ชั้นปี

ชนิดของคำถาม

ภาษาอังกฤษ มัธยมปลาย

ช่วยหน่อยค่ะ🙏🏾

11:36 จ 100% X Unite4 Asking for and Giving Directions.pdf Adverbs of Frequency: กริยาวิเศษณ์แสดงความถี่ Adverbs of Frequency คือ กริยาวิเศษณ์แสดงความถี่ โดยเราจะนำ Adverbs of Frequency มาช่วยในการบ่งบอกถึงความบ่อยหรือความถี่ (how often) ของเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่ง คำเหล่านี้นั้นมีอยู่มากมาย โดยที่มักเห็นได้ทั่วไป นั่นก็คือ ตารางสรุปชนิดของ Adverbs of frequency ชนิดที่เป็นคำ ชนิดที่เป็นกลุ่มคำ (ทุกๆวัน) (ทุก ๆ สัปดาห์) (ทุก ๆ เดือน) (ทุก ๆ ปี) (หนึ่งครั้งต่อสัปดาห์) (หลายครั้ง) (หลายครั้ง) (สองครั้งต่อวัน) (สองครั้งต่อสัปดาห์) Always (เสมอ ๆ สม่ำเสมอ ) Every day Sometimes (บางครั้ง) Every week Often (บ่อย ๆ ) Every month Usually (โดยปกติ) Every year (โดยปกติ) (สม่ำเสมอ) (โดยทั่วไป) Regularly Once a week Frequency Several times Generally Many times Hardly (ไม่ค่อยจะแทบจะไม่) Twice a day (ไม่ค่อยจะ,แทบจะไม่) (ไม่ค่อยจะแทบจะไม่) Rarely Twice a week Seldom Twice a month (สองครั้งต่อเดือน) Never (ไม่เคย) In the morning (ในตอนเช้า) In the afternoon (ในตอนบ่าย) In the evening (ในตอนเย็น) (นานๆครั้ง) Once in a while ตำแหน่งในการวาง Adverbs of Frequency A : วางไว้หน้าคำกริยา เช่น He goes to the cinema. (sometimes) We have dinner at six o'clock. (usually) 8 : Adverbs ที่เป็นกลุ่มคำวางไว้ท้ายประโยค เช่น Winai goes to Chiengmai . (twice a month) I go to work. (every day) :

ยังไม่เคลียร์ จำนวนคำตอบ: 1
ภาษาไทย มัธยมต้น

ช่วยข้อ7 หน่อยค่าาา ข้อสุดท้ายแล้ว... 1.ด้านเนื้อหา 2.ด้านวรรณศิลป์ 3.แนวคิด ช่วยหน่อยค่ะ//ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

งอ่านเรื่องต่อไปนี้ แล้วตอบคําถามตามที่กําหนด นิทานเรื่อง “สองพี่น้อง” ครอบครัวชาวนาครอบครัวหนึ่งมีลูกขายสองคน ทั้งสองเป็นพี่น้องที่รักกันมาก จนกระทั่งพ่อแม่แก่เฒ่าและ ลิ้นอายุไขไป สองพี่น้องจึงแยกย้ายกันไปสร้างครอบครัวของตนเอง แต่กียังปลูกบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน และไปมา หาสู่อย่างรักใคร่อยู่เสมอ สองพี่น้องยังคงยืดอาชีพชาวนาปลูกข้าวเลี้ยงซีพเช่นเดียวกับพ่อแม่ และใช้ชีวิตครอบครัวอย่างสันโดษ พอเพียง แม้จะไม่ได้มีเงินทองรํารวยอะไร แต่ก็มีความสุขตามอัตภาพ มีได้ลําบากยากแค้นอะไรนัก อยู่มาปีหนึ่ง ชาวนาคนพี่ทํานาได้ข้าวมากกว่าทุกๆ ปี จึงมีใจคิดถึงเผื่อแผ่ไปถึงน้องขาย เขากล่าวกับภรรยา 'ของตนในเย็นวันหนึ่งว่า *เธอจะว่าอย่างไร หากฉันจะเอาข้าวที่เราเก็บเกี่ยวได้ในปีนี้ไปแบ่งให้น้องขายของฉันบ้าง” “ทําไมหรือจ๊ะ นาของน้องขายเธอได้ข้าวไม่ดีนักหรือ” ภรรยาของชาวนาผู้พี่เอยถาม “เปล่าหรอกจ๊ะ นาของน้องขายฉันก็ได้ข้าวรวงสวยดีไม่แพ้ของเราหรอก แต่ฉันเห็นว่าครอบครัวของเขามี .หลายปากหลายท้องให้ต้องเลี้ยงดู ทั้งตัวเขา เมียเขาและลูกเล็กๆ อีกหลายคน ส่วนเรานั้นมีกันแค่สองคนผัวเมีย ซึ่งฉัน คิดว่าแค่ข้าวเพียงไม่กี่กระสอบก็น่าจะทําให้เราสองคนอื่มห้องไปจนถึงปีหน้าได้แล้ว” ขาวนาผู้พี่กล่าวแก่ภรรยา “อืม| ฉันเห็นด้วยจ๊ะ น้องขายของเธอก็มีน้าใจกับเราสองคนเสมอมา เมื่อมีพืชผักผลไม้ดีๆ เกิดขึ้นในไร่นาเขา เขาก็นํามาให้เราทุกครั้ง เมื่อข้าวของเรามีมากจนเหลือกิน เธอก็จัดแบ่งไปให้ครอบครัวของน้องชายเธอบ้างเถิดจ๊ะ” เมื่อภรรยาสนับสนุนเป็นอย่างดีเช่นนั้น ขาวนาผู้พี่ก็จัดการบรรจุข้าวลงกระสอบขนาดใหญ่ แล้วรอจนมีดค่า จึงค่อยแบกกระสอบนั้นไปยังบ้านของน้องขาย และทิ้งกระสอบข้าวไว้นอกประตูบ้านอย่างเงียบเซียบ ที่ต้องทํา เช่นนั้น เพราะชาวนาผู้พี่เกรงว่า ถ้าเอาไปให้ตอนกลางวันและน้องขายรู้ น้องชายอาจจะปฏิเสธข้าวของเขาเพราะ ความเกรงใจก็เป็นได้ วันรุ่งขึ้น เมื่อขาวนาผู้พี่ไปนับกระสอบข้าวที่เหลืออยู่ในผุ้งข้าวก็ต้องประหลาดใจ เพราะปรากฏว่า กระสอบ “เอ! เมื่อคืนเรานําข้าวไปให้น้องขายหนึ่งกระสอบ แล้วทําไมข้าวของเรายังมีอยู่เท่าเดิมเล่า หรือว่าเราจะนับ ผิด ถ้าอย่างนั้น เราเอาข้าวไปให้น้องอีกสักหนึ่งกระสอบดีกว่า” ขาวนาผู้พี่บอกกับตัวเอง คืนวันนั้น พอหลบคํา ชาวนาผู้พี่ก็แบกข้าวอีกหนึ่งกระสอบไปให้ที่บ้านของน้องขาย แต่พอเข้าวันต่อมา เมื่อเขาเข้าไปนับกระสอบข้าวที่เหลืออยู่ครบเท่าเดิมเหมือนเมื่อครั้งแรก “เอ๊ะ จะให้เชื่อได้อย่างไรนี่” ขายผู้พี่ร้อง “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เรากีต้องเอาข้าวไปให้น้องของเราอีกกระสอบ คืนนั้น ชาวนาผู้พี่จึงแบกกระสอบข้าวไปที่บ้านน้องชายอีกกระสอบหนึ่ง เป็นครั้งที่ ๓ ๑๐๓ แสงจันทร์ส่องแสงเจิดจ้าในคืนวันนั้น ขายผู้พ่มองเห็นร่างของใครคนหนึ่งกําลังแบกกระสอบข้าวเดินตรงมา ทางเขา ชายผู้พี่เพ่งตามองอีกครั้ง จึงเห็นว่าร่างของคนๆ นั้นกีคือน้องชายของเขานั่นเอง ชาวนาผู้พี่และขาวนาผู้น้องต่างหยุด วางกระสอบข้าวลงบนพื้น แล้วมองหน้ากันด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วทั้งสองก็ร้องขึ้นพร้อมกันว่า “เอ๊ะ| พี่เองหรือที่เอาข้าวไปวางไว้หน้าประตูบ้านของฉันน่ะ” “อ๊ะ! แกเองหรือน้องรัก ที่เอาข้าวมาวางไว้ในยุ้งข้าวของพี่ทุกคืน” แล้วทับใดบั้น ทั้งสดงพี่บ้คงก็พากับหัวเราะด้วยความฆาขันเร็ในเวลาบาน ต่างคนต่างก็รู้สึกรักและผูกพันกับ 2 5 6 มากขึ้น โดยไม่ต้องพูดจาอะไรมากไปกว่านั้นอีกแล้ว (อาจอง ขุมสาย ณ อยุธยา)

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
คณิตศาสตร์ มัธยมต้น

ข้อ2,3ทำยังไง ค่ะ ช่วย หน่อนคะ😥😥🙏🙏🙏🙏🙏🙏

= 3 + บทที่ 4 | สติติ (1) กง45ล4 เนขาง 1 ณฒ่ ๐ “ง ข้อมูลจํานวนประชากรสัญชาติไทยในปีที่สํารวจปีหนึ่งเป็นดังนี้ เต เล 1 4: (ปี) อายุ น้อยกว่า 1 ปี สถา โซ อายุ ๑๒ 61 ปีขันไป ใช |1.92% # /อยุ110ปป จ 12.38% 5ร @ิ๑ อายุ 41-60 ป เ: 21-40 ป 9 " 1! ฮ่ า2% #บน ต =/ ศี” กกรมา๓ๆุรระกะษ๕๕ร7” ฆ่ ณ์ 6 ๑» สน ทมา : พฒฒ.ธลุทอ001.00เท สืบค้นเมอ 15 กันยายน 2559 จากข้อมูลข้างต้น จงตอบคําถามต่อไปนี 1) ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยมีอายุเท่าใด และประชากรกลุ่มอายุเท่าใดมีจํานวนน้อยที่สุด ธซ่ 2) ถ้าจํานวนประชากรในปีที่สํารวจนี้เท่ากับ 65 ล้านคน แล้วจํานวนประ ชากรในช่วงอายุของนักเรียนมีก็คน รวี 3) ประชากรในวัยทํางาน (ช่วงอายุ 21-60 ปี) คิดเป็นเศษส่วนเท่าใดของประชากรหั้งหมด

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
1/2