ページ1:

Present Simple
He/She/It/Singular + V.1 (s,es,ies,ves)
I/You/we/They/Plural + V.1
ค่าที่บอกถึงกิจวัตรประจําวัน
E
*Singular คือประธานที่ไม่เติมร
*Use Do/Does*
always,usually,generally,often, sometimes,everyday,every week
Don't forget
-everyone, everybody
is singular.
-people,persons are
plural.
ตัวอย่างประโยค
How to use es,ies,ves
-es เติมหลัง s,sh,ch,x,o
-ies เติมเมื่อลงท้ายด้วย เปลี่ยนy->i แล้วเติมes
−ves จะเติมกับV.ที่ลงท้ายด้วยf,feตัด, feแล้วเติม
vesลงไป เช่น calf –>calves.
1.I always reading at Sunday morning. 3.I am a student.
2.She wears short skirt.
4.Jennie lives in London.
u)

ページ2:

Present Continuous
Subject+Is,Am,Are+V.ing.
Verbเสียงสั้นที่มีสระ(a,e,i,o,u)ต้องเติมตัวสะกดตัวท้ายเพิ่มอีก1ตัว
ส่วนVerbที่ลงท้ายด้วย ให้ตัดอออกแล้วเติมing
คําที่บอกถึงเวลาในPresent Continuous Now, Today,At the moment
This week,This month,At the weekend.
ตัวอย่างประโยค
1.She is waiting her dad.
2.You are right.
3.I'm cutting paper.
4.He isn't listening to music
right now.
Important
บางทีโจทย์ไม่มีการระบุเวลาที่
ชัดเจนมา ต้องมองรูปประโยค
ให้ออก แปลให้ได้ หาkeywordว่า
โจทย์ต้องการสื่อถึงเหตุการณ์ใน
เวลาใด
TAKE NOTE
I'm or I am
I is X
u)
El

ページ3:

Present Perfect
Subject + has/have +V.3
ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตที่มีผลมาถึงปัจจุบัน
BREAKFAST
NOTE
*ever, never, just, already
อยู่หน้าverbเสมอ
yetอยู่ท้ายประโยคเสมอ ใช้
กับquestionหรือประโยค
ปฏิเสธ
เพิ่มเติมkeyword
since ตั้งแต่ คือจุดเริ่มต้นของเวลา
ตัวอย่างประโยค
1.She has never swim.
2.I have lived in Bangkok since 1990.
3.The bus has already arrived.
4.How long have you lived in England.
5.How you ever been to Disneyland ?
ever since ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
for เป็นเวลา คือการกล่าวถึงระยะเวลาในช่วงหนึ่ง
so far/up to now จนกระทั่งตอนนี้
up to the present จนถึงปัจจุบัน
93
:)
E

ページ4:

Past Perfect
Subject+had+V.3
ใช้กับประโยคที่มี2เหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีตโดยเหตุการณ์แรกจบไปแล้วจึงมีอีก
เหตุการณ์เกิดขึ้นตามมา
เนื่องจาก 2 เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในอดีตใน
เวลาใกล้เคียงกัน และจุดเด่นของ Past
Perfect Tense คือใช้เล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งซึ่ง
จบไปแล้วอีกเหตุการณ์จึงค่อยเกิดขึ้น ดังนั้น
เราจึงมักพบคำเชื่อมประโยค เช่น after,
already, just, yet, until, till, as soon as,
when, by the time
ตัวอย่างประโยค
1.I had waited for 2 hours before they came.
2.After my friend had left, I went to bed.
3.Before I went to my house, I bought sofa.
u)
อ

ページ5:

Present Perfect Continuous
Subject+has/have been+V.1 ing.
ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรื่อยๆในอดีตจนถึงปัจจุบันหรือใช้แทนPresent Perfectได้ใน
ความหมายที่เหมือนกัน
Note: กริยาที่ไม่แสดง
ความต่อเนื่องของการกระ
ทำจะไม่สามารถใช้ Tense
นี้ได้
ตัวอย่างประโยค
1.Belly has been living in Tokyo since 1990.
2.My dad has been talking on the phone for an hour.
3.She has been studying at London for 3 years.
ตัวอย่างของกริยาที่ไม่แสดงความต่อเนื่อง ex. believe, cost, dislike, envy, forget, hate, know,
like, love, need, see, taste, understand หรือ want เป็นต้น
นอกจากนี้จะไม่ใช้ just, already, never, finally กับ Present Perfect Continuous Tense
อ

ページ6:

Past Simple
Subject+V.2
ใช้กับเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว
Key word บอกเวลาซึ่งจบไปแล้ว ที่พบบ่อย ๆ ในประโยค Past Simple Tense ได้แก่ Yesterday,
Last, Ago โดยใช้ร่วมกับคำบอกเวลาอื่น
ตัวอย่างกริยาช่อง2
boon
กลายเป็น
ช่องที่ 1
ช่องที่ 2
ช่องที่ 3
ความหมาย
be
เป็นอยู่คือ
become
became
become
break
broke
broken
แตก หัก
bring
brought
brought
น่ามา
build
bullt
built
สร้าง
buy
bought
bought
60
come
came
come
มา
do
did
done
ท่า
drive
drove
driven
ขับรถ
eat
ate
eaten
น
fool
folt
felt
รู้สึก
get
got
gotton
ได้
give
gave
given
ให้
leave
left
left
run
ran
run
ง
Sell
sold
sold
st
sat
sleep
slept
slept
ออกจาก
ขาย
บัง
นอน
ๆ
ตัวอย่างประโยค
1.I went to Malaysia 3 years ago.
2.G-Dragon didn't come back last year.
3.Did
You see my wallet at school ?
4.I bought Iphone13 for 1 year ago.
5.The plane arrived twenty minutes ago.
u)
E

ページ7:

SPast Perfect Continuous
Subject+had+been+V.1 ing
ใช้กับประโยคที่บอกความต่อเนื่องจากเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นในอดีต
เน้นให้เห็นถึงความต่อ
เนื่อง ประโยคที่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทีหลัง ต้องอยู่ในรูป Past Simple (Subject + V.2)
-ใช้
Past Perfect Continuousกับ
เหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้น และต้องการ
เน้นให้เห็นความต่อเนื่องของเหตุการณ์
นั้นที่ได้ดำเนินมาเรื่อย ๆ ในอดีต
-ในประโยค Past Perfect
Continuous มักมีคำที่บอกถึงช่วงระยะ
เวลาเข้ามาด้วย เช่น for 2 hours, for
20 years, by the time
ตัวอย่างประโยค
1.My aunt had been living in London
for 3 years before she moved to USA.
2.Mark had not been having dinner
when I arrived.
3.Had you been waiting for me?
E

ページ8:

Past Continuous
Subject+was/were+V.1ing
ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต,เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่มีอีกเหตุการณ์นึง
แทรกเข้ามาในอดีต,เหตุการณ์ที่เกิดพร้อมกันในอดีต
Key word while, when, as ถือว่าเป็นตัวสำคัญที่บ่งบอกว่าประโยคนี้เป็นประโยค Past continuous
Itense
- ประโยคที่อยู่หลัง while และ as ใช้
past continuous (Subject + was/were
+V.ing) เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ยังจะเกิด
ต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง
-ประโยคที่อยู่หลัง when ใช้ past simple
(Subject + V.2) เพราะเป็นเหตุการณ์ที่
แทรกเข้ามาสั้น ๆ และจบไปแล้ว
ตัวอย่างประโยค
1.It was raining at morning yesterday.
2.I was sleeping when the phone rang.
3.While I was watching movie, my boyfriend
was eating popcorn.
u)
E

ページ9:

Future Perfect
Subject+will+haye+V.3
-ใช้กับเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ที่คาดว่าจะสิ้นสุดลงแล้วในอนาคต
-2 เหตุการณ์ โดยในอนาคตมีเหตุการณ์หนึ่งดำเนินมาจนจบสิ้นลงพอดีกับอีก
เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น
ตัวอย่างประโยค
1.I will have finished my report by tomorrow.
2.I won't have seen dentist tomorrow.
3.Airplane will have left when we get the station.
4.They will have dressed when my dad picks then up
(n.
E

ページ10:

Future Continuous
Subject+will, shall+be+V.1 ing.
-ใช้กับเหตุการณ์หนึ่งเดียวที่คาดว่าจะเกิดในอนาคตโดยระบุเวลาชัดเจน
-ใช้กับการคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแต่ไม่พร้อมกัน
73
MEMO
การใช้ Future continuous tense มี
ความใกล้เคียงกับ Future simple tense
เพราะว่าเป็นการบอกถึงเหตุการณ์ที่กำลัง
จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าเหมือนกัน แต่
แตกต่างกันตรงที่ Future continuous
tense จะเห็นภาพเหตุการณ์ชัดเจนกว่ามี
ความแน่นอนที่จะเกิดขึ้นมากกว่า
ตัวอย่างประโยค
1.I will go shopping at 10 a.m.
2.My friends and I be having test at Monday.
3.Teacher will be teaching when I arrive
tomorrow.
อ

ページ11:

Future Simple
Subject+will,shall+V.1
-ใช้กับเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิด หรือมีโอกาสที่จะขึ้นในอนาคต โดยที่เหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น
หรือไม่เกิดขึ้นก็ได้
-ใช้ในโครงสร้าง If-clause แบบที่ 1 แสดงถึงเหตุการณ์ที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้น เมื่อมีอีก
เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นมาก่อน
-ใช้กับการให้สัญญา หรือการเสนอสิ่ง ๆ หนึ่งให้ผู้อื่น
-ใช้กับเหตุการณ์ที่เพิ่งคิดได้ว่าจะทำเดี๋ยวนั้น ไม่มีการเตรียมตัวมาก่อนล่วงหน้าว่าจะทำ
ตัวอย่าง
1.I will go to school.
3.I will give you 100 baht if you wash
your hands.
2.If Karma doesn't come, I will go.
u)
E

ページ12:

Future Perfect Continuous
Subject+will+have+been+ V.ing.
E
-ใช้พูดถึงเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งได้ดำเนินต่อเนื่องมาแล้วเป็นระยะ
เวลาหนึ่ง และในเวลาอนาคตที่อ้างอิงนั้นก็ดำเนินไปต่ออีกสักพัก มีการระบุระยะเวลาอย่าง
ชัดเจน
-ใช้พูดถึงสองเหตุการณ์ในอนาคต โดยมีข้อสังเกตว่า ในประโยคจะระบุอย่างชัดเจนว่า
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นมานานเพียงใดแล้ว จากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ที่ 2 ตามมา
ตัวอย่างประโยค
1.I will have been moving to Japan next month.
2.At 10 a.m. tomorrow, we will have been studying for 12 hours.
3.I won't have been waiting for you for 30 minutes when you arrive.
4.The train will have been arriving in 10 minutes when we finish eat hamburger.
BUTTER
u)