ภาษาไทย
มัธยมปลาย

เรางงกับการเขียนเป็นผังมากๆ

หแย๑ด๑"กเซแรแเร 17:43 @ =.12( 1 ๕๐ @ ยทเงอ.9000๐9เอ.๐๐ทา ๑๑๑ (บทความที่ ๑๒) เด็กไทยกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก่อนวันเด็กแห่งชาติ 1 วัน คือเมือวันที่ 9 มกราคม พ.ศ.2558 ในรายการเจาะข่าวเข้านี้ของสถานีวิทยุจุฬา ตร ธีรารัตน์ พัน โทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คือ ตร.พิเซฐ ตุรงคเวโรจน์ ว่าเด็กไทยจะช่วยสร้างชาติได้ อย่างไรผ่านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้เขียนเห็นว่าถ้านักเรียนได้อ่านบทความนี้ น่าจะเกิดความสนใจและตั้งใจเรียนวิทยาศาสตร์ กันมากขึ้น ถ้าคนไทยจํานวนมากเก่งวิทยาศาสตร์ สิ่ที่จะตามมาซึ่งจะช่วยให้ประเทศสามารถแข่งขันกับนานาขาติได้ใบเวทีโลก ก็คือ นวัดกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ และทรัพย์สินทางปัญญา. ถึงแม้ว่าเด็กและเยาวชนส่วนหนึ่งเก่งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาก จนได้รับรางวัลระดับนานาชาติดังที่มีข่าวเป็นระยะๆ แต่เมื่อมองในภาพรวมยังถือว่ามีจํานวนน้อย กล่าวคือเด็กไทยสนใจ เรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์น้อย และแม้จะมีการเรียนการสอน วิทยาศาสตร์อยู่โนหลักสูตรทุกระดับตั้งแต่ประถมศึกษาจนอุตมศึกษา แต่กไม่ตั้งใจเรียนวิทยาศาสตร์ ในสภาพการณ์ปัจจุบันของเรา มีเหตุปัจจัยหลายประการที่ทําให้คนส่วนไหญ่ไม่สนใจเรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์ หรือถึง เรียนตามหลักสูตรก็เรียนแบบไม่ตั้งใจ เรียนแบบท่องจํา หรือเรียนเพียงเพื่อสอบให้ผ่าน ปัจจัยที่สําคัง ัญประการแรกคือขาดแรง บันตาลใจ ดร.พิเซฐ กล่าวว่า จะต้องหาต้นแบบที่เก่งและประสบความสําเร็จทางด้านวิทยาศาสตร์ และเป็นที่เด็ก ๆ เห็นว่าเท่ อยาก เอาเป็นแบบอย่าง มาช่วยพูดช่วยเล่าประสบการณ์เพื่อให้เห็นประโยชน์ เห็นคุณค่า และกระตุ้นความสนใจวิชาวิทยาศาสตร์ ทาง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเองก็มีกิจกรรมหลายอย่างสนับสนุนการสร้างแรงบันตาลใจ มีถนนสายวิทยาศาสตร์ ซึ่งในช่วง วันเด็กแห่งชาติปีนี้จัดเพิ่มเป็น 3 วัน และจัดเพิ่มขึ้นหลายแห่ง มีสถาบันตาราศาสตร์แห่งชาติที่มีกล้องตูตาวซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดใน. อาเซียนที่ดอยอินทนนท์ นอกจากจะให้ความรู้แก่ผูที่มีโอกาสไปเยี่ยมชม ยังได้เผยแพร่ข้อมูลความรู้ด้านตาราศาง เรียนรู้ของจังหวัดต่างๆ ด้วย เพื่อสร้างความพิศวงและความสนใจอยากรู้อยากเห็นให้แก่เด็กนักเรียนและผู้สนใจ วิทยาศาสตร์ที่จังหวัดปทุมธานี มีรถคาราวานวิทยาศาสตร์กระจายความรู้ไปตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นต้น ปัจจัยต่อมาคือ ในโรงเรียนส่วนใหญ่กระบวนการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ยังไม่ดี เนื่องจากขาดแคลนครูสอนวิทยาศาสตร์ที ปัญหานี้กําสังหาทางแก้ไข เช่น ขอให้มหาวิทยาลัย 5 แห่งเข้าไปช่วยปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ และ กําลังพิจารณาหาทางให้ผู้เรียนจบสาขาวิทยาศาสตร์โดยตรงเป็นครูผู้สอน ดังที่หลายประเทศทํากัน หาวิธีลตภาระงานครู และ จริงโดยส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างภาคการศึกษากับภาคเอกชน ซึ่งนอกจากเป็นการเรียนรู้นอกห้องเรียน ยังจะช่วย ความรู้ความเข้าใจถึงประโยชน์ของการนําวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบกิจการ ปัจจัยประการสุดท้าย คือเรื่องตําแหน่งการงานสําหรับผู้เรียนจบทางด้านวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันกล่าวได้ว่างานที่จะร ยังมีน้อย สําหรับแนวทางแก้ปัญหานี้ ตร.พิเซฐ มีความเห็นว่าควรหาทางสนับสนุนและขี้แนะให้ภาคการผลิตของเอกชน เร ความสําคัญของการมีหน่วยวิจัยพัฒนาตังเช่นบริษัทใหญ่ๆ ในต่างประเทศ เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต เพิ่มคุณภาพผลิตภัณฑ์ ตลอดจนสร้างนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญา ในระยะยาวจะได้สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ในเวทีโลก ดังนั้นถ้าภาคเอกชน มีงานวิจัยพัฒนาเพิ่มขึ้น ตําแหน่งงานรองรับนักวิทยาศาสตร์ก็จะมีมากขึ้น สําหรับทรัพย์สินทางปัญญา ประเทศเรามีศักยภาพที่จะ ทําให้เกิดขึ้นได้มากพอควร เพราะในภาครัฐเช่นสถาบันอุดมศึกษา มีผู้มีความรู้ความสามารถไม่น้อยที่มีผลงานวิชาการที่สามารถ นํามาต่อยอดได้ แต่เนื่องจากจ ค์หลัก ทําธุรกิจเพื่อหารายได้ จึงมีงานที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญาเกิดขึ้นไม่
ทหงแด๑«ตอูร 17:43 @ =,12( ไ1 ๕๐ @ ยทเงอ.9000๐9เอ.๐๐ทา ๑๑๑ มีงานวิจัยพัฒนาเพิ่มขึ้น ตําแหน่งงานรองรับนักวิทยาศาสตร์ก็จะมีมากขึ้น สําหรับทรัพย์สินทางปัญญา ประเทศเรามีศักยภาพที่จะ ทําให้เกิดขึ้นได้มากพอควร เพราะในภาครัฐเช่นสถาบันอุดมศึกษา มีผู้มีความรู้ความสามารถไม่น้อยที่มีผลงานวิชาการที่สามารถ างปัญญาเกิดขึ้นไม่ นํามาต่อยอตได้ แต่เนื่องจากจุดประสงค์หลักของภาครัฐไม่ใช่การทําธุรกิจเพื่อหารายได้ จึงมีงานที่เป็นทรัพย์สินา มาก ขณะนี้จึงกําลังดําเนินการปรับปรุงแก้ เบ่งผลประโยชน์กันได้หากร่วมมือกันนําผลงาน ไขกฎหมาย ให้ภาครัฐและเอกชนสามารถ าางวิชาการของคนในภาครัฐ มาพัฒนาเป็นทรัพย์สินทางปัญญา ย ขณะนี้ เต่อกันและกัน คือเหตุที่เด็กขาดแรงบันดาลใจยังเกิดจากปัจจัยสองประการหลัง/ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกําลังพยายามบูรณาการกับกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อหา แนวทางและวิธีการแก้ไขทั้งสามประการที่กล่าวมาได้ เนื่องจากเห็นว่าการที่เด็กไทยส่วนใหญ่ไม่ตั้งใจเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และ เรียนต่อด้านวิทยาศาสตร์น้อย ย่อมเป็นอุปสรรคขัตขวางความหวังที่จะให้คนไทยจํานวนมากเก่งวิทยาศาสตร์ ในขณะที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกําลังดําเนินการแก้ไขปัญหา เด็กไทยก็ควรปรับมุมมองของตนเกี่ยวกับการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ด้วย คือมองให้เห็นคุณค่าว่า ในอนาคตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นี่แหละจะเป็นเครื่องมือที่มีความสําคัญในการ พพัฒนาตนเองและประเทศชาติ ให้สามารถแข่งขันกับชาติอื่น ๆ ได้ เพราะเมื่อประเทศเรามีคนจํานวนมากเก่งวิทยาศาสตร์ ก็จะทํา 'ให้เรามีนวัตกรรม มีทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มชื้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งสามารถเป็นแหล่งรายได้หลักอีก อย่างหนึ่งของประเทศนอกเหนือจากภาคเกษตรกรรมและการท่องเ ว เลขกํากับ ข้อความที่กําหนด ที่ว่างสําหรับร่างรหัสคําตอบ 11 | กระบวนการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ยังไม่ดี 12 [ขาดแรงบันตาลใจ 13 | คนไทยจํานวนมากเก๋งวิทยาศาสตร์ 14 | งานที่จะรองรับยังมีน้อย 15 [ทรัพย์สินทางปัญญา 16 | เทคโนโลยีใหม่ ๆ 17 นรัตกรรม 18 [ไม่ติ้งใจเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ 19 | เรียนต้อทางด้านวิทยาศาสตร์น้อย 20 | สภาพการณ์ปัจจุบัน
ภาษาไทย
PromotionBanner

คำตอบ

ยังไม่มีคำตอบ

ข้อสงสัยของคุณเคลียร์แล้วหรือยัง?

เมื่อดูคำถามนี้แล้ว
ก็จะเจอคำถามเหล่านี้ด้วย😉