มนุษย์หินใหม่ หรือที่รู้จักในภาษาอังกฤษว่า Neolithic humans มีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปจากยุคก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม ดังนี้:
1. การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและการเกษตรกรรม:
• การพัฒนาการเกษตร: หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดของมนุษย์หินใหม่คือการเริ่มต้นทำการเกษตรกรรมแทนการล่าสัตว์และการเก็บผลผลิตธรรมชาติ การเพาะปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ช่วยให้มีแหล่งอาหารที่มั่นคงและเพียงพอ
• การตั้งถิ่นฐานถาวร: เนื่องจากมีแหล่งอาหารที่มั่นคง มนุษย์หินใหม่จึงสามารถตั้งถิ่นฐานถาวรได้ ไม่ต้องเคลื่อนย้ายตามแหล่งอาหารเหมือนในยุคก่อน
2. การพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยี:
• เครื่องมือเกษตร: มีการประดิษฐ์และใช้งานเครื่องมือเกษตรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น จอบ ขวน และกรรไกร ซึ่งช่วยในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิต
• เครื่องปั้นดินเผา: การพัฒนาเครื่องปั้นดินเผาเพื่อสร้างภาชนะสำหรับเก็บอาหารและน้ำ ช่วยในการจัดเก็บและขนส่งสินค้าต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
3. การจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม:
• การจัดการที่ดิน: มนุษย์หินใหม่เริ่มมีการจัดการที่ดินอย่างมีระบบ เช่น การทำเขื่อน การปลูกพืชแบบหมุนเวียน เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน
• การทำสวนและไร่นา: การสร้างสวนและไร่นาช่วยให้สามารถผลิตอาหารได้มากขึ้นและหลากหลายยิ่งขึ้น
4. การเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม:
• การแบ่งงานและความเชี่ยวชาญ: การทำการเกษตรทำให้เกิดความจำเป็นในการแบ่งงาน ทำให้บางคนสามารถมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น ช่างปั้นดินเผา ช่างเหล็ก เป็นต้น
• การสร้างชุมชน: การตั้งถิ่นฐานถาวรส่งผลให้เกิดการสร้างชุมชนที่มีโครงสร้างทางสังคมที่ซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาระบบการปกครองและกฎหมายภายในชุมชน
5. การเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและความเชื่อ:
• การสร้างสถานที่ประกอบพิธีกรรม: มนุษย์หินใหม่เริ่มสร้างสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรม เช่น วัด พิพิธภัณฑ์ศิลปะ และโบราณสถานต่าง ๆ
• การพัฒนาศิลปะ: มีการสร้างงานศิลปะที่ซับซ้อนขึ้น เช่น ภาพวาดบนผนังถ้ำ งานประติมากรรม และการประดับตกแต่งบ้านเรือน
6. การพัฒนาเศรษฐกิจและการค้า:
• การค้าสินค้า: การผลิตสินค้าที่มีความซับซ้อนมากขึ้นทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชุมชนต่าง ๆ ซึ่งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและการเชื่อมโยงระหว่างชุมชน
คำตอบมาแล้วจ้า