ノートテキスト

ページ1:

ECOSYSTEM
สภาพแวดล้อม (environment)
สภาพแวดล้อมในแต่ละที่มีความแตกต่างกันเช่น ทะเล ภูเขา ป่าไม้ แต่ละสภาพแอดล้อม
จะพบสิ่งมีชีวิตอาศัยร่วมกันในรูปแบบต่างๆ และมีปฏิสัมพันธ์กันสิ่งไม่มีชีวิต
ประชากร (population)
คือสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่อยู่เดียวกันในช่วงเวลาหนึ่ง
กลุ่ม ง ช ด community
คือ ประชากรของสิ่งมีชีวิตหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในแหล่งที่อยู่เดียวกันและมีความสัมพันธ์กัน
ระบบนิเวศ (ecosystem)
ระบบสิ่งมีชีวิตต่างๆ อาศัยในแหล่งที่อยู่เดียวกัน มีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
และมีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแอดล้อม
ระบบนิเวศน์ประกอบด้วย
.
• องค์ประกอบที่มีชีวิตเช่น พืช สัตว์
• องค์ประกอบที่ไม่มีชีวิตเช่น แอกตุ แสง ฯ อากาศ
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเทศ
ผู้ผลิต ( producer)
คือสิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารได้เองโดยใช้กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงเช่น พืช สาหร่าย
ผู้บริโภค
PLC consumer)
คือสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถสร้างอาหารได้เอง ต้องกินสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร เช่น มนุษย์ สัตว์ต่างๆ
ผู้บริโภคสามารถแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1. สิ่งมีชีวิตกินพืช ( herbivore คือสิ่งมีชีวิตที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น วัว ช้าง ม้า
ประชากรดอกไม้
แหล่งที่อยู่
+
+
ประชากรหญ้า
ประชากรมด
+
ประชากรนก
+
กลุ่มสิ่งมีชีอิต
ประชากรกระต่าย
โซ่อาหาร c food chain)
คือการถ่ายทอดพลังงานที่อยู่ในอาหารไปตามลำดับโดย
การกินต่อกันเป็นทอดๆ
ผู้ผลิต
2. สิ่งมีชีวิตกินสัตว์ c carnivore) คือสิ่งมีชีวิตที่กินสัตว์เป็นอาหาร เช่น เสือ สิงโต
บริโภคลำดับที่ 1
3. สิ่งมีชีวิตที่กินพืชและสัตว์ (Omnivore) คือสิ่งมีชีวิตที่กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร เช่นไก่
4. สิ่งมีชีวิตกินซาก (scavenger) คือสิ่งมีชีวิตที่กินซากของสิ่งมีชีวิตเป็นอาหารเช่น แรง
ผู้ย่อยสลายสารอินทรีย์ (decomposer)
ทำหน้าที่ย่อยสลายสิ่งมีชีจิตที่ตายลง โดยผลิตเอนไซม์ออกมาย่อยสลายสิ่งมีชีอัดให้เป็นสารอาหารที่มีขนาดโมเลกุล
เล็กลง แล้วดูดซึมสารอาหารไปใช้เพียงบางส่วน ส่วนที่เหลือจะอยู่ในสิ่งแวดล้อม ผู้ย่อยสลายอินทรีย์เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย
ผู้บริโภคลำดับที่ 2
A
ผู้บริโภคลำดับที่ 3
(ลำดับสุดท้าย 2

ページ2:

สายใยอาหาร (food web)
ในธรรมชาติ อาจมีผู้ผลิตมากกว่าหนึ่งชนิดและมีผู้บริโภคที่สามารถกินพืชได้หลายชนิด
ในขณะเดียวกันผู้บริโภคชนิดหนึ่งอาจเป็นอาหารของผู้บริโภคได้หลายชนิด
เราเรียกความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในการถ่ายทอดพลังงานในโซ่อาหารหลายสายสายสัมพันธ์
ที่ซับซ้อนนี้ว่า สายใยอาหาร
การลดลงของพลังงาน
Kite
Lion
Jackal
Wild
Cele
Owl
Rabbit
Goat
Snake
Mouse
Green Plant
10 kcal
1,000 kcal
10,000 kcal
100,000 kcal
การถ่ายทอดพลังงาน (energy flow)
ในการถ่ายทอดพลังงานระหว่างสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ พลังงานจากผู้ผลิตที่ถ่ายทอด
ไปยังผู้บริโภคลำดับถัดไปตามลำดับขั้นของการบริโภค เนื่องจากผู้บริโภคกินได้เพียง
บางส่วน ส่วนที่กินได้นั้นผู้บริโภคจะนำไปใช้ในการเจริญเติบโตและเผาผลาญเพื่อ
ผลิตพลังงานสำหรับใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ของร่างกาย และพลังงานอีกส่วนหนึ่งเสียไป
ในรูปแบบของความร้อน
การสะสมสารพิษ (accumulation of toxins)
ปริมาณสารพิษที่จะสะสมในสิ่งมีชีวิตจะเพิ่มขึ้นตามลำดับขั้นของการบริโภค
เนื่องจากผู้บริโภคลำดับที่สูงกว่าจะกินผู้ผลิตหรือ ผู้บริโภคลำดับต่ำกว่าในปริมาณมาก
พื่อให้ได้รับพลังงานเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต การสะสมสารพิษนั้น
จะก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต หากมีสารพิษสะสมเป็นจำนวนมากจะทำให้
สิ่งมีชีวิตนั้นตายลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆในระบบนิเวศ
และอาจทำให้ระบบนิเวศเสียสมดุลได้
"
ppm ย่อมาจาก part per million
หมายถึงหนึ่งส่วนในหนึ่งล้านส่วน
19.8 ppm
2.01 ppm
0.23 ppm
0.04 ppm
ปริมาณสารพิษสะสม

ページ3:

ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต crelationship of livingthings)
สิ่งมีชีวิตต่างๆที่อยู่ร่วมกันในระบบนิเวศจะมีปฏิสัมพันธ์กันลักษณะต่างๆ มีทั้งได้ประโยชน์
เสียประโยชน์ และไม่ได้ไม่เสียประโยชน์
จะพึ่งพากัน
ภาวะนัง า น cmutualism)
คือภาวะที่สิ่งมีชีวิตสองชนิดมาอยู่ร่วมกันโดยต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์
ภาวะปรสิต (parasite)
คือ ภาวะที่สิ่งมีชีวิตสองชนิดอยู่ร่วมกันโดยฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์
แต่อีกฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์โดยเรียกฝ่ายที่ได้ประโยชน์ว่าปรสิต
+ +
ภาวะล่าเหนือ ( predation)
คือภาวะที่สิ่งมีชีวิตบางชนิดที่อยู่ในแหล่งที่อยู่เดียวกัน จะมีการ
กินกันเป็นอาหารโดยฝ่ายนึงได้ประโยชน์และอีกฝ่ายจึงเสียประโยชน์
ภาวะอิงอาศัย (commensalism)
คือภาวะที่สิ่งมีชีวิตสองชนิดอยู่ร่วมกันโดยอีกฝ่ายได้ประโยชน์
อีกฝ่ายยังไม่ได้และไม่เสียประโยชน์
+-
กราฟความสัมพันธ์ของประชากรแมวป่ากับกระต่ายป่า
จำนวน (หนึ่งพันตัว)
120
100
A
75
.
.
80-
60
40
.
20
0
1885
.
.
1
.
.
T
.
.
+
1895 1905 1915 1925 1935 1945
+ O
ประชากรกระต่ายป่า
ประชากรแนวป่า
ความสัมพันธ์ของประชากร
(population relations)
ในธรรมชาติเมื่อผู้เพิ่มจำนวนมากขึ้นจะทำให้เหยื่อ
ซึ่งเป็นอาหารมีจำนวนลดลง หากผู้ล่ากินเหยื่อชนิดเดียว
จะส่งผลให้ผู้ล่าขาดแคลนอาหารและเกิดการแข่งขัน
เพื่อแย่งอาหารระหว่างผู้ล่าด้วยกันเอง จึงทำให้ผู้ล่า
มีจำนวนลดลง
ปีค.ศ.

ページ4:

BIODIVERSITY
ความหลากหลายทางชีวภาพ มี 3 ระดับได้แก่ ความหลากหลายของระบบนิเวศ สิ่งมีชีวิตและ พันธุกรรม ซึ่งทั้ง 3 ระ
ระดับนี้มีความสัมพันธ์กันและไม่สามารถแยก
ออกจากกันได้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในระดับใดระดับหนึ่งจะส่งผลกระทบต่อความหลากหลายในระดับอื่นของระบบนิเวศด้วย
ความหลากหลายของระบบนิเวศ (ecosystem diversity)
เกิดจากการที่แต่ละระบบนิเวศมีองค์ประกอบที่แตกต่างกัน ทำให้ระบบนิเวศมีหลายแบบซึ่งมีลักษณะเฉพาะเช่น ทะเลทราย ป่าดิบชื้น มหาสมุทร
APATA
ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
( species diversity )
เกิดจากการที่มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดอาศัยอยู่ในระบบนิเวศหนึ่งๆ เช่น
ไทยมีระบบนิเวศที่หลากหลายมากกว่าประเทศซาอุดิอาระเบีย จึงทำให้
ไทยมีความหลายหลายของสิ่งมีชีวิตมากกว่า ดังนั้น ความหลากหลาย
ของสิ่งมีชีวิตขึ้นอยู่กับความหลากหลายของระบบนิเวศ
ความหลายทางพันธุกรรม
(genetic diversity)
การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสื่งมีชีวิต
สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งตามธรรมชาติ และ
การปรับปรุงพันธุกรรมโดยมนุษย์
important :
ระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทาง
ชีวภาพสูงจะรักษาสมดุลได้ดีกว่า
ระบบนิเวศที่มีความหลากหลาย
ทางชีวภาพต่ำ
จำนวน (ชนิด)
1,200,000
1,081,098
1,000,000
800,000
600,000
400,000
200,000
0
ไทย
6679732
ซาอุดิอาระเบีย
แผนภูมิเปรียบเทียบจำนวนสิ่งมีชีดที่พบในประเทศไทย และซาอุดิอาระเบีย ปี 2561
สิ่งที่ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ
ประเทศ

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น

News