ページ1:

LESSON 1: PARTS OF SPEECH
คำสรรพนาม (Pronouns)
Subject Object Possessive Adjective
Page 33
Possessive Pronoun
Reflexive Pronoun
me
my
mine
myself
You
you
your
yours
yourself / your selves
He
him
his
his
himself
She
her
her
hers
herself
It
it
its
itself
We
=33
US
our
Ours
ourselves
theirs
themselve
They
them their
ชนิดของคำสรรพนาม 1. Relative Pronoun ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมประโยค และแทนคำนามที่อยู่ข้างหน้า
Who แปลว่า ผู้ซึ่ง ใช้แทนคน
where ที่พึ่ง ใช้กับสถานที่
0000
อ
00
DOT
POT
Which แปลว่า ทีซึ่ง อุ่น
แทน คน สัตว์ สิ่งของ
whom
ผู้ฟัง ทำหน้าที่กรรมของประโยค ใช้แทนคนเท่านั้น
That
แปลว่า ที่ซึ่ง อัน
What แปลว่า สั่งฟัง
แทนได้ทั้งคน และสิ่งของ
แทนสิ่งของเท่านั้น
2. Definite Pronouns
Demonstative Pronouns
whose ซึ่ง...ของ แสดงความเป็นเจ้าของ ต้อง ตามด้วยนามเสมอ (whose + noun)
- สรรพนามบ่งชี้ชัดเจนว่าใช้แทนสิ่งใด ได้แก่ this, theft these, these, one ones, such, the former
3. Indefinite Pronouns สรรพนามไม่เจาะจง แทนนามได้ทั่วไป เช่น
everyone everybody everything
Some
each
Someone
Somebody
all
any
many
any one
anybody
anything
either
neither
no one
nobody
nothing
none
one
more
most
several
enough
few
fewer
more
much
less
little
4. Interrogative Pronouns What When Where Why Who Whoever whatever
Note: which, what
who, whom, which
Interogative Adj
เป็น Relative Pronoun 3 นักแสดงดีเด่น
กินซ๊อพ 2 แบ ง

ページ2:

ลำดับคำ และประโยคในภาษาอังกฤษ จากตารางจะเห็นว่า วลีหนึ่งวลี ประกอบด้วย
HELLO!
ประโยคย่อยๆ อีกมากมาย มีหน้าที่ และ คำเรียก
แตกต่างกัน
Noun
Page 34
Post - Determiner
Qualifier Pre - Determiner Determiner Ordinal
Cardinal
Adj
ทําหน้าที่
เช่น Adj
Head Noun
Several
all both, half
a,an,the, mq
first
one, two
good
holiday
house, car
little, a few
once, twice
his, this, each
last
three
small
Country
room, night
a lot of
all, either, any
fourth
thirty
new, old
French
school
คำกริยา ( Verbs) ทำหน้าที่แสดงอาการ การกระทำ บอกสภาพ ประธาน
ชนิดของกริยา แบ่งออกเป็น 5 ชนิด
Yes
SIR!
1. Transitive Verb "สกรรมกริยา ต้องการกรรม มารองรับ ขยายเพื่อให้เนื้อความของตัวนั้น ฟังเข้าใจ เช่น open, clean, look at, speak, buy
คำที่จะนำมาใช้เป็นกรรม (object) ได้แก่ นามทุกชนิด, วลีทุกชนิด, สรรพนาม, Gerund, อนุประโยค, infinitive
2. Intransitive Verb "อกรรมกริยา" ไม่ต้องการกรรม เพราะมีเนื้อหาใจความสมบูรณ์ดีแล้ว เช่น stay พัก อยู่ | regret เสียใจ
3. Finite Verb "กริยาแท้
=
อ
4. Non - Finite Verb “กริยาไม่แท้” ถูกนำมาใช้เป็นคำประเภทอื่น ดังนี้ infinitive - กริยาที่มี to + Verb, เช่น to do
Gerund กริยาที่ เติม ing ทำหน้าที่เป็นนาม เช่น walking การเดิน, reading msอ่าน Participle (พบใน Continuous tense)
กริบที่เติม ing เช่น eating กำลังกิน Past Participle (กริยาช่อง3) eater, walked พบใน past, perfect tense
5. Auxiliary verb “กริยานุเคราะห์" (Helping Verb) ทำหน้าที่ช่วยกริยาตัวอื่น เพื่อให้ความหมายในประโยคมใจ ความสมบูรณ์
เช่น is am are was were has have
หน้าที่ของ Verb to be
do did
will would shall should
can could
วางหน้า V3 - Passive Voice ประธานถูกกระทำ
วางหน้า กริยา + ing - Continuous tense แปลว่า “กำลัง
ประโยคคำสั่ง อวยฟรี
adj
“Be happy
ทำหน้าสำนว% about to + V, (กำลังจะ) แสดงเหตุการณ์ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก (Principal Verb) โดยทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ในประโยค
วางหน้า infinitive มีสำเนียงแปลว่า “จะ, จะต้อง” แสดงถึงหน้าที่ที่ต้องกระทำ, แผนการ, การส่ง,
AUXILLIARY VERB
Have to “ต้อง, จำเป็นต้อง" (- must)
โครงสร้างประโยค
เ
ใช้แสดงถึง หน้าที่ ภารกิจจำเป็นที่ต้องกระทำ
Positive : S + have to + V1
Negative : S+ don't / doesn't + have to + V₁
Question : DoDoes + S + have to + 1, 2
คำขอร้อง หรือ ความเป็นไปได้
*YEAH!*
*

ページ3:

แปลเหมือน have to นำมาใช้ในภาษาพูดแทน have to, has to, had to
Have got to
Example : Affirmative (บอกเล่า)
go.
Negative (ปฏิเสธ)
Interrogative (คำถาม)
Has he got to go?
She's got to
I've got to do.
She hasn't got to go.
Page 35
I haven't got to do.
Have I got to do?
Had better (had rather, had sooner) ควรจะ ๑๐.
โครงสร้างประโยค
P: S+ had better + Viinfi)
N: Shad better + not + Viinfi)
ดีกว่า” ใช้กรณีที่คิดว่าเป็นการดีที่จะกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด
She had better take some rest.
She had better not take some rest.
Q: Had + S + better + Vinft) ?
Had she better take some rest?
Verb to do ( do, does, did) นำมาใช้เป็นกริยาช่วย ไม่มีคำแปล ช่วยในประโยคคำถาม และปฏิเสธ
ยกเว้น will, would, shall, should, can, could, may, might must ไม่ต้องการ V to do มาช่วย
เมื่อประธานเป็น เอกพจน์ใช้ does ปทุมจน และ 1, they, we, You ใช้ do และกริยา หลักไม่ต้องเติม s (ed, ing)
"จะ” ใช้ช่วยกริยาตัวอื่น เพื่อบอกลาคตกาล (Future tense) ใช้กับ You They He She It
Shall "จะ" " ใช้ช่วยกริยาตัวอื่น เพื่อบอกอนาคตกาล (Future tense)
Would จะ” เป็นรูปอดีตของ wil ในประโยค Indirect Speech เช่น She said, I would do it again
ใช้ใน If Clause : If I were you, I would try to do it.
Will
ใช้กับ 1, we
ใช้เป็นกริยาช่วย ร่วมกับ like เพื่อความสุภาพ ใช้ได้กับทุกบุรุษ และเป็นปัจจุบันกาล "อยากจะ, อยากใช้
เพื่อความสุภาพ Would you have some hot drinks?
ใช้ร่วมกับ mind, please เพื่อความสุภาพในการ 990 คำสั่ง Would you mind if I dance?
21
ใช้ในสำนวน “ควรจะ..ดีกว่า" ควบกับ better, rather เช่น Which would you rather have, tea or coffee
Should "ควรจะ, น่าจะ” เป็นปัจจุบันกาลใช้ได้ทุกพจน์ ทุกบุรุซ แสดงถึงการให้คำแนะนำ (advice) - ought to
should have + V, กับอดีต ที่ไม่เกิดขึ้นจริง และผ่านมันไปแล้ว
ใช้แทน might เพื่อแสดง ความมุ่งหมาย โดยมีสันธาน So that, in order that นำหน้าประโยคของมัน
ใช้ในประโยคที่ตามหลัง lest, for fear that ตลอดไป
Con “สามารถ” จัดเป็นกริยาพิเศษ รูปอดีต คือ could
Could “สามารถ” ใช้เพื่อขออนุญาตกระทำบางอย่าง เป็นการให้เกียรติ คู่สนทนาของเรา
Could + have + V3 เพื่อแสดงความสามารถหรือ ความเป็นไปได้ในอดีต แต่ก็ไม่ได้ใช้ความสามารถนั้น
Play และ Might เป็นรูปกริยาพิเศษได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น รูปอดีต คือ might รูปปฏิเสธ may not (mount)
might not (mightn't)
เพื่อแสดงความมุ่งหมาย (Purpose) จะอยู่หลัง so that หรือ in order that เส
เพื่อแสดงความปรารถนา ความหวัง หรือ การอวยพร ให้ประสบความสำเร็จ (lay อยู่ในประโยคเสมอ)
ขอขออนุญาต (Permission) เพื่อแสดงความเป็นไปได้ของการกระทำนั้นๆ
เพื่อแสดงความสงสัย ไม่แน่ใจ ของผู้พูดที่มีต่อสิ่งนั้นๆ

ページ4:

คำคุณศัพท์
(Adjectives) ทำหน้าที่เพื่อขยายขนาม หรือประกอบทาม หรือสรรพนาม
3 V + Obj. + Adj
โครงสร้าง 1 Adj + N. 2 Subject + V. + Adj
ชนิดของ Adjective
1. Descriptive Adj. เพื่อบอกลักษณะ คุณภาพของคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่เพื่อบอกให้ทราบ ลักษณะของ คำนาม
เช่น good, bad, tall, fat, thin, foolish, poor, rich
2. Proper Adj เพื่อบอกสัญชาติ English, Thai, American, Indian, German, Italian, Chinese, Japanese
Page 36
3. Quantitative Adj บอกปริมาณ แบบ คร่าวๆ ว่ามีมากน้อย เช่น much, many, little, some, any, enough, half, great, all, whole
4. Numeral Adj บอกจำนวนแน่นอน ได้แก่ Cardinal Numeral Adj : one, two, three Ordinal Numeral Adj
: first, second, third, forth Multiplicative Adj : double, triple, four fold
5. Demons ative Adj เพื่อชี้เฉพาะให้กับ นายใดขาม หนึ่ง this, that, these, those such, same
6. Interrogative Adj เพื่อบอกคำถาม โดยจะวางไว้ต้นประโยค และมีนามตามหลังเสมอ
7. Possessive Adj บอกความเป็นเจ้าของ my, your, our, his, her, its their
what + noun, which + noun
neither (ไม่ทงสอง)
8. Distributive Adj เพื่อแบ่งแยกนามออกจากกันเป็นอันหนึ่ง ส่วนหนึ่ง เช่น each, every either (ไม่อันใดก็วันหนึ่ง)
1. Emphasizing Adj เพื่อเป็นความ ให้มีน้ำหนักขึ้น own (เอง), very (นั้นจริงๆ)
le. Exclamatory Adj เพื่อบอกอุทาน เช่น What
ง.
11. Relative Adj เพื่อบอกความสัมพันธ์ ขายนามข้างหน้า และเป็นสันธานเชื่อมความสัมพันธ์ เช่น what, whichever, who
การเรียงลำดับของคำคุณศัพท์
Determiner
Quality Size
Color
Origin
d
Noun ที่เป็น Adj
Head Noun
this,a,an,
expensive large
green
plastic
garden, glass
chair, hall
my, the
old
Small red
steel
German
mug, racket
โครงสร้าง
Verb + Adverb
Verb + Obj + Adverb
คำวิเศษณ์ (Adverbs) เพื่อขยาย adj, terb, adv.
ชนิดของค้าวิเศษณ์
1. Adverbs of Frequency เพื่อบอกความถี่ในการทำสิ่งนั้น ๆ Alway (tool) often (soil) Frequency (70)
Usually, Sometimes, Generally, Seldom, Hardly ever, Never (0%)
การวางตำแหน่ง
1. วางไว้หลัง V to be, to have
2. วางไว้หน้า กริยาแท้ Don't often go around there.
2. Adverbs of Manher
บอกอาการ ท่าทาง สถานะ คุณภาพ เช่น Happily, Quickly, Beautifully, Well, Fast
สามารถวาง หลังกริยาแท้ หรือ ท้ายประโยค เช่น He spoke fast. or He spoke English slowly.
3. Adverbs of Time บอกเวลา เช่น Today, Nesterday, Last, Soon, Stil, Tonight, Finally, Already, Before
4. Adverbs of Place บอกสถานที่ เช่น Here, Around, There, Somewhere, near
5. Adverbs of Degree บอกปริมาณ จะวางไว้หน้าคำ Adj, Adv หรือกะที่มันขยาย เช่น Very, Too, Quite,
Almost

ページ5:

การเรียงลำดับของกริยาวิเศษณ์
Tom is going
The professor Comes
Place
Manner
Frequency
Time
to Paris
by plane
Page 37
twice a week
during May.
She saw Jess at
Pink went
the
game
last Friday.
on the theatre
every night
last year.
Jury left
here
secretly
on Tuesday.
ค้นพบท (Prepositions)
คำที่ใช้แสดงสถานที่ ตำแหน่ง การเคลื่อนไหว ทิศทาง เวลา ลักษณะ และความสัมพันธ์
9
อาจเป็นคำเดี่ยว : at, between, from สองคำ : next to out of สามคำ : in front of, on top of ตามด้วย คำนาม
คำสรรพนาม หรือ กลุ่ม คำนาม นามวล ( Noun Phrase)
อกลุ่ม:
Location : above behind below beside between by in inside near on over through
Time
after before by during from on past since
Movement against along down from into off on onto
through to until upon
out of toward
up upon
ตารางการใช้ Preposition of time and Location ของ
IN - ON - AT
Time IN – ON - AT Location
Centuries The too
Decades The 80's
Years 1970, 1901
Months July, May
Weeks 2 Weeks
Days
Weekend
May 7th, 1964
My Birthday
Friday
The Weekend
General (Bigger)
IN
More Specific
ON
Smaller
AT
7 am
Hours 12 o'clock
5pm
smallest
England Country
London
Chinatown Neighborhood
Oxford Street Streets
The Corner Avenues
734 Oxford Street Address,
The Store
Specific
Location
การใช้ During Between, Among
1
During : บอกระยะเวลา การกระทำช่วงใดช่วงหนึ่ง ตามที่ระบุในประโยค เช่น During visiting Myanmar, I've seen many things.
Between : คั่นระหว่างของสองอย่าง คน 2 คน (เมื่อใช้ Between ต้องมี and ตามเสมอ) It's the problem between you and me.
Among : ใช้คั่น หรือเชื่อมขาม ตั้งแต่ 3 ขึ้นไป เช่น Paul is standing among us.
การใช้ On, Over, Above
Oh : บอกของที่วางอยู่บน
พัด งู ปูพบท
1. บุพบทวลชนิด 2 ตัว
2. บุพบทวลีชนิด 3 ตัว
in front of ข้าง ข้า
of the point of เก็บจะ
Over : บอกของที่วางอยู่เหนือหัวพอดี : Above ใช้บอกอยู่ด้านบน (กว้าง)
according to mม
instead of แทน
เพลงจาก
because of เพราะว่า
in order to เพื่อที่จะ
owing to
by means of โดยอาศัย
for the sake of เมื่อเห็นแก่ in spite of ถึงแม้ว่า
in consequence of เองกว่า
THANK
YOU!