ノートテキスト
ページ1:
จํานวนจริง ประกอบด้วยจน ตรรกยะ และในตรรกยะ จ. รรกยะ จน.จริง จน. ตรรกยะ มะที่ไม่ใช่จนเต็ม จนเม " จน.ม- ทน.เสม น. ม + จน.ครกมะ จน. รรกยะ 2 TH.' I ทน.นับ ที่เขียนในรูปเป็นส่วน ๆ ได้เมื่อ 4,6 • จน.ม และ 6 ≠ 0 หรืออยู่ในรูปทศนิยมซ้ำ เช่น 1, 0-4, -2, 0 ฯลฯ จน.อตรรกยะ 2 3.. ที่ไม่สามารถเขียนในรูปเป็นส่วนหรือทศนิยม เช่น 2, 2.737337333..., 12, 1 ทศนิยมซ้ำ 2 น. ตรรกยะ ซึ่งอาจเป็นนิยมศูนย์ เช่น 3.410, 5.210 แต่ไม่นิยมเขียน 0 EX1. EX 1. EX4. จะเขียนเพียง 3.41, โดยสามารถแปลงเป็นเช่นส่วนได้ ดังนี้ 5.27 EX 2. 0.25= 90 25-2 23 10 EX 3. 658-6 625 = 3.458 F 110 370 ไม่ม・: 0 เศษส่วนเปลี่ยนเป็นทศนิยม เช่น 123 0.555... ± 0.5 EX 2. 25 19 0.252525... 0.25 EX 3. 10 0.2777... 0.27 EX S. 123 0.13666... = 0.13 177 0.123123123... 0.123 • รากที่ 2 ให้ 4 แทนจน จริงพวกใด ๆ หรือศูนย์ รากที่ 2 ของ 4 : 4 เป็นรากที่ 2 1 123 1. เพราะ : 1 - เป็นรากที่ 2 ของ 25 เพราะ 12 -0.1 เป็นรากที่ 2 ของ 0.04 เพราะ (-0.2) : 0.04 EX1. x² = 25 .. X : . : 5 5 หรือ x = =(-5)² 5 หรือ 5 EX 2.0-2 ยกกำาลังสองทั้งสองข้างของสมการ (√x)²= (10.2) จนจริงยกกำลังสองแล้วได้ 4 - รากที่ 2 ของ 0 : 0 รากที่ 2 ของ จน จริงมาก - จน ตรรกยะหรือจน ตรรกยะ อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น - รากที่ 2 ของ จน จริงคน 4 คน x = 0.2 24/01/64 14
ページ2:
สมบัติของรากที่ 2 2 1. การ +, - รากที่ 2 จะสามารถนำมาคิดได้ก็ต่อเมื่อรากที่ 1 เท่ากัน น่าเลขหน้าของรากที่ มา 1 - กัน เหลือรากที่ 2 เท่าเดิม EXL. EX2. +, 2333 = 553 1 - 3 T = 352 2. การ : รากที่ 2 ในน่าจน ในรากที่ 2 27 x กันได้เลย EX 1. 444 EX 2. 1 x 9 : 13 : 37 3. การ - รากที่ 2 ลำ - รากที่ 3 = √9 = 2 ให้ 4 แทน จน จริงพวกใด ๆ รายที่ 3 ของ4 : จน จริงที่ผูกกำลัง 3 แล้วได้ 4 เขียนแทนสัญลักษณ์ 14 การท่าโจทร ตัวอย่างที่ 1 จงหาผลลัพธ์ของ VX - 1 = 4 วิธีทา ยกกำลังสามทั้งสองข้าง จะได้ (√x-1)³ 4³ = การทําโจทย์ ให้น่าข้อสังเกต และคุณสมบัติต่างๆ มาประยุกต์ใช้ในการ ทำโจทย์เพื่อต. ง่ายขึ้น ตัวอย่างที่ 1 จงหาผลลัพธ์ของ 6 x 3 + 49 √2 √6×√3+49= √18 วิธีทา √2 ตัวอย่างที่ 2 จงหาผลลัพธ์ของ วิธีทา 3/5 + 10 √125 = √2 +49 +4√9 √9+4√9 59 = 5x3 15 3√5+10 √125 จบแบบกยกงมงายบน 3√5+ (2x5x √125 3√5+ (2x 3 xsx 5√5 35 + 2 √ 5 5√5 5√5 5√5 = 1 ตอบ x − 1 => 64 64 + 1 = 65 ตอบ x ตัวอย่างที่ 2 จงหาผลลัพธ์ของ 2x + 5 = 2 วิธีทา ยกกำลังสามทั้งสองข้าง จะได้ (√√2x+5)³ = 23 2x + 5 = 8 2x 8-5 2x 3 3 x = 2 ตัวอย่างที่ 3 จงหาผลลัพธ์ของ 43/2477 + 22744 วิธีทา 43/2477+23/2744 8 3√8 63/2744 2 ตอบ = 6 x 14 = 42 ตอบ 2 รากที j เป็นจนเต็ม ก ( เมล n เป็นจน.เสม และ 11) รากที่ n คุณสมบัติและการทำโจทย์เหมือนรากที่ 2 เพียงแต่ว่า n เป็นจน อะไรก็ถอดรากออกมาตามจนนั้นและคิดหาคำตอบต่อไป ท ตัวอย่าง จงหาผลลัพธ์ของ -1 + 3-1 27 X -√9 √64 วิธีทา -1 + 3 -1 √ 9 4-1 Xx Xx 3√27 6√64 4(-1) -3 12 = 6 = 2 ตอบ ตอบ 15
ページ3:
• เอกนาม = นิพจน์ที่สามารถเขียนให้อยู่ในรูปของการคุณของค่าคงตัวกับตัวแปรตั้งแต่ 1 + และเลขที่กำลังของตัวแปรแต่ละตัวเป็น 0 จนเต็ม 4 สัมประสิทธิ์ของเอกนาม ค่าคงตัวที่คุณอยู่กับตัวแปรของเอกนาม ดีกรีของเอกนาม ผลรวมหรือผลบวกของเลขที่กำลังของตัวแปรแต่ละตัวในเอกนาม EX1 EX2 4 - 35x10 สัมประสิทธิ์ : -35 ดีกรีของกนาม : 2 124x 4 7 2 สัมประสิทธิ์ * 124 เกรของเอกนาม : 2 Ax^ y'z การบวกและการลนเอกนาม สามารถทำได้เมื่อ 1. เอกนามทั้งสองมีตัวแปรเดียวกัน หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นเอกนามที่คล้ายกัน 1. เลขที่กำลังของตัวแปรเดียวกันในแต่ละเอกนามเท่ากัน 3. การ + และการ - เอกนาม จะนำเฉพาะค่าสัมประสิทธิ์มา การบวกเลิกนาม + - กันเท่านั้น ส่วนตัวแปรจะคงเหมือนเดิม ผลบวกของเอกนามที่คล้ายกัน : (ผลบวกของสัมประสิทธิ์) 4 (พจน์ของตัวแปรที่คล้ายกัน) 81 จงหาผลบวกของ 5x49x 5x * + 9x* (5+9)׳ = 14X X2 จงหาผลบวกของ 5'' + (11) 46 2 * 3/02/65 การลนเอกนาม 5a'b' (-2)ab' = [5+ (-2)] ab² = 3ab2 ผลคนของเอกนามที่คล้ายกัน : (ผลคนของสัมประสิทธิ์) 4 (พจน์ของตัวแปรที่คล้ายกัน) EX1 จงหาผลลบของ เx - 3x 6x′ - 8x* =(6-8)× = -2x² EX จงหาผลลบของ 94 . (-3) 46 Sa b³ (-3) ab³ [1-(-3)] a'b' (7+3)96³ = 12 a' b³ การคุณเอกรามกันเอกนาม ผลคุณของเอกนามกันเอกนาม : (ผลคุณของสัมประสิทธิ์) x (ผลการคุณของตัวแปร) EX จงหาผลคูณของ (-24 ) (5 x 3) (-2x²) (5׳ ³) = (-2 × 5) (x²+3) (y **³) = -10x³ y₁ 16
ページ4:
• พหุนาม นิพจน์ที่อยู่ในรูปเอกนามหรือรูปการพวกของเอกนามตั้งแต่ 2 เอกนาม : พหุนามที่มีเอกนามที่คล้ายกัน เรียกเอกนามที่คล้ายกันว่านอนที่คล้ายกัน พหุนามที่มีนิพจน์ทางนิพจน์คล้ายกัน สามารถเขียนให้อยู่ในรูปพหุนามในรูปผลสำเร็จ โดยรวมพจน์ที่คล้ายกันเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เป็นพหุนามที่ไม่มั่นจนกลายกันเลย พหุนามในรูปผลสำเร็จ : พหุนามที่ไม่มีพจน์ใดคล้ายกันเลย : ดีกรี กรีของพหุนาม เลขที่กำลังที่มีค่าสูงสุดของพจน์ของพหุนามในรูปผลสำเร็จ การเวกและสนทนา เนื่องจากพหุนามคือเอกนามที่พวกกันตั้งแต่ 2 2 เอกนาม+ 1. การพวกพหุนาม ให้นาพหุนาม : พจน์ที่กล้ายกันเท่านั้น + 1. การลบพหุนาม ให้บวกพหุนามที่เป็นตัวตั้งควยจน ตรงข้ามของมาแต่ละพจน์ของพหุนามที่เป็นตัวตน EX1 หาผลบวกของ Tx - x + 4 กัน x - 3x +6 (7x³- 6x + 4) + (x² - 3x+6)=7׳ - 6x² + 4 + x² - 3x+6 = 4x² + (-6x² + x²) - 3x + (4+1) =7x³-5x-3x+10 EX หาผล นาคร 4x - x - 4 ตัว 3x - 2x + 4 (Ax³-3x-6)-(3x² - 2x + 4) = 4x³-3x-6-3x² + 2x-4 = 4x³-3x²-6x-10 การคุณมหนาม การคุณพหุนามกันเอกนาม นำเอกนาม : ทุกพจน์ของพหุนาม แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้มา + กัน การหาผลคุณสามารถใช้สมบัติตร 1. สมบัติการสลับที่ 4,5,6 แทนจนใด ๆ ca+bica-by-ca-b>ca+bs 1. สมบัติการเปลี่ยนหมู่ 4, 5, 6 แทนจน ใด ๆ (a+b) [ca-b) (a + c )] = [(a+b)(a - b)] (a+c) 3. สมบัติการแจกแจง 4, 5, 6 แทนจน ใด ๆ a acb+c) = ab + ac : (b+c) a = ba + ca การหาผลคูณของพหุนามในกรณีที่มีตัวแปรมากกว่าหนึ่งตัว EX จงหาค่าของ CX-Y) = (x-y) (x-7)(XY) = (XY) (x² - 2XY + Y) EX จะหาผลลัพของ ( 6x + 4) t3x + 5) = x (x²- 2xy + y²) - YCX² - 2XY + Y²) = x - 2x y + XX-X²Y + 2XY-Y³ = x³-3x² + 3x² - Y³ = 6x (3x + 5) + 4(3x + 5) 18x +30x + 12x + 20 = 18x + 42x+20 EX จงหาค่าของ (x + 1) X - Y) CX * Y) = (x + 1) (x - 1) = x (x² - Y² ) + 1 (x² - Y³) = x - xx +x - Y X 4/02/65 17
ページ5:
• การหารมานาม การหารพหุนามด้วยเอกนาม นำตัวการ : ทุกพจน์ของตัวตั้ง แล้วนำผลหารที่ได้มา + กัน โดยพหุนามตัวการ * 0 EXI EXA 4X Y 2x x.3x-x (2x)(2XY) = AX = 2XY 3x . x x x x การหารพหุนามด้วยพหุนาม ใช้วิธีตั้งทาง ✗ เป็นการหารลงตัว มี 4x1 : ตัวตัว มี 25 : ตัวหาร มี 1x : ผลการ = - x - 3x - 1, x + 0 เป็นการหารลงตัวที่ 2 - 2x - x - ตัวตัว มี 4 : ตัวหาร มี x - 3x-1 - ผลการ 1. เริ่มจนจนของตัวตั้งและตัวหารจากดีกรีมาก - น้อม 2. นำพจน์แรกของตัวหาร : พจน์แรกของตัวตั้ง แล้วเขียนผลการไว้บนบรรทัดเหนือตัวต = 3. นำผลการตัวแรก : ตัวการ เขียนผลลัพธ์ไว้ใช้บรรทัดตัวตนโดยให้ตำแหน่งบรรพจน์ที่มีเลขชี้กำลังเท่ากันตรงกัน 4. นำผลลัพธ์ที่ได้ไปลบออกแล้วครบจนถัดไปของตัวตั้งลงมาหนีรพจน์ เป็นตัวตั้งใหม่ 5. นิพจน์แรกของตัวการ : พจน์แรกของตัวตั้งใหม่ แล้วทำซ้ำขั้นตอนที่ 3 และ 4 จนกว่าดีกรีของตัวตั้งจะน้อยกว่าดีกรีของตัวการ 6. ตรวจสอบค่าตอบ EX (43x+14x-1)=(2x+9) (1.) เรียงพหุนามตัวตั้ง ตัวนาง มาก - น้อย 2x + 14x43x-91 (2.) พจน์แรกตัวหาร : พจน์แรกตัวตั้ง TX 2X +714x + 43x-71 (3.) ผลที่ได้จาก(2.) : 1% ไม่คุณ 2x + 1 = 14x + 13x 7x 2X+114x+43x-71 TX (2x+1)-14x + 63x (4.) ผลที่ได้จาก (3.) - ตัวตัว : -20% - 1 1X 2X+1 14x43x-91 14X +63X - 10 X-11 เต่าส่วนของพหุนาม = (5.) นำพจน์แรกของตัวการ : 2x ไป : พจน์แรกของตัวตั้งใหม่ : 102 - 1 ได้ - 10 = -20x-91 นามา x ตัวหาร - - 10x - 10 นำมา - - 10x - 11 เหลือเศษ 1 TX-10 2x+114x43x-11 14x+63x -20X-11 -10 (2x+1)->20x10 1 (14x43x-11)÷(2x+1)=1x-10-1 (4.) ตรวจสอบค่าตอบ เศษส่วนที่มีตัวเศษหรือตัวส่วน ทั้งเศษและส่วน : พหุนาม ส่วน 40 การบวกและการลบเศษส่วนพหุนาม ร ถ้า A, B, C และ D เป็นพหุนาม โดมที่ 2 20 จะได้ 5 EX X-Y 2X x-y 5(x+1)-2x (X-1)(x+1) 5X + 5Y - zx (X-1)(x+1) BX +5Y การคุณเศษส่วนพหุนาม A +- (2x+1)(x-10)+(-1) = (14x² - 20x + 63x-90) + (-1) A B C A+C = = B และ 8 B A-C B B B 5x-4 EX 3X 2x-1) = 6XLX2-1)-(5x-4) 2CX-1) 6x3 - 6x - 5x3 +4 2CX-1) = งเต x- เx + 4 2(X-1) - 14x + 43X - 10 - 1 =14x43x-11 ถ้า A, B, C และ D เป็นพหุนาม โดยที่ 6 + 0 จะได้ 65 C AK C B D = BxP หลักการคูณเศษส่วนพหุนาม 1) เมื่อตัวเศษ, ส่วน มีตัวประกอบร่วม นำตัวประกอบร่วม : ทั้งเศษ, ส่วน 1.) นิยมเขียนผลคูณของเห็นส่วนของพหุนามเป็นเศษส่วนของพหุนามในรูปผลสำเร็จ 18
ページ6:
2X-10 SX 415 4x+2x3 16X +8 EX1 15(x+3) 2 EX2 25x 625x6 2CX-5) x 5(x+3) 2x³ (2x²+1) 625x = 15(x+3) 2 = 25x BC2X+1) X-5 = 3 = การหารเก่าสวนนทนา b EXT X-1 = เ + x x-1 -(x-1) - 17 EXI X-Y x'-y' (X-Y) 3X+3XY X-Y (X-1)(x+1) 3XY(X+Y) (X-1) = 3XY LX-432 การทำโจทย นำวิธีข้างต้นทั้งหมดมาประยุกต์ใช้โดยสมบัติต่าง ๆ ยังเหมือนเดิม EX จงนาผลบวกของ X-4 และ x = 3X 10 X-4 + x(x-4) 3X+7(x-4) = XCX-4) XCX-4) = 3x+7X-29 10X - 27 XCX-4) XCX-43 x-1 x EXi จงหาผลลบายๆ X43 และ 241 = 10x - 29 ส X-4X = = (x-1)(x+1) XCX+3) (x+3)(X+1) (X+33(X+1) (X-1)(x+1)-x(x+3) (x+3)(x+1) (x²-1)-(x²+3X) (x+3)(x+1) x²-1-x²-3x (x+3)(x+1) -3x-1 (x+3)(x+1) น -3x-1 x+4x+3 15/02/65 - ด้านตรงข้ามมมนากจะยาวที่สุด ' • รูปสามเหลี่ยมมุมฉาก - 4 ที่มีมุมใดมุมหนึ่งเป็นมุมฉาก ส่วนประกอบ 4 มุมมาก 0 = มม ก ด้าน Ac : ด้านตรงข้ามมุมฉาก ก้าน BA, BC : ด้านประกอบมุมมาก กระฎีบทพีทาโกรัส A นิยาม : พท. ของ D จัตุรัสขนด้านตรงข้ามมุมจาก : ผลรวมของพุท จัสตุรัส มนานประกอบมุมฉาก c² = a² + b² • ตรีโกณมิติ B ข้าม a Sin A E จาก COS A tan A หิด = จาก = าม หิด = = C a มุม 0 | 30 45 sin 0 Cos tan 123 1 03 b 2 1 60 | 90 1 32 -23 √√300 C a sin 2 ฝั่งซ้าย I cos : ดงขวา tan sin cos b 19
ページ7:
0 เส้นขนาน - เส้นตรง 2 เส้น อยู่ระนาบเดียวกัน ไม่ตัดกัน // แทนก่าว่า ทานกับ สมบัติของเส้นขนาน A B D เมื่อ ' // D AB // CD E G +7 : นมแบ่ง 1 • มุมแบ่งเท่ากัน : ขนานกัน 1 มุมภายใน, มุมภายนอกที่อยู่ตรงข้ามอนข้างเดียวกันของเส้นตัด : ขนานกัน เส้นขนานและรูป 1. ขนาดของมุมภายใน 6 รวมกัน : 130 2. ถ้าต่อด้านใดด้านนึ่งออกไป มุมภายนอก : ผลบวกของมุมภายใน 4 มุมประชิดของมุมภายนอกนั้น จุด เส้นตรง ส่วนของเส้นตรง รังสี 1 1. จุด แสดงตำแหน่งต่าง ๆ . เน ชื้น - A EX 2. ส่วนของเส้นตรง มีค.ยาวจำกัด เช่น A 3. เส้นตรง มีค.ยาวไม่จำกัด เช่น 4. รังสี ส่วนหนึ่งของเส้นตรงมีจุดปลายจุดเดียว เช่น 0 สมบัติของมุม AB AD ผม : รังสี 2 เส้นที่มีจุดปลายจุดเดียวกัน เรียกรวม 2 เส้นว่า แขนบธรรม เรียกจดปลายว่า จุดยอดมุม C A B ม 48 ชาดา รมมีหน่วยเป็น องศา P Y = 40° + 76 Y=11 . การ าเนกชนิดรวม 1. มุมเหลว : 1 - 1 4 1. มุมฉาก = 10° 3. มุมบ้าน - 1 - 17 • ความเท่ากันทุกประการ : 4. นมตรง = 180° 5. มุมกลับ 181357 b. มุมรอบจุดศูนย์กลาง : 360 รูปเรขาคณิต : รูปเท่ากันทุกประการ เอารูปไปทับกันได้สนิทพอดี บางรูปอาจต้องหมุนเพื่อให้ได้มุมที่สมนมกัน A B - A เท่ากันทุกประการกับ B มุม : มุมเท่ากันทุกประการ : มุม 12 ความเท่ากันทุกประการของรูป A มุมนั้นมีขนาดเท่ากัน รูป 2 รูปที่มีค. สัมพันธ์แนน ด้าน - มุม - ด้าน (ค.ม.ค.) มีด้านยาวเหมือนกันทั้ง 2 คู่ และ มุมในระหว่างด้านคู่ที่ยาวเท่ากันมีขนาดเท่ากัน รูป 6 2 รูปที่มีศ. สัมพันธ์แนบ มุม - ด้าน - มุม (ม.ค.ม.) มีมุมที่มีขนาดเท่ากัน 2 คู่ และ ด้านที่เป็นแขนรวมยาวเท่ากัน รูป 4 1 รูปที่มีค. สัมพันธ์แบบ ด้าน ด้าน ด้าน (ด.ด.ด.) มีก้านยาวเท่ากันเป็นคู่ ๆ ทั้งหมดสาม 20
ページ8:
. สมบัติของรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว A หน้าจั่ว - 4 ที่มีด้าน 2 ด้านยาวเท่ากัน และมุมที่ฐานมีขนาดเท่ากัน ดังนั้นจะมีมุมยอด = 170 - ผลรวมของมุมที่ฐาน สมบัติของรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า 4 ล้านเท่า : - ที่มีก้าน 3 ด้านเท่ากัน และผมทุกมุมมีขนาดเท่ากัน - 10 รูปเรขาคณิตทุกค่ายกัน - รูปเรขาคณิต 2 รูปที่มีรูปร่างเหมือนกัน แต่ขนาดไม่เท่ากัน สมบัติความคล้ายของรูปเรขาคณิตต่าง ๆ * มุม ด - ด้านประกอบมุมย *มุมที่ฐาน แทน าว่า กล้ามกับ AN A B 1. รูป 4 ขนาดของมุมที่สมนมกันเท่ากัน ค.ยาวของด้านที่สนามกันเป็นอัตราส่วนที่เท่ากัน เช่น 3 กับ 4, 5 กับ 10, 4 กับ 5 1. รูป 0 ทุกรูปคล้ายกันหมด 3. รูป ) จัสตุรัสทุกรูปคล้ายกันหมด 4. รูป 0 ผืนผ้าทุกรูปเป็นรูปที่ไม่จำเป็นต้องคล้ายกัน โทมีปัญหาความคล้ายและการนำไปใช้ ตัวอย่าง ชายคนหนึ่งยืนบนพื้นราบ มองเห็นยอดเสาไฟฟ้าและยอดตึกหลังหนึ่งอยู่ในแนวเส้นตรง เดียวกัน ดังรูป ตึกสูง ถ้าชายคนนี้ยืนห่างจากเสาไฟฟ้า 30 เมตร และเสา ไฟฟ้าห่างจากตึก 18 เมตร 1. ถ้าเสาไฟฟ้าสูง 16.2 เมตร ตึกสูงกี่เมตร 2. ถ้าตึกสูง 50.4 เมตร เสาไฟฟ้าสูงกี่เมตร M วิธีทา เสาไฟฟ้า ให้ชายคนนี้ยืนที่จุด M NO เป็นความสูงของเสาไฟฟ้า PQ เป็นความสูงของตึก จากรูป A MNO ~ A MPQ จะได้ MN = NO 1. MP PO ถ้า NO = 16.2 เมตร หา PO 30 30 + 18 PQ => 16.2 PO 16.2 x 48 30 = 25.92 ดังนั้น ตึกสูง 25.92 เมตร 2. ถ้า 30 PQ = 50.4 เมตร หา NO 30 + 18 PQ = NO 50.4 30 × 50.4 48 M 30 N 18 P ตอบ = 31.5 ตอบ ดังนั้น เสาไฟฟ้าสูง 31.5 เมตร การหาพื้นที่ของรูปเรขาคณิตสองมิติ 1 สี่เหลี่ยม 1 ด้าน 4 ด้าน เรือ 1 x ผลคูณของเส้นทแยงมุม กาง×ยาว 0 จัสตรัส D ผื่นผ้า นมเปียกปูน ก้านขนาน งาน - ครู หรือ *ผลคูณของเส้นทแยงมุม 0 การท D รูปร่า ด้านไม่เท่า ฐานลง x ผลบวกด้าน นานสูง ผลคูณขอบเส้นทรงม 1 * เส้นเมรมมะ ผลบวกของต้นกิ่ง 2. สามเปลียน A ใ A ด้านเท่า 4 ที่รัก ยาวของด้านทั้ง 3 • ฐาน 4 สุข * ต้น √(5x(s-α)=(5-b)x(s-c) a+b+c 3. วงกลม เมื่อ x = 3.14 พท. เมล ร Tr² เล่นวล วงกลม 2πr 21
ページ9:
รูปทรงเรขาคณิตและสูตรพื้นที่ผิว ปริมาตร 1 ปริม รูปทรงที่มีฐานทั้ง 2 12 เท่ากันทุกประการ บนระนาบเดียวกัน ด้านข้างแต่ละด้านเป็นรูป มุมฉาก เราจะเรียกชื่อปริซึมแต่ละแนนตามฐาน • ปริมาตร : พท.ฐาน : ก.ล. พท. ผิวขาว ค.ยาวเล่นรอบทาน : ก.ส พท. ผิวทั้งหมด พระมิด ป D ฐาน, จาก -านช้า ส่วนสูง D พท. ผิวข้าง + พระฐานบนและล่าง : พท. ผิวข้าว +2 (พท.นาก) รูปทรงที่มีฐานเป็นรูปเหลี่ยมใด ๆ ด้านข้างทุกหน้าเป็นรูป A ที่มียอดแหลมร่วมกัน หมวกแหลมไม่อยู่ระนาบเดียวกันฐาน พีระมิดจาน ปริมาร พท.ด่านทาง * ค.ยาวรอบฐาน x เขียว พท.ผิวทั้งหมด มท. ผิวข้าง 4 มท. ฐานการ ทรงกระบอก จุดพบลด าแข่ สวยง ฐาน รูปทรงที่มีฐาน ฐานเป็นรูป 0 ที่เท่ากันทุกประการ อยู่บนระนาบที่ขนานกัน 1 มีหน้าตัดเป็น 0 % ฐานสมอ ฐาน, ก ปริมาตร พท.ทาน *สร Tirth กรวย พท. ผิวาว ก.ยาวรถมาขอรวมกลม * ส 2πrh m.ผิวทั้งนมด พท. ผิวช้าง + บท 1. ฐานทั้งสอง : Inth + Tr 2πrch+r) รูปทรงที่มีฐานเป็นรูปวงกลม มียอดเขลมที่ไม่อยู่ในระดานเดียวกันกับฐาน และเล่นต่อระหว่างจุดยอดกับจุดใด ๆ บนขอบของฐานเป็นส่วนของเส้นตรง 1 ปริมาตร พท. ผิวข้าง พท. ผิวทั้งหมด ทรงกลม 3 * มท. ฐาน 3 1 x ค.ยาวรอบฐาน : สงเขียว 1 227rx πrl h พท. ผิวข้าว + พท. ฐาน: Turl + Tr เ ทรงกรวย Mir (1+r) จุดบอด สง รูปทรงที่มีผิวโค้งเรียน และจุดทุกจุดบนผิวโค้งอยู่ห่างจากจุดนั้นเป็นระยะเท่ากัน ปริมาตร 3 πr' • มก. ผิว 4 4πr² ทรงกลม - วงกลมใหญ่ - เส้นผ่านศูนกลางจากคนใน จุดศูนกลาง รัศมี ฐาน ทรงกระบอก TIP : หลักการจําสตร์ 1. การหาปริมาตรของรูปทรงจะใช้ระยะของสงครมเสมอ การหาพุท 1. ผิวจะใช้ระยะสูงเขียงเสมอ 2. ถ้าฐานบน และฐานล่างเท่ากัน - ระยะของสงครมและส่งเสียงจะมีค่าเท่ากันเสมอ 3. สูตรหาปริมาตร มท. ผิวบ้าง กับสูตรหาปริมาตรม. ผิวขนมราษฎรรูปปริซึม และรูปพีระมิดคือสูตรเดียวกัน 22
ผลการค้นหาอื่น ๆ
สมุดโน้ตแนะนำ
News
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น