28. ข้อใดกล่าวผิด กี่ยวกับการปรับตัวด้านโครงสร้างให้เขากับสิ่งแวดก้7«
ก. พืชป้าชายเลน เช่น แสม ลําพู อยู่ในน้าขังจึงมีรากหายใจ
ๆ สําค้นกระบองเพชรสร้างอาหารแทนใบที่ลตรูปกลายเป็นหน
เง ฉักจับแมลงเพราะขาดธาตุโนโตรเจน
ค. ใบหม้อข้าวหม้อแกงลิง
สาหร่ายหางกระรอกมีปากใบจํานวนน้อยเพราะอยู่โนสภาพแวดล้อมทีเป็น”
)ลาใตของแต่ละวัน
เพืชจะเกิดขึ้นมากที่สุดในช่วงเวง
เกาศเย็นในดินมีน้้ามาก
29. การดูดน้า1
ก. ฝนตอนกลางคืน เพราะว่าอาก
ข.ในตอนบ่าย เพราะว่าแดดจัดอากาศร้อนพืชคายน้้ามาก “
ค. ในตอนเข้าเพราะว่าพืชได้รับแสงแดด เมกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงซ่งต้องใชน้ามาก
ง. พืชจะดูคน้้าด้วยอัตราที่เท่ากันตลอิดเวลา
30. ปัจจัยที่สําคัญที่ทําให้บ้าขึ้นสู่ยอดไม้สูงๆ ตรงกับข้อใด
ก, ความคดของบรรยากาศโดยรอบต้น
ข. แรงดึงที่เกิดในไซเล็มเนื่องจากการคายน้า
ค. แรงดึงที่เกิดในไซเล็มเนื่องจากการดูดน้าของราก
ง. แรงคันที่เกิดเนื่องจากไซเล็มตีบมาก
3ม การสูญเสียนั้วของพืชในรูปของหยดนั้าที่เรียกว่า กัดเตขัน จะเกิดในช่วงใด
ก. สมพัดตลอดเวลา ข.มีแสงแดดจัด ค- ภายหลังฝนตกไม่นาน ง. ไม่มีฝนตกมาเป็นเวลานาน
32. บลกรธอไแแอน์อท กับ รูน!แลนีอก แตกต่างกันในเรื่องใด
1..รูปแบบของน้้าที่สูญเสียออกไป ซุ
ซิ โครงสร้างหรือช่องทางที่สูญเสียน้า
3 ข่วงเวลาหรือสภาพอากาศในขณะที่มีการสูญเดียน้า
ก. 1 และ 2 ข.2และ 3 ค.1และ 3 ง12และ3
33. บริเวณที่มีการดูดน้้าของรากพืช คือส่วนใด.
ก. 1066.90 ข.แอ(ทด! 2อก
ง. 2อท6๐6. ๐๕! ๕(อกฐูสซ่วก2 6
ค. ๓ท6ท่รไธศุทธน์๐ 20กร น
36. การเคลื่อนที่ของบั้กในดินเข้าสู่รากพีชหางอโพพลาสต์ เมื่อผ่านเซลล์ขั้นใดต้องวกเข้าทางจิมพลาสต์ และ
เนื่องจากถูกกั้นไว้ด้วยอะไร อ
ป ข. เอนโดเตอร์มิส แคสพาเรียนสตริพ
ก. เอนโดเดอร์มิส คิวทิน
ค. คอร์เทกซ์ แคสพาเรียนสตริพ ง. เพรีไซเคิล คิวทิน