุใด
ภายนอกร่างกาย
การแลกแปลี่ยนแกิสมีกระบวนการอม่างไร
3. การแลกเปลี่ยนแก๊สเป็นเระบวนการแลกเปลี่ยน
แก๊สออกซิเจนกับแก็ตตาชันอนไดออกไซด์
ซึ่งเกิดขึ้น 2 บริเวณ ได้แก่
1) บริเวณปลด มีการแลกเปที่ยนแก้ตระหว่าง
ถุงผมกันหลยดเดือดฝย โดยแก๊สยแกซิเจน
แพร่จากถุงดมเข้าสู่หลอดเดือดผอย ส่วน
เพราะเหตุดผู้ปายโรหยงผมไปอดยงจตายในเร็วกว่าคนปกติ
หน่ายโดทำหน้าที่คำจัดของเสียงเทจากร่างกายได้อย่างไป
เพราะเหตุใจึงไม่พบโปรดันและกลูโคตปนออกมากับน้ำปัดสาวะ
เพราะเหตุใดแพทย์จึงและนำให้ที่มน้ำสะลาคผ่างมัมแลวันละ 2 โคร
แก็สคาร์นแนไตยกใซต์แพร่จากหละดเดิกต
ฝอยเข้าสู่ถุงหม
2) บริเวณเซตล์ต่างๆ มีการแลกเปลี่ยนแก๊ส
ระหว่างหลอดเลือดฝ่อยกับเซลล์ โดยแก็ส
ถยกซิเจนแพร่จากหลอดเลือดฝอยเข้าสู่เซล์
ส่วนแก๊สตาร์บอนโดออกไซต์แพร่จากเซลล์
เข้าสู่หลอดเลือดฝอย
4. เนื่องจากผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งทองมีผบังถุงลมฉีกขาด พื้นที่ผิวแลกเปลี่ยนแก้สจึงนัยยลง ทำให้แก๊ตกกซีเจนที่ได้รับไม่เทียงพอกับความตัดงการของร่างกาย
จึงต้องหายใจเส็วและีกว่าคนปกติ เพื่อให้ได้รับแก้สอยกซิเจนที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
6. หน่วยโดทำหน้าที่กรองลารต่างๆ อยกจากเลีอด ซึ่งมีเฉพาะตารขนาดเลิก เช่น น้ำ กลูโคส กรดอะมิโน และของเสียค่างๆ เช่น ยูเชีย ที่ถูกรองเข้าส่
หน่วยใต และสารที่มีประโยชน์ถูกดูดกตับเข้าสู่หลยดเลือดฝอย ทำให้เหลียเฉพาะของเสียท่ผ่านหน่วยไดไปยังท่อไต และใไปรวมยังกระเพาะปัสลาวะเป็น
น้ำปัดตาระ เพื่อกำจัดออแจากร้างกายทางท่อมัสสาวะต่อไป
4. เนื่องจากสารที่ถูกกรองผ่านเหน่วยโดเป็นสารที่มีขนาดเล็ก ซึ่งโปรตีนเป็นสารขนาดใหญ่จึงไม่ผ่านการกรองเข้าสู่หน่วยได ส่วนกลูโคสเป็นดารที่มีขนาดเล็ก
และเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจึงถูกลูดกลับเข้าสู่หลอดเลียดฝอย ดังนั้น จึงไม่คนไปรตีนและกลูโคลปนแออกมากับน้ำปัดลาวะ
7. การดื่มน้ำสะอาดอย่าเพียงพอเป็นการช่วยให้ไดไม่ทำงานหนักจนเกินไปเพราะไดไม่ต้องกรองน้ำเลือดที่มีความเข้มข้นมากจนเกินไป ทำให้โดทำงานไต้
อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแพทย์แนะนาให้ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยรันละ 8-10 แก้ว หรือบระมาณวันละ 2 ลิตร
<
80 / 154 %