ภาษาไทย
มัธยมปลาย

จงพิจารณาเนื้อความต่อไปนี้ว่าเป็นโวหารร้อยแก้วชนิดใด

ความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์เดชปาฏิหาริย์ของเทพเจ้า ตลอดจนเรื่องไสยศาสตร์ทั้งหลายนั้น เป็นเรื่องบำรุงขวัญปลอบขวัญ เมื่อคนยังมีพลังจิตพลังปัญญาไม่เข้มแข็งพอก็มักเรียกร้องใฝ่หาสิ่งเหล่านี้ ทำให้เกิดความอบอุ่นมั่นใจขึ้นมา อย่างน้อยก็ทำให้มีที่เกาะเกี่ยวยึดเหนี่ยว เป็นเครื่องปลอบใจ ชโลมใจ ทำให้ชุ่มชื้นขึ้น มีความหวังขึ้นแต่ต้องระวังอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีหลักกรรมควบคุมไว้ก็จะมัวสบายใจ แช่มชื่นใจ อุ่นใจว่าเราได้ทำพิธีแล้ว เราได้บวงสรวงท่านแล้ว เดี๋ยวท่านก็จะบันดาลให้พวกเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง มีภัยอันตรายมากเดี๋ยวท่านก็จะช่วยเอง ๗. เมื่อใดที่ใบไม้ร่วงหล่นถึงพื้น มันก็จะผุพังและเน่าเปื่อยด้วยความชุ่มชื้น และจุลินทรีย์เล็กๆ ที่ช่วย ย่อยสลายให้ใบไม้นั้นกลายเป็นธาตุอาหารสะสมอยู่ในดิน และดินก็จะสะสมธาตุอาหารให้ตัวเองตลอดเวลา ตราบเท่าที่มีป่าไม้ มีน้ำเป็นสายใยธรรมชาติเกื้อหนุนกันและกัน ๘. ในการปฏิบัติงานนั้นย่อมมีปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นต้องรีบแก้ไขอย่าทิ้งไว้ให้ พอกพูนลุกลามจนแก้ยาก ขอให้ทุกคนระลึกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ ก็ช่วยกัน คิดช่วยกันแก้หลายๆคน หลายๆทาง ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นจักไม่กลายเป็น อุปสรรคขัดขวาง และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จของการงาน ๔. การจัดกีฬาในโรงเรียนของเรานับว่ามีประโยชน์ยิ่งที่จะทำให้นักเรียนได้มีโอกาสฝึกฝน และเล่นกีฬา ได้แสดงออกเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามการที่เราจะตัดคาบเรียนออกเหลือเวลาเพียง ๕ คาบนั้น ทำให้นักเรียน ๑0. ได้เรียนกันไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย บางวิชาที่มีเรียนในคาบสุดท้ายเท่านั้น นักเรียนก็จะไม่ได้เรียนเลย เป็นการ เสียประโยชน์ไปโดยใช่เหตุ
แบบทดสอบโวหารร้อยแก้ว จงเลือกข้อที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว "ความแตกต่างกันอย่างหนึ่งระหว่างลำรางที่มนุษย์ขุดขึ้นกับแม่น้ำโรหิณีก็คือ มนุษย์ขุดลำรางเป็นทางตรง โดยมาก จะลดเลี้ยวก็ต่อเมื่อมีความมุ่งหมาย..ชีวิตคนเราก็ฉันนั้น ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามสิ่งแวดล้อมเหมือน แม่น้ำ มันก็จะคดเคี้ยวไปตามสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ถ้าเราจะไม่ปล่อยไปตามบุญตามกรรม โดยการศึกษา และควบคุมชีวิตให้ดี ก็จะเป็นเหมือนเราขุดลำราง เราอาจทำให้ตรงไม่คดเคี้ยวและอาจนำน้ำไปใช้ให้เป็น ประโยชน์ได้แม้ในที่ไกล" เนื้อความที่ตัดตอนมานี้เป็นโวหารร้อยแก้วประเภทใด 1. 1. บรรยายโวหาร 2. อธิบายโวหาร 3. พรรณนาโวหาร 4. เทศนาโวหาร "แดดในยามเย็นกำลังอ่อนลงสู่สมัยใกล้วิกาล ทอแสงแผ่ช่านไปยังสาลีเกษตรแลละลิ่วเห็นเป็นทางสว่างไปทั่ว ประเทศสุดสายตา ดูประหนึ่งว่ามีหัตถทิพย์มาปกแผ่อำนวยสวัสดี เบื้องบนมีกลุ่มเมฆเป็นคลื่นซ้อนซับสลับกัน เป็นทิวแถวต้องแสงแดด จับเป็นสีระยับวะวับแววประหนึ่งเอาทรายทองไปโปรยปราย" ข้อความนี้ใช้โวหาร 2. ชนิดใด 1. บรรยายโวหารและพรรณนาโวหาร 2. พรรณนาโวหาร และอุปมาโวหาร 3. บรรยายโวหาร และอุปมาโวหาร 4. พรรณนาโวหาร และสาธกโวหาร 3. ข้อใดใช้โวหารต่างจากข้ออื่น 1. แสงระเรื่อสีส้มอมชมพูสาดไปทั่วผืนน้ำและแผ่นฟ้า ดูงดงามจับตาจับใจ 2. กรีซใช้เงินยูโร อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร ประมาณ 45 บาท 3. ฤดูหนาวของนิวยอร์กกินเวลาตั้งแต่เดือนธันวาคม ไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม 4. มัลดีฟส์เป็นหมู่เกาะเล็กๆที่แยกตัวเป็นประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ เป็นหมู่เกาะที่สวยมาก 4. "ครั้นกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงกระทำแบ่งนางกันดังนี้แล้ว ก็ทรงชักม้าตามรอยเท้านางเข้าไปในป่า สักครู่ หนึ่ง เห็นสองนางนั่งพักอยู่ใต้ต้นไม้" ข้อความข้างต้นมีลักษณะตรงกับข้อใด 1. บรรยายโวหาร 2. พรรณนาโวหาร 3. อธิบายโวหาร 4. อุปมาโวหาร 5. "การใช้ปัญญาเพียงอย่างเดียว มิอาจแก้ปัญหาทุกสิ่งได้เสมอไปจำเป็นต้องมีสติกำกับปัญญาของตนด้วย ใช้สติและปัญญาควบคู่กันไปย่อมนำมนุษย์ไปสู่ความสำเร็จ" ข้อความนี้จัดเป็นโวหารประเภทใด 1. บรรยายโวหาร การ 2. พรรณนาโวหาร 3. สาธกโวหาร 4. เทศนาโวหาร
6. "นิทานเวตาลมีลักษณะเป็นนิทานซ้อนนิทาน กล่าวคือ มีนิทานย่อยหลายเรื่องซ้อนอยู่ในนิทานเรื่องใหญ่ ฉบับ ของ น.ม.ส. ประกอบด้วยนิทานย่อยเพียง 10 เรื่อง โดยทรงแปลจากฉบับของเบอร์ตัน 9 เรื่อง ส่วนอีกเรื่องหนึ่งนำมา จากฉบับภาษาอังกฤษสำนวนอื่น" ข้อความข้างต้นมีลักษณะตรงกับข้อใด 1. บรรยายโวหาร 2. อธิบายโวหาร 3. พรรณนาโวหาร 4. อุปมาโวหาร 7. * ยากระตุ้นประสาทหมายถึงยาหรือสารที่มีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาที่ไปกระตุ้นประสาทส่วนกลางโดยตรงจึงทำ ให้ผู้ที่รับประทานหรือเสพสารนี้เข้าไปมีอาการตื่นเต้นและตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา" เนื้อความนี้ใช้โวหารร้อยแก้วชนิดใด 1. บรรยายโวหาร 2. อธิบายโวหาร 3. เทศนาโวหาร 4. สาธกโวหาร 8. "อำนาจความสัตย์เป็นอำนาจที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงแต่จับหัวใจคนแม้แต่สัตว์ก็ยังมีความรู้สึกในความสัตย์ชื่อ เมื่อ กวนอูตายแล้ว ม้าของกวนอูก็ไม่ยอมกินหญ้ากินน้ำ และตายตามเจ้าของไปในไม่ช้าไม่ยอมให้หลังของมันสัมผัส กับผู้อื่นนอกจากนายของมัน" ข้อความนี้ใช้โวหารชนิดใด 1. บรรยายโวหาร อุปมาโวหาร 3. พรรณนาโวหาร อุปมาโวหา ข้อความต่อไปนี้ใช้กลวิธีการเขียนตามข้อใด 2. เทศนาโวหาร สาธกโวหาร 4. อธิบายโวหาร สาธกโวหาร 9. "การที่จะเรียนวิชาได้ด้วยวิธีใดนั้นไม่สำคัญ ข้อสำคัญอยู่กับตัวผู้เรียนต่างหากเปรียบเหมือนแตงกวาจะดอง ด้วยน้ำส้มฝรั่งก็ได้ ดองด้วยน้ำกระเทียมก็ได้ เมื่อดองแล้วก็อร่อยทั้งสองอย่าง ข้อสำคัญคือแตงกวาที่จะเอาลง ดอง จะต้องเป็นแตงไม่เน่า ถ้าเน่าเสียแล้ว จะดองด้วยน้ำกระเทียมหรือน้ำส้มฝรั่งขวดละตำลึงมันไม่เป็นรสทั้งนั้น บุคคลที่สืบเสาะร่ำเรียนวิชา ก็เหมือนแตงกวาดอง ถ้านิสัยใจคอมันเน่าเสียแล้ว ถึงจะร่ำเรียนด้วยวิธีใด มันก็คงไม่ เป็นเรื่องทั้งนั้น" (จดหมายจางวางหร่ำ : น.ม.ส.) 1. อธิบายโวหาร 3. เทศนาโวหาร สาธกโวหาร 2. พรรณนาโวหาร สาธกโวหาร อุปมาโวหาร 4. บรรยายโวหาร อุปมาโวหาร 10. ข้อใดใช้โวหารแบบอธิบาย 1. โคลงโลกนิติเป็นสุภาษิตเก่าแก่ แต่งมาแต่โบราณครั้งกรุงเก่า 2. ผีบรรพบุรุษนั้นบางถิ่นเรียกว่าผีเรือน บางถิ่นเรียกว่าผีปู่ย่า บางถิ่นเรียกว่าผีตายาย 3. ถ้าไม่มีคุณธรรมเป็นสิ่งจรรโลงจิตใจ คนเราก็คงไม่แตกต่างไปจากสัตว์ป่า 4. แสงเดือนเพ็ญผ่องกระจ่างจับพระพักตร์อยู่เมื่อกี้ก็จางซีดขมุกขมัวลง
โวหารร้อยแก้ว
PromotionBanner

คำตอบ

ยังไม่มีคำตอบ

ข้อสงสัยของคุณเคลียร์แล้วหรือยัง?