บทที่2 เคที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต | ชีววิทยา ม.4
225
6684
0

มัธยมปลาย 1
꒰ ♡ เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ꒱
#คขข. = ความเข้มข้น
# นต. = น้ำตาล
# สมชว. = สิ่งมีชีวิต
ノートテキスト
ページ1:
CCC บทที่2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต สิ่งต่างๆรอบตัวประกอบด้วยอะตอม (atom) และธาตุต่างๆ อะตอมยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะเคมี(chemical bond) เกิดเป็นโมเลกุล 2.1 อะตอม ธาตุ และสารประกอบ 2.1.1 อะตอม • อะตอม ประกอบด้วยโปรตอน (ประจุ +) นิวตรอน(ไม่มีประจุ) อยู่ในนิวเคลียส และอิเล็กตรอน(ประจุ -) เคลื่อนอยู่รอบนิวเคลียส เลขมวล <- Proton + นิวตรอน 12 C -> สัญลักษณ์ ของธาตุ 6 เลขอะตอม <- จํานวน proton • เวเลนซ์อิเล็กตรอน (valence electron) อิเล็กตรอนที่อยู่ในระดับพลังงานนอกสุด 2.1.2 ธาตุและสารประกอบ . • ธาตุที่เป็นองค์ประกอบหลักของพืช คาร์บอน (C) 45% ออกซิเจน (N) 45% ไฮโดรเจน (H) 6% พันธะเคมี . • พันธะโคเวเลนต์ : ใช้ valence electron ร่วมกัน • พันธะไอออนิก ( *แข็งแรงสุด* 3 : การให้และรับ valence electron ระหว่างอะตอม เป็นการยึดเหนี่ยวระหว่างประจุไฟฟ้าของไอออนบวก(+) และไอออนลบ (-) • พันธะไฮโดรเจน { *อ่อนแอสุด* 3 : เกิดพันธะระหว่าง H กับ H เท่านั้น 2.2 น้ำ ( H,O ) . ร่างกายมนุษย์มีน้ำประมาณ 65 % • น้ำ มีบทบาทสำคัญในการรักษาดุลยภาพของร่างกาย หรือประมาณ2ใน3ของน้ำหนักตัว • โครงสร้างโมเลกุลของน้ำ - เป็นโมเลกุลมีขั้ว (polar molecule) โมเลกุลน้ำ ยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะไฮโดรเจน • น้ำกับการเป็นตัวทำละลาย - มีคุณสมบัติมีขั้วและเกิดพันธะไฮโดรเจนทำให้สามารถละลายน้ำได้ดีน้ำ จึงเป็นตัวทำละลายที่ดี • น้ำกับสารที่มีสมบัติไฮโดรฟิลิกและไฮโดรโฟบิก . - ไฮโดรฟิลิก (hydrophilic) : สารมีขั้ว = ละลายน้ำได้ดี = ชอบน้ำ เช่น NaCl (เกลือแกง) = - ไฮโดรโฟบิก (hydrophobic) : สารไม่มีขั้ว = ละลายน้ำได้น้อย = ไม่ชอบน้ำ เช่น น้ำมันพืช • น้ำกับความเป็นกรด-เบส - คบข. H, สูง : ค่า pH ต่ำ กรด - คบข. H4 ต่ำ/คบข. OH_ สูง : ค่า pH สูง = = เบส H,O - H* + OH M
ページ2:
W CCC บทที่2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต • น้ำกับแรงโคฮีซันและแรงแอดฮีชัน แรงโคฮีชัน (cohesion) : แรงยึดเหนี่ยวด้วยพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลของน้ำ - แรงแอดฮีชัน (adhesion) : แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลน้ำกับพื้นผิว 2.3 สารประกอบ Carbon ในสมชว. • หมู่ฟังก์ชัน : กลุ่มของอะตอมที่แสดงสมบัติเฉพาะในโมเลกุล - ไฮดรอกซิล [ __ OH J แหล่งที่พบ : คาร์โบไฮเดรต เช่น น้ำตาล 0 || : แอลกอฮอล์ - คาร์บอกซิล [ _ C _ OH ] แหล่งที่พบ : กรดแอมิโน || : ลิพิด เช่น กรดไขมัน - คาร์บอนิลกลุ่มคีโตน [ _ Ć _ ] แหล่งที่พบ : คาร์โบไฮเดรต เช่น ฟรักโทส ไรบูโลส 0 - คาร์บอนิลกลุ่มอัลดีไฮด์ [ _ C - H] แหล่งที่พบ : คาร์โบไฮเดรต เช่น ฟรักโทส ไรบูโลส - แอมิโน [ _ N _ H J แหล่งที่พบ : กรดแอมิโน ซัลฟ์ไฮดริล [ _ S _ H] แหล่งที่พบ : กรดแอมิโนบางชนิด เช่น ซิสเทอีน - ฟอสเฟต [ _O_P_O ] แหล่งที่พบ : ลิพิด เช่น ฟอสโฟลิพิด กรดนิวคลิอิก เช่น DNA RNA : ATP สารประกอบคาร์บอนขนาดใหญ่ ส่วนมากเป็นพอลิเมอร์ (polymer) ที่เกิดจากหน่วยย่อย เรียกว่า มอโนเมอร์ (monomer) หลายโมเลกุลเชื่อมต่อกันด้วยพันธะเคมี monomer polymer องค์ประกอบภายในcell นิวคลีโอไทด์ DNA chromosome กรดแอมิโน -> Protein กลูโคส แป้ง ไซโทสเกเลตอน เม็ดแป้งใน chloroplast
ページ3:
M CCC บทที่2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต 2.3.1 คาร์โบไฮเดรต • มอโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) มีขนาดโมเลกุลเล็กที่สุดมีรสหวานละลายในน้ำได้ - เพนโทส (pentose) : นศ.มีcarbon 5 อะตอม เช่น ไรโบส (ribose) ไรบูโลส (ribulose) - เฮ็กโซส (hexose) : นต.มีcarbon 6 อะตอม คาร์โบไฮเดรตแบ่งตามขนาดของโมเลกุล 1.) monosaccharide นต.โมเลกุลเดี่ยว 2.) disaccharide นต.โมเลกุลคู่ 3.) polysaccharide ขนาดใหญ่ ** สลล.เบเนดิกต์ใช้ทดสอบ น้ำตาล เช่น กลูโคส (glucose) ฟรักโทส (fructose) และกาแล็กโทส (galactose) • ไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) - - พันธะไกลโคซิดิก (glycosidic bond) : monosaccharide 2โมเลกุล เชื่อมด้วย พันธะโคเวเลนต์ = - ซูโครส (sucrose) : glucose + fructose ด้วยพันธะไกลโคซิดิก แบบ a - 1,2 - นต.ได้จาก อ้อย มะพร้าว และตาลโตนด →> = มอลโทส (maltose) : glucose + glucose ด้วยพันธะไกลโคซิดิก แบบ a - 1,4 -นต.ที่พบได้ใน มอลต์ (mal+) ** แล็กโทส (lactose) : galactose + glucose ด้วยพันธะไกลโคซิดิก แบบ B - 1,4 - นต.ที่พบได้ในน้ำนมของสัตว์ พอลิแซ็กคาไรด์ (polysaccharide) : monosaccharide หลายโมเลกุล เชื่อมกันเป็นสายยาว - แป้ง (starch) ประกอบด้วยโมเลกุล 2 แบบ คือ - อะไมโลส (amylose) : ละลายน้ำได้ไม่ดี : ข้าวเจ้า →>> : ** สลล.ไอโอดีน ใช้ทดสอบ แป้ง ** glucoseเรียงต่อเป็นสายยาว ไม่มีแตกแขนง เชื่อมด้วยพันธะไกลโคซิดิก แบบ a - 1,4 อะไมโลเพกทิน (amylopectin) : ลล.น้ำ > อะไมโลส : ข้าวเหนียว * glucoseเรียงต่อเป็นสายยาวและมีแตกแขนง ส่วนสายยาวเชื่อมด้วยพันธะไกลโคซิดิก แบบ a - 1,4 ส่วนที่แตกแขนงเชื่อมด้วยพันธะไกลโคซิดิก แบบ a - 1,6 เมื่อทำให้สุก มีลักษณะใสและเหนียว - ไกลโคเจน (glycogen) : เก็บสะสมในcellตับและกล้ามเนื้อของสัตว์ → glucoseต่อกันเป็นสายยาว มีแขนงแตกกิ่งก้านสั้นๆจน.มาก - เซลลูโลส : ไม่ละลายน้ำ แต่สามารถดูดซับน้ำได้ → glucoseจน.มากต่อเป็นสายโซ่ตรงคล้ายamylose แต่เชื่อมด้วยพันธะไกลโคซิดิก แบบ B- 1,4 : ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างหลักของผนังcellพืช - ไคทิน (chitin) : พบในเปลือกกุ้ง ปู แมลง - เพกทิน (pectin) พบในผนังเซลล์พืช : เปลือกผลส้มโอ - เพปทิโดไกลแคน (peptidoglycan) : ผนังcell ของ bacteria ข้าวเจ้ามีอะไมโลสสูง เมื่อหุงสุกจะร่วนและแข็ง > ข้าวเหนียวที่มีอะไมโลสต่ำ
ページ4:
CCC บทที่2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต 2.3.2 โปรตีน : ประกอบด้วยกรดแอมิโน (amino acid) . : เป็นเอนไซม์ที่เร่งปฏิกิริยาเคมีภายในcell : เป็นองค์ประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ : เป็นส่วนประกอบของเนื้อเยื่อต่างๆ •หมู่R : หมูที่เชื่อมต่อกับคาร์บอนอะตอม โปรตีน 1 g. ให้พลังงาน 4 แคลอรี่ กรดแอมิโนที่จำเป็น (essential amino acid) : ร่างกายสังเคราะห์ไม่ได้ • กรดแอมิโนที่ไม่จำเป็น (nonessential amino acid) : ร่างกายสังเคราะห์ได้ กรดอะมิโนจำเป็น : ผู้ใหญ่(1-8), เด็ก(1-10) 1. ไอโซลิวซีน Ile 3. ไลซีน Lys 2. ลิวซีน 4. เมไทโอนีน Leu Met 5. ฟีนิลอะลานีน Phy 7. ทริปโตเฟน Trp 6. ทรีโอนีน Thr 8. วาลีน Val 9. อาร์จินีน Arg 10. ฮิสทิดีน His • พันธะเพปไทด์ (peptide bond) : กรดอะมิโนแต่ละหน่วย เชื่อมต่อกันเป็นสายเพปไทด์ ด้วยพันธะโคเวเลนต์ - ไดเพปไทด์ (dipeptide) : กรดแอมิโน 2 หน่วย - ไตรเพปไทด์ (tripeptide) : กรดแอมิโน 3 หน่วย - พอลิเพปไทด์ (polypeptide) : กรดแอมิโนจำนวนมาก ต่อเป็นสายยาว • โครงสร้างโปรตีนแบ่งเป็น 4 ระดับ 1. โครงสร้างปฐมภูมิ (primary structure) - กรดอะมิโน เรียงต่อเป็นสายpolypeptide 1 สาย 2. โครงสร้างทุติยภูมิ (secondary structure) - สร้างพันธะไฮโดรเจน - มีลักษณะ บิดเป็นเกลียว หรือเป็นแผ่น 3. โครงสร้างตติยภูมิ (tertiary structure) - เกิดจากแรงไฮโดรโฟบิก พันธะไฮโดรเจน พันธะไอออนิก - มีลักษณะ บดม้วนเป็นก้อน 4. โครงสร้างจตุรภูมิ (quaternary structure) - การรวมตัวกันของpolypeptide มากกว่า 1 สาย เป็นแผ่น พันธะไฮโดรเจน เป็นเกลียว • ไกลโคโปรตีน (glycoprotein) : โปรตีนที่มีคาร์โบไฮเดรตสายสั้นๆเป็นส่วนประกอบ WW
ページ5:
M CCC บทที่2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต 2.3.3 ลิพิด : องค์ประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ : ให้พลังงาน > คาร์โบไฮเดรตและโปรตีน : ป้องกันการสูญเสียน้ำ : ช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย หนักเท่ากัน ** ลิพิดเป็นตัวทำละลายของวิตามิน A D E K ** : ป้องกันการกระทบกระแทกของอวัยวะภายใน • กรดไขมัน (fatty acid) แบ่งเป็น 2ชนิด - กรดไขมันอิ่มตัว (saturated fatty acid) ; เนย ไขมันจากสัตว์ มีคาร์บอนทุกอะตอมเชื่อมด้วยพันธะเดี่ยว 6 - กรดไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fatty acid) : ไขมันจากพืช ex. น้ำมันถั่วเหลือง มีบางพันธะระหว่างอะตอมของคาร์บอนเป็นพันธะคู่ - กรดไขมันที่จำเป็น (essential fatty acid) : ร่างกายต้องการและสังเคราะห์เองไม่ได้ - กรดไขมันที่ไม่จําเป็น (nonessential fatty acid) : ร่างกายสังเคราะห์ได้เอง • ไตรกลีเซอไรด์ - กลีเซอรอล (glycerol) : กรดไขมันทำปฏิกิริยากับแอลกอฮอล์ เกิดกลีเซอไรด์ (glyceride) กลีเซอไรด์ สถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า ไขมัน (fat) สถานะเป็นของเหลว เรียกว่า น้ำมัน (oil) • ฟอสโฟลิพิด : องค์ประกอบหลักของเยื่อหุ้มเซลล์ กรดไขมัน 2 โมเลกุล - กลีเซอรอล - หมู่ฟอสเฟต - หมู่R . มีสมบัติไฮโดรโฟบิก มีสมบัติไฮโดรฟิลิก มอโนกลีเซอไรด์ กรดไขมัน 1 โมเลกุล ไดกลีเซอไรด์ มี 2 โมเลกุล ไตรกลีเซอไรด์ มี 3 โมเลกุล สเตอรอยด์ : วงคาร์บอน 6 อะตอม 3 วง กับ วงคาร์บอน 5 อะตอม 1 วง - สเตอรอยด์สำคัญ : คอเลสเตอรอล (cholesterol) - เอสโทรเจน (estrogen) - เทสโทสเตอโรน (testosterone) อยู่ในยาแก้อักเสบ แก้ปวด * ถ้าได้รับมากภูมิคุ้มกันจะต่ำ ป่วยง่าย ไบมันพืช : ไขมัน 1 g. ให้พลังงาน 9 แคลอรี HDL (high-density lipoprotein) : ไขมันไม่อิ่มตัว = ลดการสะสมของคอเลสเตอรอล บริเวณผนังหลอดเลือด • LDL (low-density lipoprotein) : ไขมันอิ่มตัว = สะสมที่ผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งตัว หรือหลอดเลือดตีบ ลิพิดประเภทอื่นๆ เช่น ไข(wax) : เป็นของแข็ง ไม่ละลายน้ำ - พบได้ในขี้ผึ้ง ผิวของใบไม้ ผลไม้บางชนิด และผิวหนังหรือขนของสัตว์บางชนิด เช่น ขนนก ขนเป็ด • ไกลโคลิพิด (glycolipid) : ลิพิดที่มีบางส่วนของคาร์โบไฮเดรตเชื่อมต่ออยู่
ページ6:
CCC บทที่2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต 2.3.4 กรดนิวคลีอิก (nucleic acid) มี 2 ชนิด : ทำหน้าที่เป็นข้อมูลทางพันธุกรรมทำ : หน้าที่ควบคุมการสังเคราะห์โปรตีนที่ไปทำหน้าที่ต่างๆในเซลล์ของสมชว • กรดนิวคลีอิก ประกอบด้วยนิวคลีโอไทด์ (nucleotide) ที่เชื่อมต่อด้วยพันธะฟอสโฟไดเอสเทอร์ (phosphodiester bond) เป็นสายยาว เรียกว่า พอลินิวคลีโอไทด์ (polynucleotide) - นิวคลีโอไทด์ ประกอบด้วยส่วนย่อย 3 ส่วน ได้แก่ น้ำตาลเพนโทสที่มีคาร์บอน 5 อะตอม ไนโตรจีนัสเบส และหมู่ฟอสเฟต น้ำตาลเพนโทส ใน RNA คือ ไรโบส (ribose) ใน DNA คือ ดีออกซีไรโบส (deoxyribose) • ไนโตรจินัสเบส ใน DNA คือ G A C T ใน RNA คือ G A CU 2.4 ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต จับคู่ของ DNA ไทมีน T = A อะดีนีน กวานีน G = C ไซโทซีน ( ซ้าย ขวา สลับกันได้ ) G = กวานีน (guanine) A = อะดีนีน (adenine) C = ไซโทซีน (cytosine) T = ไทมีน (thymine) U = ยูราซิล (uracil) = 2.4.1 พลังงานกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี : การเปลี่ยนแปลงทางเคมีของสารตั้งต้นที่ทำปฏิกิริยา เกิดการจัดเรียงตัวใหม่ของอะตอม ของสารตั้งต้น และมีการเปลี่ยนแปลงพลังงาน ได้สารผลิตภัณฑ์ พลังงาน ทีมเข้าไป พลังงาน ไฟฟ้า 2H₂O 2H2 02 สารผลิตภัณฑ์ สารตั้งต้น - โคเวเลนส์ • ปฏิกิริยาดูดพลังงาน (endergonic reaction) - พลังงานรวมของสารผลิตภัณฑ์สูงกว่าพลังงานของสารตั้งต้น • ปฏิกิริยาคายพลังงาน (exergonic reaction) - พลังงานของสารผลิตภัณฑ์ต่ำกว่าพลังงานของสารตั้งต้น • พลังงานกระตุ้น หรือพลังงานก่อกัมมันต์ (activation energy) - พลังงานเริ่มต้นที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาขึ้น สารผลิตภัณฑ์ สารตั้งต้น สารตั้งต้น . การ าเนินไปของปฏิกิริยา ลานผลิตภัณฑ์ การ าเนินไปของปฏิกิริยา การเกิดปฏิกิริยา สารตั้งต้น "ต้อง" ได้รับพลังงานเพียงพอที่จะสลายพันธะเดิม และทำให้เกิดการเรียงตัวใหม่ของอะตอมที่เหมาะสม พลังงาน ห้อยออกมา .. M
ページ7:
M CCC บทที่2 เคมีที่เป็นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต 2.4.2 เอนไซม์ (enzyme){ โปรตีน } : สามารถลดพลังงานกระตุ้นของปฏิกิริยาลง : สามารถลดพลังงานของสารตั้งต้น ทำให้ได้สารผลิตภัณฑ์ได้เร็วขึ้น • การทำงานของเอนไซม์ - บริเวณเร่ง (active site) : สารตั้งต้นเข้าจับกับเอนไซม์ ที่บริเวณเฉพาะของเอนไซม์ - เอนไซม์ซับสเตรตคอมเพลกซ์ (enzyme-substrate complex) : สารตั้งต้นที่มีรูปร่างจำเพาะ กับเอนไซม์ที่สามารถจับกับบริเวณเร่งของเอนไซม์ - Lock and key model : บริเวณเร่งของเอนไซม์ จับกับสารตั้งต้นได้พอดี - Induced fit model : บริเวณเร่งของเอนไซม์มีการเปลี่ยนรูปร่าง ระหว่างจับกับสารตั้งต้น - สารที่มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์ : โคแฟกเตอร์ (cofactor) : สารพวกไอออน : โคเอนไซม์ (coenzyme) ; วิตามิน ** ถ้าแยกออกจากเอนไซม์จะทำให้เอนไซม์ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ การยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ - ตัวยับยั้งเอนไซม์ (enzyme inhibitor) - ตัวยับยั้งแบบแข่งขัน (competitive inhibitor) : ตัวยับยั้งแย่งจับบริเวณเร่ง ทำให้เอนไซม์ไม่สามารถจับกับสารตั้งต้น - ตัวยับยั้งแบบไม่แข่งขัน (noncompetitive inhibitor) : ตัวยับยั้งจับกับเอนไซม์บริเวณอื่น ทำให้เอนไซม์มีรูปร่างเปลี่ยนไป ไม่สามารถจับกับสารตั้งต้นได้ • ปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานของเอนไซม์ - ค่า pH - อุณหภูมิ - ความเข้มข้นของสารตั้งต้น - ความเข้มข้นของเอนไซม์ 2.4.3 เมแทบอลิซึม แบ่งได้ 2 แบบ . สมซว.แบ่งได้ 2 กลุ่ม 1. กลุ่มที่สร้างอาหารเองได้ เช่น พืช ได้รับพลังงานมาจากแสง นำมาใช้สร้างอาหาร 2. กลุ่มที่สร้างอาหารเองไม่ได้ เช่น สัตว์ ได้รับพลังงานจากอาหารที่กินเข้าไป แคแทบอลิซึม (catabolism) : สลายสารโมเลกุลใหญ่ — โมเลกุลขนาดเล็กลง และปล่อย ATP ออกมา • แอแนบอลิซึม (anabolism) : สังเคราะห์สารโมเลกุลเล็ก → สารโมเลกุลใหญ่ สาวโมรุนสดเก catabolism สารท ก ารไทย anabolism • วิถีเมแทบอลิซึม (metabolic pathway) : สารผลิตภัณฑ์ของปฏิกิริยาหนึ่ง ไปเป็น สารตั้งต้นของอีกปฏิกิริยาหนึ่ง ต่อเนื่องไป จนได้สารผลิตภัณฑ์สุดท้าย
ความคิดเห็น
ล็อกอินเพื่อแสดงความคิดเห็นผลการค้นหาอื่น ๆ
สมุดโน้ตแนะนำ
คำถามที่เกี่ยวข้องกับโน้ตสรุปนี้
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ช่วยหน่อยได้ไหมครับ
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ทำยังไงครับ
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ชีววิทยาจากภาพให้นักเรียนบอกว่าสมมติฐานของผู้ใดช่วยหน่อยค่ะ
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ช่วยหาคำตอบหน่อย
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ช่วยหน่อยค่ะ
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ช่วยหน่อยค่ะ😭🙏🏻
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ช่วยหน่อยค่ะ🙏🏻💞
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ช่วยหน่อยได้มั้ยคะ คือตอนนั้นติดซ้อมกิจกรรมแล้วครูสั่งงานน🙏🏻🙏🏻
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
1แยกโครโมโซมออกจากกันคือ... 2เปลี่ยนไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เป็นน้ำกับออกซิเจนคือ... 3สังเคราะห์โปรตีนคือ...
มัธยมปลาย
ชีววิทยา
ช่วยหน่อยครับ
News
สรุปดีมาก