ชั้นปี

ชนิดของคำถาม

ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัย

Present Perfect Continuous

9 Present Perfect Continuous (I've been cooking) 3 Here are some more examples: 1 We form the Present Perfect Continuous in this way: POSITIVE I/you/we/they have/'ve He/she/it been cooking. has/'s S NEGATIVE 1/you/we/they haven't He/she/it hasn't QUESTIONS Have 1/you/we/they he/she/it Has been cooking. }been cooking? (For details about -ing forms see Table C, on page 95.) 2 We use the Present Perfect Continuous for an action or situation that began in the past and continues until now: You're late! I've been waiting for you. We often use for and since with the Present Perfect Continuous. We use for with a period of time, and since with a point in time: I've been waiting for you for two hours. I've been waiting for you since 6 o'clock. PAST NOW Julia has been talking on the phone for an hour. (= She started talking on the phone an hour ago and she is still talking.) You've been sitting there since I o'clock. (= You started sitting there at one o'clock and you are still sitting there.) 4 We use the Present Perfect Continuous for actions that are done many times in a period. of time from the past until now: She's been having driving lessons for a couple of months. (= She started a couple. of months ago; she is still having lessons.) I've been playing tennis since I was a small child. 5 We can use How long with the Present Perfect Continuous: How long have you been living here? Practice A Write a sentence for each of the following situations, using the Present Perfect Continuous and for or since. 0 She started her course a month ago and she is still doing it. She has been doing her course for a month. 0 I started reading this novel last weekend and I'm still reading it. I have been reading this novel since last weekend. 1 It started raining at 3 o'clock and it is still raining. 2 He started playing chess when he was 10 and he still plays it. 3 I started work at 8 o'clock and I'm still working. 4 Helen started looking for another job two months ago and she's still looking. 5 We arrived here two hours ago and we're still waiting. B Put for or since into the gaps. 0 I've been working in this office since 1 Have you been doing this course 2 I've been driving this car 3 She has been planning the party 4 George has been telling the same stories 5 We've been waiting for a reply 6 What have you been doing. 7 You've been writing that letter 8 He's been feeling ill phone to someone all afternoon. a few days. C Complete these dialogues by putting the verbs in brackets ( ) into the Present Perfect Continuous. last summer. a long time? more than ten years. A: When did you arrive in London? B: Two weeks ago. A: Where have you been staying B: 1¹ But I am going to move to my own flat.next week. A: Hallo. What are you doing here? B: I'm waiting to see the manager. I 2 (wait) for half an hour. A: She's very busy. She 2 A: I didn't know that you could play the piano. B: Oh yes, I rain save study read make learn watch play the beginning of the month. several years. we wrote to them last week. the last time that I saw you? more than two hours. 0 She has been learning. 1 It 2 We 3 4 1 Wendy A: How long B: I started looking immediately after I lost my old job. I 6 5 We 6 The people next door. 7 I (you/stay)? (stay) with some friends in their flat. D Choose the best verb from the box to complete each sentence. Use the Present Perfect Continuous form of the verb. (talk) on the (have) piano lessons for a year. (you/look) for a job? (apply) for jobs for about six months. Spanish for six months. for hours; the roads are very wet. this game for hours. Let's stop! French at school for three years. this book for months, but I haven't finished it yet. this programme for hours. a lot of noise all day. my money for a holiday.

ยังไม่เคลียร์ จำนวนคำตอบ: 1
ชีววิทยา มัธยมปลาย

ช่วยหาคำตอบหน่อยครับ

จงใช้แผนภาพการย่อยสารอาหารจากแผนภาพ A, B และ C ในการตอบคำถาม แผนภาพ A g MLUMMIT การย่อยที่ลำไส้เล็ก แผนภาพ C -E F HOOC NH2 1. จากแผนภาพ A, B และ C สาร ........ และ 2. จากแผนภาพ C 2. น่าจะเป็นสารใดได้บ้าง เพราะเหตุใด HOOC 3. จากแผนภาพ A สาร... ส่งผลให้ได้โมเลกุลใดบ้าง ก็โมเลกุล น่าจะเป็นสารใด ตามลำดับ NH2 HOOC 5. สามารถพบการย่อยในแผนภาพ A ได้ในส่วนใดของระบบย่อยอาหาร 4. การย่อยอาหารในแผนภาพใด จะต้องผ่านเกลือน้ำดีก่อน ถึงจะเข้ากระบวนการย่อยในแผนภาพดังกล่าวได้ สังเกตจากสิ่งใด NH2 6. แผนภาพ B หากทำการย่อยไปเรื่อย ๆ จนได้โมเลกุลที่เล็กที่สุด โมเลกุลนั้น น่าจะเป็นสารอะไร

ยังไม่เคลียร์ จำนวนคำตอบ: 1
PromotionBanner
การบัญชี มหาวิทยาลัย

คำตอบคืออะไร

การบ้าน - กิจการประกอบธุรกิจนำเข้ารองเท้า ตั้งวัตถุประสงค์เพื่อเป็นผู้นำด้านร้องเท้าแฟชั่น และ ต้องการส่วนแบ่งตลาด 35% ท่านคิดว่ากิจการจะเผชิญความเสี่ยงอะไร และกิจการควร บริหารความเสี่ยงได้อย่างไร ให้ท่านอธิบายโดยใช้กรอบการบริหารความเสี่ยงของโคโซ่ โดยท่านอาจสมมติข้อมูลได้ตามสมควร การบ้าน - ให้กําหนดวิธีการตอบสนองต่อความเสี่ยงที่เหมาะสมและอธิบายถึงเหตุผลของการเลือก วิธีตอบสนองความเสี่ยงสำหรับกรณีต่อไปนี้ 1. พฤติกรรมาของลูกค้าในตลาดเปลี่ยนแปลงไป 2. รัฐบาลเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรขาเข้าวัตถุดิบที่กิจการใช้ในการผลิตสินค้า 3. ผู้บริหารตัดสินใจนำระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการผลิตสินค้า 4. สินค้าที่ผลิตไม่ได้คุณภาพ 5. ผู้ขายวัตถุดิบของกิจการอยู่ในต่างประเทศทั้งหมด

ยังไม่เคลียร์ จำนวนคำตอบ: 1
ชีววิทยา มัธยมปลาย

ช่วยหน่อยค่ะหาไม่ได้จริงๆขอบคุณค่ะ

ระบบย่อยอาหารของสิ่งมีชีวิต : การย่อยอาหารของมนุษย์ (Human digestive system) จงใช้แผนภาพการย่อยสารอาหารจากแผนภาพ A, B และ C ในการตอบคำถาม 8 แผนภาพ B แผนภาพ C CHOOC 1. จากแผนภาพ A, B และ C สาร A. 2. จากแผนภาพ C NHZ 3. จากแผนภาพ 4 สาร และ น่าจะเป็นสารใดได้บ้าง เพราะเหตุใด การย่อยที่ลำไส้เล็ก HOOC ส่งผลให้ได้โมเลกุลใดบ้าง ก็โมเลกุล น่าจะเป็นสารใด ตามลำดับ NH2 HOOD NH2 4. การย่อยอาหารในแผนภาพใด จะต้องผ่านเกลือน้ำดีก่อน ถึงจะเข้ากระบวนการย่อยในแผนภาพดังกล่าวได้ สังเกตจากลั่งใด 5. สามารถพบการย่อยในแผนภาพ 4 ได้ในส่วนใดของระบบย่อยอาหาร 6. แผนภาพ B หากทำการย่อยไปเรื่อย ๆ จนได้โมเลกุลที่เล็กที่สุด โมเลกุลนั้น น่าจะเป็นสารอะไร

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย

ช่วยสรุป แล้วก็ทำเป็นข้อๆให้หน่อยได้มั้ยคะ🙏🏻

dtac-T.Better Together 13:36 บทบัญญัติที่ 4 : คนตอบสนอ cdn.fbsbx.com 4 44%E เรียบร้อย สนองต่อสิ่งจูงใจ เนื่องจากคนตัดสินใจโดยเปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์ ดังนั้น พฤติกรรมของคนจึงเปลี่ยนเมื่อ โครงสร้างต้นทุนและผลประโยชน์เปลี่ยนไป นั่นคือ คนตอบสนองต่อสิ่งจูงใจ นั่นเอง เมื่อราคาแอปเปิลสูงขึ้น คนก็ตัดสินใจซื้อลูกแพร์มากขึ้น ซื้อแอปเปิลน้อยลง เพราะต้นทุนในการได้มาซึ่งแอปเปิลสูงขึ้น ใน ขณะเดียวกัน ชาวสวนแอปเปิลตัดสินใจจ้างคนงานมากขึ้น และปลูกแอปเปิลมากขึ้น เนื่องจาก ผลประโยชน์ จากการขายแอปเปิลสูงขึ้น บทบาทหลักของสิ่งจูงใจในการกำหนดพฤติกรรมมีความสำคัญสำหรับการออกแบบ นโยบายของรัฐ(Public Policy) นโยบายของรัฐมักเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต้นทุนและผลประโยชน์ของกิจกรรม ภาคเอกชน เมื่อผู้กำหนดนโยบายล้มเหลวในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แสดงว่านโยบายรัฐอาจก่อให้เกิดผลที่ ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ตัวอย่างของผลที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจจากนโยบายของรัฐ เช่น นโยบายว่าด้วยเข็มขัด นิรภัยและระบบป้องกันความปลอดภัยรถยนต์ ในทศวรรษ 1950 รถที่มีเข็มขัดนิรภัยมีจํานวนน้อย ต่างจากใน ปัจจุบันที่รถทุกคันล้วนมีเข็มขัดนิรภัย เหตุผลของการเปลี่ยนแปลงก็เพราะ "นโยบายของรัฐ" นั่นเอง ในช่วง ปลายทศวรรษ 1960 หนังสือของ Ralph Nader ที่ชื่อ “Unsafe at Any Speed” ก่อให้เกิดกระแสเกี่ยวกับความ ปลอดภัยของรถยนต์ รัฐสภาสหรัฐอเมริกาออกกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องสร้างอุปกรณ์รักษาความ ส่ ปลอดภัย ซึ่งหมายถึงรถทุกคันต้องมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างเข็มขัดนิรภัยด้วย กฎหมายเข็มขัดนิรภัยกระทบ ความปลอดภัยของรถยนต์อย่างไร ? ผลทางตรงในเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้ามีเข็มขัดนิรภัยในรถทุกคัน คนก็คาด เข็มขัดนิรภัยกันมากขึ้น และโอกาสที่จะรอดจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่มีมากขึ้น ในแง่นี้ เข็มขัดนิรภัยช่วยรักษาชีวิต ผลดีทางตรงด้านความปลอดภัยนี้จูงใจให้รัฐสภาออกกฎหมายดังกล่าว แต่การทำความเข้าใจผลทั้งหมดของ กฎหมายต้องตระหนักว่า คนเปลี่ยนพฤติกรรมโดยตอบสนองสิ่งจูงใจที่เขาเผชิญอยู่ พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องใน กรณีนี้คือการขับรถเร็วและความระมัดระวังในการขับรถ การขับรถช้าและระมัดระวังมีต้นทุนเพราะสิ้นเปลือง เวลาและพลังงาน เมื่อผู้ขับขี่ที่มีเหตุมีผลตัดสินใจว่าจะขับรถอย่างปลอดภัยเพียงใด ก็จะเปรียบเทียบ ผลประโยชน์ส่วนเพิ่มจากการขับรถอย่างปลอดภัยกับต้นทุนส่วนเพิ่ม เขาจะขับรถช้าและระมัดระวังเมื่อ ผลประโยชน์จากการเพิ่มความปลอดภัยสูงกว่า นี่เป็นการอธิบายว่าทำไมคนถึงขับรถช้าและระมัดระวังขณะ ถนนลื่นมากกว่าสภาพถนนปกติ หากเราพิจารณาว่าการออกกฎหมายให้คาดเข็มขัดนิรภัยเปลี่ยนแปลงการ คำนวณต้นทุนและผลประโยชน์ของผู้ขับขี่ที่มีเหตุมีผลอย่างไร ? พบว่าเข็มขัดนิรภัยทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าอุบัติเหตุ มีต้นทุนต่ำลงเพราะการคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยลดความน่าจะเป็นในการบาดเจ็บและล้มตาย ดังนั้น เข็มขัดนิรภัย ลดผลประโยชน์จากการขับรถช้าและระมัดระวังลง ผู้ขับขี่ก็ตอบสนองต่อการใช้เข็มขัดนิรภัยโดยขับรถเร็วขึ้น และลดความระมัดระวังในการขับขี่ลง ผลสุดท้าย กฎหมายเข็มขัดนิรภัยทำให้จำนวนอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น 5 แล้วกฎหมายกระทบจำนวนคนตายจากการขับขี่อย่างไร ? ผู้ขับขี่ที่คาดเข็มขัดนิรภัยอาจมีโอกาสรอดชีวิตมาก ขึ้นจากอุบัติเหตุแต่ละครั้ง แต่โอกาสเกิดอุบัติเหตุอาจเพิ่มจำนวนมากครั้งขึ้น จำนวนคนตายสุทธิในประเด็นนี้ยัง ไม่ชัดเจน ยิ่งกว่านั้น การที่ผู้ขับขี่เลือกลดความระมัดระวังในการขับขี่ลงส่งผลกระทบทางลบต่อคนเดินถนน (และผู้ขับขี่ที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย) เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุของคนเหล่านี้สูงขึ้นและไม่ได้รับการป้องกัน จากเป็นข้อมกัน ดังนั้น จอมมายว่าด้วยเข็มขัดนิรฉันมีแนวโน้มทำให้จำนวนการตายของคนเดินถนนเพิ่มสูงขึ้น 3

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
1/15