ชั้นปี

ชนิดของคำถาม

ภาษาไทย มหาวิทยาลัย

ช่วยสรุปจากเรื่องนี้ให้หน่อยนะคะ สรุปการอ่านเพื่อประเมินค่า จากเรื่องนี้ค่ะ

คำชี้แจง : อ่านเพื่อประเมินค่า ข้อ ๒. เรื่อง มิตรภาพ คนเราล้วนมีคำนิยามในสิ่งที่เหมือนกันต่างกันไป เหมือนกับการมองเหรียญหนึ่งเหรียญแต่มองได้หลายมุม บางคนอาจจะว่ามันมี ความโค้ง บางคนอาจมองว่ามันดูเงาวาววับ บางคนอาจจะว่ามันแข็ง ฉะนั้นแล้วเราไม่ควรมองสิ่งต่างๆ เพียงด้านเดียวและไม่ควรตัดสินใจอะไร ต่างๆด้วยการมองเขาเพียงแค่ด้านเดียวเท่านั้น ก็เหมือนกับการสร้างมิตรภาพที่นับวันยิ่งหาได้ยาก หากเรามัวแต่มองเขาเพียงด้านเดียว ตัดสินเขาเพราะเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะมีแต่เราเองที่เป็นทุกข์ พุทธศาสนาสอนมนุษย์ทุกคนว่า ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่เป็น “อนัตตา” คือความไม่มีตัวตนอย่าคิดอย่าปองว่าทุกสิ่งเป็นของ ตน แม้แต่ร่างกายที่เราว่าเป็นของเราแต่เรายังไม่สามารถบังคับให้ไม่เจ็บไม่ป่วยได้ แล้วนับอะไรกับมนุษย์และสรรพสัตว์รอบกายของเราเล่า เขา มีจิตใจมีความคิดมีความรู้สึกต่างๆ ตามแบบฉบับของมนุษย์ทุกคน เราไม่สามารถไปกำหนดให้เขามาดพเนินตามเส้นทางที่เราขีดไว้ให้ได้อย่าง แน่นอน “สัพเพ ธัมมา อนัตตา สรรพสิ่งเป็นอนัตตาบังคับบัญชาไม่ได้ เพียงแต่อ่านข้อความนี้ก็ไม่ต้องมีคำนิยามใดๆ ลงมาพ่วงท้ายก็เชื่อว่า หลายคนสามารถตีความข้อความนี้ได้ถูกต้องอย่างแน่นอน ฉะนั้นเรามาสร้างสิ่งต่างๆ รอบกายเพื่อให้เป็นมิตรที่คนเขาเรียกว่ามิตรภาพที่ดีแก่ตัว มิตรภาพไม่ได้จำกัดอยู่ที่เพื่อนที่เดินไปโรงเรียนหรือที่ทำงานแล้วเจอกันเท่านั้น เพื่อนหรือมิตรภาพนี้ยังหมายถึงสัตว์เลี้ยงของเรา เรากัน ที่คอยเป็นเพื่อนเล่นกับเราเวลาที่เราเหงา หรือแม้แต่เสาไฟที่คอยส่องแสงสว่างในช่วงเวลากลางคืนที่คอยเป็นเพื่อนที่ดีให้กับคนขับรถอีกด้วย ไม่มีที่ไหนที่เราจะไม่พบคำว่ามิตรภาพ หากมองดูแล้วมันมีความหมายมากกว่าคำนิยามตามพจนานุกรมแน่นอน หลายคนก็หลายความคิด แตกต่าง มิตรเป็นสิ่งที่ยั่งยืนในความหมายของมัน แต่ในทางกลับกันมิตรภาพกับเป็นสิ่งที่ไม่จีรังเอาเสียเลย เราลองมองรอบกายตัวเองดูแล้ว รอบกายของเรากลับไม่เคยเหมือนเดิมเลยสักวัน เหมือนกันการเดินทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด ที่แต่ละวันเราต้องเปลี่ยนคนรู้จักร มิตรภาพ การเดินทาง ไปเรื่อย ๆ แต่ภาพของมิตรภาพความทรงจำเก่าๆก็ยังติดอยู่ที่ตรงนี้ที่เรียกว่า จิตใจ ช่วงเวลาที่หลายคนเรียกมันว่า “จุดเปลี่ยน” วัยไหนๆหรือวันไหนๆก็มีจุดเปลี่ยนกันทั้งนั้นไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคต ที่จะเกินกับเราได้ เราทำได้ดีที่สุดเพียงเดินตามอย่างระมัดระวังเท่านั้น จุดเปลี่ยนนั้น ต่างศาสตร์ต่างความคิดกันไป ตามกฎหมาย แล้วเมื่อถึงอายุที่กำหนดก็จะเปลี่ยนสถานภาพ จากเด็กหญิงตัวเล็กๆ เป็นนางสาวเพียงข้ามวัน แล้วเปลี่ยนเด็กชายเป็นนายโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าตามระบบการศึกษาก็คือเปลี่ยนทุกปีที่จบการศึกษาคือปีก่อนยังเป็นนักเรียนชั้นม.5 แล้วปีนี้ไหนกลายเป็นชั้นม.6 แล้ว รวดเร็ว เหลือเกิน สิ่งที่ผ่านมาสอนอะไรเราบ้าง ทั้งความสุข ความทุกข์ อารมณ์เหงา ดีใจ ซาบซึ้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนสอนเราผ่านคำว่ามิตรภาพ ท้งนัน หลายคนอาจเจอมิตรภาพที่ดีมาโดยตลอด กับอีกบางคนที่เจอแต่มิตรภาพที่หลอกลวงอยู่ตลอดเช่นเดียวกัน คนเคย กล่าวว่าเพื่อนเป็นกระจกส่องถึงตัวเรา ก็เหมือนเราอยู่ใกล้ใครคนคนนั้นก็จะเริ่มเปลี่ยน เราก็เริ่มเปลี่ยน จนคล้ายจะเป็นคนที่มีนิสัย ใจคอเดียวกันไปซะแล้ว หากเราเจอแต่เพื่อนที่ดี มิตรภาพที่ยั่งยืน ตัวเราเองก็มีความสุขไปด้วย แต่บางคนเจอเพื่อนที่ดีกลับผลักไส เขาออกห่างจากชีวิตด้วยทิฐิ ต่างๆที่มันเกิดขึ้นกับจิตใจเราด้วยคิดว่าเขาต่างเรา เข้ากันไม่ได้หรอก แล้วเหตุผลสารพัดมารวมกันโดย มิได้นัดหมาย จนสิ่งๆนั้นได้หลุดลอยออกไปจากชีวิต แล้วมันก็เกิดจุดเปลี่ยนตามสถานะภาพของมัน เพื่อนสัมพันธภาพตัดกันไม่ขาด คำนี้ไม่มีใครเถียง แต่บางทีเพื่อนที่ต้องการเวลาในการรักษาจิตใจที่บอบช้ำเหมือนกัน มิตรภาพไม่ได้มีแค่สิ่งสองสิ่งรอบตัวเราแต่มันเป็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเรา เราลองมองแล้วคิดทบทวนให้เวลากับคำว่า มิตรภาพรอบตัวของเราให้มากกว่านี้ ให้ความเข้าใจ เห็นความเป็นไปเท่านั้น แล้วเชื่อว่าอนาคตหรือทุกวันก็เป็นวันที่เราจะก้าวย่าง ไปข้างหน้าพร้อมความมั่นใจ ด้วยกำลังใจจาก “มิตรภาพ” (ปรนันท์ สีบพิมพา, JANUARY ๑๖, ๒๐๑๒)

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
ภาษาไทย มัธยมต้น

อันนี้ตอบอะไรคะ

อ่านข้อความที่กำหนด แล้วตอบคำถามข้อ 15 ก. การออกกำลังกายมีหลายวิธี เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ เล่นฟุตบอล ข. โรคภัยไข้เจ็บมักเกิดกับคนที่ไม่ออกกำลังกาย ค. อย่าลืมดูแลร่างกายของคุณด้วยการออกกำลังกาย ง. สาเหตุส่วนหนึ่งของโรคบางชนิดเกิดจากการไม่ออกกำลังกาย 15. ข้อใดเรียงลำดับการพูดรายงานที่เหมาะสมที่สุด 1) ง ข ค ก 3) ค ง ข ก 2) บ ง ก ค 4) ข ค ง ค 16. โรงเรียนรักษ์ภาษาไทยจัดการเลือกตั้งประธานนักเรียน พรรคต่าง ๆ พยายามเสนอนโยบาย ของตนเอง นักเรียนคิดว่าพรรคใดน่าเชื่อถือที่สุด 1) พรรครักโรงเรียน “เลือกพรรครักโรงเรียน โรงเรียนจะก้าวไกล พัฒนากว่าโรงเรียนใด ๆ เราจะช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน 2) พรรครักวินัย “พรรครักวินัยพร้อมจะสนับสนุนทุกคนให้เป็นคนดี มีวินัยตั้งใจเรียน ทุกวันเที่ยงตรงอย่าลืมมาฟังนิทานจากพี่ ๆ ที่ลานโพธิ์ 3) พรรครวมพลัง “สามัคคีคือพลัง พรรคเราเน้นความสามัคคี เราจะร่วมใจกันทำงาน ช่วยกันรักษาความสะอาด โรงเรียนจะสะอาดด้วยมือเรา 4) พรรคเสียสละ “เน้นความเสียสละ มีจิตสาธารณะ เราจะช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกัน บนพื้นฐานความประหยัดและพอเพียง เย็นนี้พบกันที่ซุ้มกระดังงา 17. ข้อใดไม่เป็นการพูดโน้มน้าวใจอย่างมีเหตุผล 1) อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน จิตใจอาวรณ์มาเล่าสู่กันฟัง 2) สมัครสมานร่วมใจกันสามัคคี คงจะไม่มีใครกล้าราชาติไทย 3) รักกันไว้เถิดเราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิดภาคไหนไหนก็ไทยด้วยกัน 4) เมืองไทยใหญ่อุดมดินดีสมเป็นนาสวน เพื่อนรักเราชักชวนร่วมช่วยกันมุ่งหมั่นทำ 18. ข้อใดเรียงลำดับคำตามพจนานุกรมได้ถูกต้อง 1) บุษราคัม บุษยมาส บุพชาติ บุรพทิศ 2) ราชพฤกษ์ ราชบัณฑิต ราชทัณฑ์ ราชภัฏ 3) พรรณนา พรหมชาติ พฤกษชาติ พลพรรค 4) จันทรกานต์ จันทรคราส จันทรคติ จันทรวงศ์

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
PromotionBanner
ภาษาไทย มัธยมต้น

บอกการบ้านหน่อยค่ะ

|กิจกรรมที่ ๒,4 ให้นักเรียนนำอักษรทางขวามือใส่ลงหน้าข้อความให้ถูกต้อง สัมพันธ์กัน (ท ๒๑ ม.๗๓) ๕ ก. คำนำที่ตั้งเป็นคำถาม ข. คำนำที่ให้คำจำกัดความ ค. คำนำที่ขึ้นต้นด้วยหลักธรรม 4. คำนำที่ยกคำพูดของ บุคคลสำคัญมากล่าว จ. คำนำที่เป็นบทกวีหรือสุภาษิต ฉ. คำนำที่นำด้วยสิ่งที่จะกล่าว ต่อไปในเนื้อเรื่อง ๑, จริยศึกษา ความหมายตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ให้ ไว้ว่า การศึกษาเกี่ยวกับความประพฤติ และปฏิบัติตนเพื่อให้อยู่ในแนวทางของ ศีลธรรมและวัฒนธรรม ๒. วิริเยน ทุกขมเจติ คนเราล่วงทุกข์ได้ เพราะความเพียร ๓. ปัญหาข้อแรก คือคำว่า "ไทย" แปลว่า กระไร? (หลวงวิจิตรวาทการ : งานค้นคว้า เรื่องของชาติไทย) อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี ๔. พฤษภักาสร ๕. ประเทศไทยมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยาน แห่งชาติภูกระดึง ๒๗

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
สังคมศึกษา มัธยมปลาย

ติดตามตอนต่อไป

บุคคลชั้นนำในสังคมทุกวันนี้ ล้วนเคยสอบตกมาก่อน คุณค่าของคนเรามิได้อยู่ที่สมองดีหรือไม่ แต่อยู่ที่ยอมใช้ สมองหรือไม่ต่างหาก" กล่าวเสียดสีผมเช่น์ คุณสมบัติเป็นที่ปรึกา อาจเป็นเพราะหนังสือเล่มนี้กระตุ้นความสนใจบางอย่าง ผมจึง เริ่มรู้สึกว่า "ความโง่เป็นคุณสมบัติที่ฝึกได้ยาก แต่มีค่ามากและ สามารถฝึกสำเร็จหากพยาบาม" . ผมพบคำ ๆ หนึ่งในพจนานุกรมสุภาษิต ซึ่งก็ดีอคำว่า "คนโง่ อวดฉลาด คนฉลาดแสร้งโง่" ที่เร้าความสนใจของผมอย่างรุนแรง ต้นทศวรรษที่ 1970 ขณะที่ผมกำลังลำบากใจว่าจะลาออกจาก บริษัทโฆษณาเคนสี ไปตั้งบริษัทที่ปรึกษานักธุรกิจดีหรือไม่นั้น บังเอิญ ได้อ่านบทความชิ้นหนึ่งของคุณมัตสุชิตะ เทพแห่งนักบริหาร ซึ่งมีความ ตอนหนึ่งว่า การบริหารนั้นมิใช่เรื่องยาก คล้ายกับที่เราต้องกางร่มเวลา ฝนตก ก็เท่านี้แหละ" น พักนแ . กครั้งหนึ่ง ผมเสนอคำรายงานฉบับหนึ่งแก่บริษัท H ซึ่งเป็น บริษัทขนาดกลาง ตอนนั้น กรรมการผู้จัดการบริษัท H พูดกับผมว่า โคุณมาพูดเหตุผลอันยิ่งใหญ่ที่เข้าใจลำบากในบริษัทขนาด กลางอย่างเรา มีประโยชน์อะไร?" 002. แมาผมถึงกับนิ่งอึ้งพูดไม่ออก ในใจก็คิดว่า ผมพยายามอธิบายให้ เข้าใจง่ายที่สุดแล้ว ก่อนหน้านั้น 5-6 สัปดาห์ ผมเสนอโครงการหนึ่ง แก่บริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งในโตเกียว ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับ ด้วยดี บริษัท H แตกต่างกับบริษัทดังกล่าวมาก ซึ่งผมทราบดีอยู่แล้ว จึงคิดตลอดเวลาว่าต้องพยายามเสนอคำรายงานให้เข้าใจง่ายที่สุด สำหรับบริษัท H แต่คาดไม่ถึงว่ากรรมการผู้จัดการบริษัท H ยังคง การเปิด ชนาดกลางและขา ตำหนิผมว่า เห จะทำอย่างไร ผมรู้สึก ระหว่างนั่งรถ คำพูดของคุณ ของผมเอง ก มัตสุชิตะสาม คิด กาล ท่านเด เจริญตลอบ ก็เป็นควา ตำนานขอ กว่า! 14

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
สังคมศึกษา มัธยมต้น

ฮือออช่วยเค้าหน่อยได้มั้ยคะคือเค้าไม่รู้เลยเลย(╥﹏╥)

8 ธาตุ ตามพจนานุกรมหมายถึง สิ่งที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่คุม (ประกอบ)กันเป็นร่างของสิ่งทั้งหลาย โดยทั่วๆไป เชื่อว่ามี 4 ธาตุ ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ให้นักเรียนวิเคราะห์ กรณีตัวอย่างที่กำหนดให้นี้ ตามหลักเบญจขันธ์ ต้นพบเห็นแหวนเพชรแล้วรู้สึกว่าสวยดีสามารถจำได้ว่าเป็นทรง กลมแวววาวแล้วเกิดแรงจูงใจความอยากได้ให้เอื้อมมือไปหยิบมาทั้งที่ ไม่ใช่ของตนเอง 1. แหวนเพชร เป็น. 2. ต้นพบเห็นแหวนเพชร หมายถึง 3. รู้สึกว่าสวยดี หมายถึง 4. สามารถจำได้ว่าเป็นทรงกลมแวววาว หมายถึง 5. เกิดแรงจูงใจอยากได้แล้วเอื้อมมือไปหยิบ หมายถึง

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
ภาษาไทย มัธยมปลาย

ภาษาไทย ม.4ช่วยหาคำตอบหน่อยค่ะ🙏

ใบงานวิชาภาษาไทย ชั้น ม.๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย แบบทดสอบหน่วยที่ ๑ คำชี้แจง : จงทำเครื่องหมาย X ทับตัวอักษร ก ข ค หรือ ง ข้อที่ถูกต้องที่สุด เรื่อง การพูดแนะนำตนเอง ข้อใดเป็นขั้นตอน การพูดแนะนำตัวเอง ก. บอกชื่อ ค. ตุ่มพูดวกวนไปมาจนเพื่อนไม่อยากฟัง แต่ก็พูดไป เรื่อยโดยไม่สนใจผู้ฟังเรียน ง. ข้าวฟ่างมีสีหน้าไม่พอใจเมื่อเพื่อนยกมีอถามในขณะที่ อภิปรายหน้าชั้น ผลงานดีเด่น สกุล ข. บอกชื่อ ค. บอกชื่อ สกุล ประวัติส่วนตัว สถานที่ทำงาน สกุล ง. บอกชื่อ สกุล ความสามารถพิเศษ เรื่อง การแปลความ ตีความ และขยายความ ๖. คำว่า "ฝน" ในข้อใดมีความหมายต่างจากข้ออื่น ก. ในวันที่ฝนตก ไหลลงที่หน้าต่าง เธอคิดถึงฉันบ้าง ๒. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของการฝึกพูด ก. ทำให้เป็นผู้รู้รอบ ข. รู้จักการใช้น้ำเสียง ค. พูดได้เป็นธรรมชาติ ง. ฝึกการเรียบเรียงความคิด ไหมหนอคนดี ข. ฟ้าเริ่มมีดครื้มในความคิด เสียงฟ้าร้องดังในทหัว และฝนก็ตกลงมาในใจผม ค. บางทีฝนคงหลั่งน้ำตาให้ฉันจริง ๆ ก็ได้ ในวันที่ไม่ มีใคร เห็นเพียงแต่สายฝนนี่แหละเป็นเพื่อน ง. บนเตียงหลังใหญ่ ผ้านวมผืนหนากับเธอข้าง ๆ กาย พร้อมเสียงดนตรีที่บรรเลงจากสายฝนนอกหน้าต่าง ใช้ตัวเลือกที่กำหนดให้ ตอบคำถามข้อ ๓ ๑. ซักซ้อมการพูดและการใช้ภาษา ๒. กำหนดขอบข่ายของเรื่องที่จะพูด กำหนดเรื่องและจุดมุ่งหมายที่จะพูด ๔. เตรียมเนื้อหาและลำดับเรื่องที่จะพูด ๓. การเตรียมการพูดที่ดีควรมีลำดับอย่างไร ๓. ๗. ใครจะเชื่อล่ะ ว่าวันหนึ่งหมาข้างถนนจน ๆ แบบผม จะเอื้อมเด็ดดอกฟ้าได้จริง ๆ " ข้อความนี้ มีความหมาย ใกล้เคียงข้อใด ก. ๑๒ ๓ ๔ ก. ข้าได้ข่าวมาว่าอีเย็น บ่าวเรือนท่านเจ้าคุณถูกเฉด ข. ๑ ๓ ๒ ๔ หัวออกจากเรือนแล้วนะ ค. ๓ ๒ ๔๑ ข. พ่อพลายงามกำลังจะแต่งงานกับแม่ศรีมาลา สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก ค. นั่นมันนางเรณู สาวตาคลีนี่นา ฉันได้ข่าวแว่วๆ ว่า เจ้าหล่อนพยายามจะจับลูกชายคนโตของแม่ย้อย ง. เพราะความดีของอารยาจริง ๆ เลยนะ ที่ทำให้ คุณย่าสมหญิงยอมรับเป็นหลานสะใภ้ ทั้งที่เธอเป็นแค่ เด็กกำพร้าคนหนึ่งเท่านั้น ง. ๓ ๑ ๒ ๔ ๔. ใครปฏิบัติตนได้เหมาะสมที่สุดก่อนขึ้นพูดแนะนำ ตนเอง ก. นทีหาตัวอย่างเพื่อใช้ประกอบเนื้อหา ข. กันแก้ไขคำที่สะกดผิดในบทพูดของตน ค. ธิดาไม่อ่านเนื้อหาแต่จดบทพูดไว้ดูขณะพูด ง. มายทำสมาธิและตรวจความเรียบร้อยของเครื่อง ๔. ใครสามารถตีความเรื่องที่อ่านได้เหมาะสมมากที่สุด ก. ปรมินทร์เตรียมพจนานุกรมไว้สำหรับเปิดหา คำศัพท์ที่ไม่รู้โดยเฉพาะ ข. วาริศพิจารณาเนื้อเรื่องจากประวัติผู้แต่งว่าผู้แต่ง มักเขียนเรื่องประเภทใด ค. เดือนหยาดพิจารณาน้ำเสียง การเปรียบเทียบ แต่งกาย ๕. บุคคลใดปฏิบัติตามหลักมารยาทในการพูดได้อย่าง เหมาะสม ก. กั้งอมลูกอมเวลาพูด เพื่อช่วยให้ชุ่มคอ เสียงไม่แห้ง ข. เมยพูดได้ไม่ค่อยประทับใจ แต่พูดได้เต็มเวลาที่ครู เพื่อหาความหมายที่ปรากฏในเรื่อง กำหนด ง. พิลาสลักษณ์สรุปความหนังสือแต่ละหน้า เพื่อหา ว่ามีประเด็นใดที่น่าจะต้องอาศัยการตีความ

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
1/3