ノートテキスト
ページ1:
+.* 3.การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ** หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬา โลกมหาราช ทรงปราบจลาจลภายในกรุงธนบุรี และสร้างความมั่นคงภายในประเทศแล้ว พระองค์ ทรงย้ายราชธานีจากกรุงธนบุรีซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวัน ตกมายังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาและตั้ง ชื่อใหม่ว่ากรุงเทพฯ ทั้งนี้เนื่องด้วยสาเหตุหลาย ประการ คือ พระราชวังเดิมของกรุงธนบุรีคับแคบ มีวัดขนาบ อยู่ทั้ง 2 ด้าน คือ วัดแจ้ง (วัดอรุณราชวราราม) และวัดท้ายตลาด (วัดโมลีโลกยาราม) ทำให้ไม่ สามารถขยายอาณาเขตของพระราชวังให้กว้าง ขวางขึ้นได้
ページ2:
พระองค์ไม่ทรงเห็นด้วยที่จะให้พระนครแบ่งออก เป็น 2 ส่วน โดยมีแม่น้ำเจ้าพระยาผ่ากลางเป็น เสมือนเมืองอกแตก ดังเช่น เมืองพิษณุโลก สุพรรณบุรี เพราะหากข้าศึกยกทัพมาตามลำน้ำ ก็ สามารถบุกตีใจกลางเมืองหลวงได้ ทําให้ยากแก่ การป้องกันพระนคร ครั้นจะสร้างป้อมปราการทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ ก็จะเป็นการสิ้นเปลืองเงินทองมาก ทําให้ยากแก่การเคลื่อนพลจากฝั่งหนึ่งไปยังอีก ฝั่งหนึ่ง ซึ่งเป็นการยากล่าบากมาก ดังนั้นพระองค์ จึงย้ายพระนครมาอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ เจ้าพระยาเพียงแห่งเดียว โดยมีแม่น้ำเป็นคูเมือง ทางด้านตะวันตก และใต้ ส่วนทางด้านตะวันออก และทางด้านเหนือ โปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองขึ้น เพื่อเป็นคูเมืองป้องกันพระนคร
ページ3:
พื้นที่ทางฝั่งตะวันออกเป็นที่ราบลุ่ม สามารถขยาย เมืองให้กว้างขวางออกไปได้เรื่อยๆ ตรงบริเวณที่ ตั้งพระนครพื้นที่เป็นแหลม โดยมีแม่น้ำเป็นกำแพง กั้นอยู่เกือบครึ่งเมือง ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่เป็น ท้องคุ้ง นํ้ากัดเซาะตลิ่งพังทลายอยู่เสมอ จึงไม่ เหมาะแก่การสร้างอาคารหรือถาวรวัตถุใดๆ ไว้ริม ฝั่งแม่น้ำ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีรับสั่งให้สร้างเมืองใหม่ทางฝั่งตะวันออกของ แม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่บริเวณหัวโค้งแม่น้ำ เจ้าพระยา คือ บริเวณพระบรมมหาราชวังใน ปัจจุบัน พระราชทานนามเมืองใหม่นี้ว่า “กรุงเทพมหานครบวรรัตนโกสินทร์ มหินทรา ยุทธนา มหาดิลกภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดม ราชนิเวศน์ มหาสถานอมรพิมาน อวตารสถิต สักก ทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์" ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงเปลี่ยนจากคำว่า “บวรรัตนโกสินทร์” เป็น “อมรรัตนโกสินทร์”
ページ4:
ในการสร้างพระมหาบรมราชวัง โปรดเกล้าฯ ให้ สร้างวัดขึ้นภายในด้วย คือ วัดพระ ศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว แล้วให้ อัญเชิญพระแก้วมรกตขึ้นประดิษฐาน ทรง พระราชทานนามใหม่ว่า “พระพุทธมหามณีรัตน ปฏิมากร" เพื่อเป็นสิริมงคลแก่กรุงเทพฯ
其他搜尋結果
推薦筆記
News
留言
尚未有留言