ชั้นปี

วิชา

ชนิดของคำถาม

การบัญชี มหาวิทยาลัย

ช่วยหน่อยค่า🥹🥹

ตอนที่ 2 ทดสอบความเข้าใจ 1. คำถามข้อ 1 จากข้อมูลของบริษัท โชคดี จำกัด ในปี 25X1 มีราบละเอียดดังนี้ วัตถุดิบทางตรง D วัตถุดิบทางอ้อม 08 ค่าแรงงานทางตรง ค่าแรงงานทางอ้อม 08 ค่าสาธารณูปโภค 0 1 ค่าเบี้ยประกันโรงงาน 0 ค่าเบี้ยประกันสำนักงาน ค่านายหน้าพนักงานขาย เงินเดือนผู้บริหาร ค่าโฆษณา ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร OH ค่าเสื่อมราคารถยนต์ ค่าเช่าสำนักงาน ให้ทำ 1.1) คำนวณต้นทุนขั้นต้น (1 คะแนน) OH S 1.2) คำนวณต้นทุนแปรสภาพ ( 1 คะแนน) 1.3) คำนวณค่าใช้จ่ายในการผลิต ( 1 คะแนน) 1.4) คำนวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ 1 คะแนน) 1.5) คำนวณต้นทุนจม ( 1 คะแนน) 2. คำถามข้อ 2 ข้อมูลต่อไปนี้ได้มาจากการผลิตในเดือนมกราคม 25X2 ของบริษัท มีดี จำกัด 1. ซื้อวัตถุดิบทางตรงเป็นเงินเชื่อ 50,000 บาท - 2 จ่ายค่าแรงพนักงานฝ่ายผลิต (ค่าแรงงานทางตรง) รวม 75,000 บาท เป็นเงินสด 2. 410,000 บาท 156,000 บาท 520,500 บาท 45,000 บาท 300,000 บาท 100,000 บาท 60,000 บาท 60,000 บาท 350,000 บาท 100,000 บาท 80,000 บาท 50,000 บาท 80,000 บาท 3. จ่ายเงินเดือนผู้ควบคุมโรงงาน 15,000 บาท เป็นเงินสด 4. ได้รับบิลค่าไฟฟ้า จํานวน 5,000 บาท 5. ค่าเสื่อราคาของอุปกรณ์ในโรงงานเท่ากับ 6,000 บาท

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
ภาษาไทย มหาวิทยาลัย

ช่วยหน่อยค้าบด่วนๆ

ใบงาน การวิเคราะห์ การประเมินคุณค่าวรรณคดีวรรณกรรม เรื่องลิลิตตะเลงพ่าย รายวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน ๔ ๓๒๑๐๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการเขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง ผู้สอน นางอมรรักษ์ วงศ์พุฒิ มาตรฐาน ท ๕.๑ ตัวชี้วัดม.๔-๖/๓ ๑. คำที่ขีดเส้นใต้หมายถึงตัวละครตัวใด ให้นำตัวอักษรหน้าชื่อตัวละครที่กำหนดมา เติมลงในช่องว่างให้ถูกต้อง ********** & กมลหมองมัว กลัวพระอาชญายอบ นอบประณีตบทมูล ทูลลาให้ลีลาศ 9. ๒. ประกาศเกณฑ์พล บอกยุบลปมหึง ถึงเชียงใหม่ตระบัด ๓. ต่างภาษาต่างเพศ พิเศษสรรพแห่งตน ข้าศึกยลแสยงฤทธิ์ บพิตรเทียบทัพหลัง ๔. กรตระกองกอดแก้ว เรียมจักร้างรสแคล้ว จงจําคําพ่อไซร้ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง วิเคราะห์และประเมินค่าด้านวรรณศิลป์ ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะ ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ el. จงประสิทธิ์สมพร 5. โดยกระทรวงพยุหยาตร G. ก. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ข. สมเด็จพระเอกาทศรถ ค. พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ง. พระมหาอุปราชา จ. สมเด็จพระนเรศวรฯ และสมเด็จพระเอกาทศรถ 2. สมเด็จพระนเรศวรฯ และพระมหาอุปราชา ๙. หม่นเศร้า ศรีสลาย อยู่นา ภูบาลอื้นอำนวย จงพ่อลุล่วงได้ ลูกตาย ใครเก็บ คลาดเคล้าคลาสมร สั่งสอน พ่อให้ จักยาตราตรู่เช้า เสด็จคืนเข้านิเวศได้ เกรียมอุระราชไหม้ อวยพระพรเลิศล้น เผด็จด้าวแดนสยาม ผีฝาก พระเอย

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
การบัญชี มหาวิทยาลัย

มีใครพอรู้คำตอบบ้างไหมคะ รบกวนช่วยหน่อยค่ะ😔 วิชาภาษีอากรค่ะ

Font El E Convert to SmartArt - Paragraph S ^ { } ☆ 1 ฐานเงินได้สุทธิและฐานเงินได้พึงประเมิน Arrange Quick Styles - Drawing แบบฝึกปฏิบัติ 4-5 นาย ข้าวหอม ได้รับเงินเดือนๆละ 50,000 บาท และได้รับค่านายหน้า ทั้งปี 100,000 บาท ได้รับค่าเช่าบ้านจำนวน 5 หลังๆละ 10,000 มีคู่สมรสที่อยู่ร่วมกัน ตลอดปีภาษีแต่ไม่ได้มีรายได้และมีบุตรจากการสมรส เกิดในปี 2561 จำนวน 3 คน ได้ทำประกันชีวิตของตนเอง คู่สมรสและบุตรทั้ง 3 คน กับบริษัทประกันชีวิตใน ประเทศไทยแห่งหนึ่ง กรมธรรม์มีกำหนดเวลา 15 ปี จ่ายเบี้ยประกันชีวิต 80,000 บาท เบี้ยประกันสุขภาพ 30,000 จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ให้แก่ สถาบันการเงิน 1 แห่ง เป็นเงิน 120,000 บาท บริจาคเงินให้แก่มูลนิธิชัยพัฒนา 30,000 บาท ให้คำนวณหา 1.ค่าลดหย่อนที่มีสิทธินำไปรวมคำนวณภาษี All Notes 2.เงินได้สุทธิ 3. ภาษีที่ต้องชำระ โดยแสดงการคำนวณภาษีเปรียบเทียบทั้งวิธีที่ Shape Effects Display Settings Comments E Replace Editing 4) ENG

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
ภาษาไทย มหาวิทยาลัย

ช่วยสรุปจากเรื่องนี้ให้หน่อยนะคะ สรุปการอ่านเพื่อประเมินค่า จากเรื่องนี้ค่ะ

คำชี้แจง : อ่านเพื่อประเมินค่า ข้อ ๒. เรื่อง มิตรภาพ คนเราล้วนมีคำนิยามในสิ่งที่เหมือนกันต่างกันไป เหมือนกับการมองเหรียญหนึ่งเหรียญแต่มองได้หลายมุม บางคนอาจจะว่ามันมี ความโค้ง บางคนอาจมองว่ามันดูเงาวาววับ บางคนอาจจะว่ามันแข็ง ฉะนั้นแล้วเราไม่ควรมองสิ่งต่างๆ เพียงด้านเดียวและไม่ควรตัดสินใจอะไร ต่างๆด้วยการมองเขาเพียงแค่ด้านเดียวเท่านั้น ก็เหมือนกับการสร้างมิตรภาพที่นับวันยิ่งหาได้ยาก หากเรามัวแต่มองเขาเพียงด้านเดียว ตัดสินเขาเพราะเขาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ก็จะมีแต่เราเองที่เป็นทุกข์ พุทธศาสนาสอนมนุษย์ทุกคนว่า ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนแล้วแต่เป็น “อนัตตา” คือความไม่มีตัวตนอย่าคิดอย่าปองว่าทุกสิ่งเป็นของ ตน แม้แต่ร่างกายที่เราว่าเป็นของเราแต่เรายังไม่สามารถบังคับให้ไม่เจ็บไม่ป่วยได้ แล้วนับอะไรกับมนุษย์และสรรพสัตว์รอบกายของเราเล่า เขา มีจิตใจมีความคิดมีความรู้สึกต่างๆ ตามแบบฉบับของมนุษย์ทุกคน เราไม่สามารถไปกำหนดให้เขามาดพเนินตามเส้นทางที่เราขีดไว้ให้ได้อย่าง แน่นอน “สัพเพ ธัมมา อนัตตา สรรพสิ่งเป็นอนัตตาบังคับบัญชาไม่ได้ เพียงแต่อ่านข้อความนี้ก็ไม่ต้องมีคำนิยามใดๆ ลงมาพ่วงท้ายก็เชื่อว่า หลายคนสามารถตีความข้อความนี้ได้ถูกต้องอย่างแน่นอน ฉะนั้นเรามาสร้างสิ่งต่างๆ รอบกายเพื่อให้เป็นมิตรที่คนเขาเรียกว่ามิตรภาพที่ดีแก่ตัว มิตรภาพไม่ได้จำกัดอยู่ที่เพื่อนที่เดินไปโรงเรียนหรือที่ทำงานแล้วเจอกันเท่านั้น เพื่อนหรือมิตรภาพนี้ยังหมายถึงสัตว์เลี้ยงของเรา เรากัน ที่คอยเป็นเพื่อนเล่นกับเราเวลาที่เราเหงา หรือแม้แต่เสาไฟที่คอยส่องแสงสว่างในช่วงเวลากลางคืนที่คอยเป็นเพื่อนที่ดีให้กับคนขับรถอีกด้วย ไม่มีที่ไหนที่เราจะไม่พบคำว่ามิตรภาพ หากมองดูแล้วมันมีความหมายมากกว่าคำนิยามตามพจนานุกรมแน่นอน หลายคนก็หลายความคิด แตกต่าง มิตรเป็นสิ่งที่ยั่งยืนในความหมายของมัน แต่ในทางกลับกันมิตรภาพกับเป็นสิ่งที่ไม่จีรังเอาเสียเลย เราลองมองรอบกายตัวเองดูแล้ว รอบกายของเรากลับไม่เคยเหมือนเดิมเลยสักวัน เหมือนกันการเดินทางที่ไม่มีที่สิ้นสุด ที่แต่ละวันเราต้องเปลี่ยนคนรู้จักร มิตรภาพ การเดินทาง ไปเรื่อย ๆ แต่ภาพของมิตรภาพความทรงจำเก่าๆก็ยังติดอยู่ที่ตรงนี้ที่เรียกว่า จิตใจ ช่วงเวลาที่หลายคนเรียกมันว่า “จุดเปลี่ยน” วัยไหนๆหรือวันไหนๆก็มีจุดเปลี่ยนกันทั้งนั้นไม่มีใครสามารถล่วงรู้อนาคต ที่จะเกินกับเราได้ เราทำได้ดีที่สุดเพียงเดินตามอย่างระมัดระวังเท่านั้น จุดเปลี่ยนนั้น ต่างศาสตร์ต่างความคิดกันไป ตามกฎหมาย แล้วเมื่อถึงอายุที่กำหนดก็จะเปลี่ยนสถานภาพ จากเด็กหญิงตัวเล็กๆ เป็นนางสาวเพียงข้ามวัน แล้วเปลี่ยนเด็กชายเป็นนายโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าตามระบบการศึกษาก็คือเปลี่ยนทุกปีที่จบการศึกษาคือปีก่อนยังเป็นนักเรียนชั้นม.5 แล้วปีนี้ไหนกลายเป็นชั้นม.6 แล้ว รวดเร็ว เหลือเกิน สิ่งที่ผ่านมาสอนอะไรเราบ้าง ทั้งความสุข ความทุกข์ อารมณ์เหงา ดีใจ ซาบซึ้ง สิ่งเหล่านี้ล้วนสอนเราผ่านคำว่ามิตรภาพ ท้งนัน หลายคนอาจเจอมิตรภาพที่ดีมาโดยตลอด กับอีกบางคนที่เจอแต่มิตรภาพที่หลอกลวงอยู่ตลอดเช่นเดียวกัน คนเคย กล่าวว่าเพื่อนเป็นกระจกส่องถึงตัวเรา ก็เหมือนเราอยู่ใกล้ใครคนคนนั้นก็จะเริ่มเปลี่ยน เราก็เริ่มเปลี่ยน จนคล้ายจะเป็นคนที่มีนิสัย ใจคอเดียวกันไปซะแล้ว หากเราเจอแต่เพื่อนที่ดี มิตรภาพที่ยั่งยืน ตัวเราเองก็มีความสุขไปด้วย แต่บางคนเจอเพื่อนที่ดีกลับผลักไส เขาออกห่างจากชีวิตด้วยทิฐิ ต่างๆที่มันเกิดขึ้นกับจิตใจเราด้วยคิดว่าเขาต่างเรา เข้ากันไม่ได้หรอก แล้วเหตุผลสารพัดมารวมกันโดย มิได้นัดหมาย จนสิ่งๆนั้นได้หลุดลอยออกไปจากชีวิต แล้วมันก็เกิดจุดเปลี่ยนตามสถานะภาพของมัน เพื่อนสัมพันธภาพตัดกันไม่ขาด คำนี้ไม่มีใครเถียง แต่บางทีเพื่อนที่ต้องการเวลาในการรักษาจิตใจที่บอบช้ำเหมือนกัน มิตรภาพไม่ได้มีแค่สิ่งสองสิ่งรอบตัวเราแต่มันเป็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเรา เราลองมองแล้วคิดทบทวนให้เวลากับคำว่า มิตรภาพรอบตัวของเราให้มากกว่านี้ ให้ความเข้าใจ เห็นความเป็นไปเท่านั้น แล้วเชื่อว่าอนาคตหรือทุกวันก็เป็นวันที่เราจะก้าวย่าง ไปข้างหน้าพร้อมความมั่นใจ ด้วยกำลังใจจาก “มิตรภาพ” (ปรนันท์ สีบพิมพา, JANUARY ๑๖, ๒๐๑๒)

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย

ช่วยสรุป แล้วก็ทำเป็นข้อๆให้หน่อยได้มั้ยคะ🙏🏻

dtac-T.Better Together 13:36 บทบัญญัติที่ 4 : คนตอบสนอ cdn.fbsbx.com 4 44%E เรียบร้อย สนองต่อสิ่งจูงใจ เนื่องจากคนตัดสินใจโดยเปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์ ดังนั้น พฤติกรรมของคนจึงเปลี่ยนเมื่อ โครงสร้างต้นทุนและผลประโยชน์เปลี่ยนไป นั่นคือ คนตอบสนองต่อสิ่งจูงใจ นั่นเอง เมื่อราคาแอปเปิลสูงขึ้น คนก็ตัดสินใจซื้อลูกแพร์มากขึ้น ซื้อแอปเปิลน้อยลง เพราะต้นทุนในการได้มาซึ่งแอปเปิลสูงขึ้น ใน ขณะเดียวกัน ชาวสวนแอปเปิลตัดสินใจจ้างคนงานมากขึ้น และปลูกแอปเปิลมากขึ้น เนื่องจาก ผลประโยชน์ จากการขายแอปเปิลสูงขึ้น บทบาทหลักของสิ่งจูงใจในการกำหนดพฤติกรรมมีความสำคัญสำหรับการออกแบบ นโยบายของรัฐ(Public Policy) นโยบายของรัฐมักเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต้นทุนและผลประโยชน์ของกิจกรรม ภาคเอกชน เมื่อผู้กำหนดนโยบายล้มเหลวในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แสดงว่านโยบายรัฐอาจก่อให้เกิดผลที่ ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ตัวอย่างของผลที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจจากนโยบายของรัฐ เช่น นโยบายว่าด้วยเข็มขัด นิรภัยและระบบป้องกันความปลอดภัยรถยนต์ ในทศวรรษ 1950 รถที่มีเข็มขัดนิรภัยมีจํานวนน้อย ต่างจากใน ปัจจุบันที่รถทุกคันล้วนมีเข็มขัดนิรภัย เหตุผลของการเปลี่ยนแปลงก็เพราะ "นโยบายของรัฐ" นั่นเอง ในช่วง ปลายทศวรรษ 1960 หนังสือของ Ralph Nader ที่ชื่อ “Unsafe at Any Speed” ก่อให้เกิดกระแสเกี่ยวกับความ ปลอดภัยของรถยนต์ รัฐสภาสหรัฐอเมริกาออกกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องสร้างอุปกรณ์รักษาความ ส่ ปลอดภัย ซึ่งหมายถึงรถทุกคันต้องมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างเข็มขัดนิรภัยด้วย กฎหมายเข็มขัดนิรภัยกระทบ ความปลอดภัยของรถยนต์อย่างไร ? ผลทางตรงในเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้ามีเข็มขัดนิรภัยในรถทุกคัน คนก็คาด เข็มขัดนิรภัยกันมากขึ้น และโอกาสที่จะรอดจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่มีมากขึ้น ในแง่นี้ เข็มขัดนิรภัยช่วยรักษาชีวิต ผลดีทางตรงด้านความปลอดภัยนี้จูงใจให้รัฐสภาออกกฎหมายดังกล่าว แต่การทำความเข้าใจผลทั้งหมดของ กฎหมายต้องตระหนักว่า คนเปลี่ยนพฤติกรรมโดยตอบสนองสิ่งจูงใจที่เขาเผชิญอยู่ พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องใน กรณีนี้คือการขับรถเร็วและความระมัดระวังในการขับรถ การขับรถช้าและระมัดระวังมีต้นทุนเพราะสิ้นเปลือง เวลาและพลังงาน เมื่อผู้ขับขี่ที่มีเหตุมีผลตัดสินใจว่าจะขับรถอย่างปลอดภัยเพียงใด ก็จะเปรียบเทียบ ผลประโยชน์ส่วนเพิ่มจากการขับรถอย่างปลอดภัยกับต้นทุนส่วนเพิ่ม เขาจะขับรถช้าและระมัดระวังเมื่อ ผลประโยชน์จากการเพิ่มความปลอดภัยสูงกว่า นี่เป็นการอธิบายว่าทำไมคนถึงขับรถช้าและระมัดระวังขณะ ถนนลื่นมากกว่าสภาพถนนปกติ หากเราพิจารณาว่าการออกกฎหมายให้คาดเข็มขัดนิรภัยเปลี่ยนแปลงการ คำนวณต้นทุนและผลประโยชน์ของผู้ขับขี่ที่มีเหตุมีผลอย่างไร ? พบว่าเข็มขัดนิรภัยทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าอุบัติเหตุ มีต้นทุนต่ำลงเพราะการคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยลดความน่าจะเป็นในการบาดเจ็บและล้มตาย ดังนั้น เข็มขัดนิรภัย ลดผลประโยชน์จากการขับรถช้าและระมัดระวังลง ผู้ขับขี่ก็ตอบสนองต่อการใช้เข็มขัดนิรภัยโดยขับรถเร็วขึ้น และลดความระมัดระวังในการขับขี่ลง ผลสุดท้าย กฎหมายเข็มขัดนิรภัยทำให้จำนวนอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น 5 แล้วกฎหมายกระทบจำนวนคนตายจากการขับขี่อย่างไร ? ผู้ขับขี่ที่คาดเข็มขัดนิรภัยอาจมีโอกาสรอดชีวิตมาก ขึ้นจากอุบัติเหตุแต่ละครั้ง แต่โอกาสเกิดอุบัติเหตุอาจเพิ่มจำนวนมากครั้งขึ้น จำนวนคนตายสุทธิในประเด็นนี้ยัง ไม่ชัดเจน ยิ่งกว่านั้น การที่ผู้ขับขี่เลือกลดความระมัดระวังในการขับขี่ลงส่งผลกระทบทางลบต่อคนเดินถนน (และผู้ขับขี่ที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย) เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุของคนเหล่านี้สูงขึ้นและไม่ได้รับการป้องกัน จากเป็นข้อมกัน ดังนั้น จอมมายว่าด้วยเข็มขัดนิรฉันมีแนวโน้มทำให้จำนวนการตายของคนเดินถนนเพิ่มสูงขึ้น 3

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย

ต้องทำเป็นแผนผังอย่างไรคะ

ใบงานการทดลองที่ 6 กรณีศึกษาทางสรีรวิทยาคลินิก เรื่อง Circulating shock วัตถุประสงค์ 1. อธิบายการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาการไหลเวียนเลือดในภาวะ Circulating shock ได้ 2. ระบุหลักการและแนวทางในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะ Circulating shock บนพื้นฐานสรีรวิทยา การไหลเวียนเลือด และนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและพื้นฐานทางการพยาบาลได้ 3. สามารถสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายวิเคราะห์และเลือกใช้ข้อมูลในการอภิปราย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันและเขียนผังการเปลี่ยนแปลงสรีรวิทยาการไหลเวียนเลือดในภาวะ Circulating shock ได้ 4. ใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษในการอธิบายและเขียนผังการเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนเลือดในภาวะ Circulating shock ได้ กรณีศึกษา ผู้ป่วยชายอายุ 31 ปี ถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยอาสาสมัครกู้ภัย เนื่องจากประสบอุบัติเหตุขับมอเตอร์ไซด์ ชนกับรถบรรทุก มีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ต้นขาขวา กระดูกหักทะลุออกมาภายนอก มีเลือดออกมากแบบ Active bleeding เสียเลือดออกไปประมาณ 30% ของปริมาตรเลือดทั้งหมด และมีภาวะ Circulating shock สัญญาณชีพ T 35.5'C P 120/นาที RR 22/นาที BP 80/60 mmHg หายใจตื้น และกระสับกระส่าย ซีด เหงื่อออก ผิวหนังขึ้นแต่เย็น และปัสสาวะออกน้อย ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ค่าที่ตรวจพบ ค่าปกติ รายการ pH 7.25 7.35-7.45 Pco2 45 40 mm Hg Po2 88 90 - 100 mm Hg O, saturation 92 94 - 100 % Hct 35 40-45% แนวทางการศึกษา 1. ให้ผู้เรียนร่วมกันทบทวนบทบาทหน้าที่และกลไกการควบคุมการทำงานของระบบไหลเวียนใน ภาวะปกติ 2. อ่านกรณีศึกษาที่กำหนด จากนั้นนักศึกษาระบุ Hemodynamic parameter ที่ มีการ เปลี่ยนแปลงไปจากภาวะปกติหรือไม่ อย่างไร ตลอดจนค้นหาประเด็นที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ Hemodynamic parameter เหล่านั้นเปลี่ยนแปลง 3. ระบุและอธิบายกลไกการควบคุมการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิตที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบสนอง ต่อการเปลี่ยนแปลง Hemodynamic parameter เหล่านั้นให้กลับคืนมาสู่ภาวะปกติ/หรือหากไม่ สามารถกลับคืนมาสู่ภาวะปกติได้ ตลอดจนการทำงานของระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) 4. เขียนผังแสดงลำดับของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว (Sequence of physiological events)

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
การบัญชี มหาวิทยาลัย

การบัญชีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ใครมีเฉลยดีๆบอกหน่อยค่ะ ตอบอะไร

54 การบัญชีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กิจกรรมฝึกทักษะหน่วยที่ 2 ตอนที่ 1 ให้นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบุคคลต่อไปนี้ว่ามีหน้าที่เสียภาษี เงินได้บุคคลธรรมดาหรือไม่ เพราะเหตุใด เสียภาษี ไม่เสียภาษี รายการ เหตุผล 1. ผู้ว่า CEO (Chief Executive Officer) 2. นายกรัฐมนตรี 3. นายทรงศักดิ์ เสียชีวิตเมื่อวานนี้ 4. ทูตประเทศอิรัก 5.เด็กชายพี่ มกจ๊ก 6. มรดกที่ยังไม่ได้แบ่งของนายห้างทอง 7. บิ๊ก บีทูบี กำลังป่วยมรู้สึกตัว 8. ห้างหุ้นส่วนสามัญแฟนฉัน 9. ครูเจนนี่ เพศชายแต่ใจหญิง 10. ทหาร ตำรวจ ใน 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
1/3