ノートテキスト
ページ1:
4. ..... ระบบอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย Ch.1) งานของระบม อวา ทางกายประกอบ โครงสร้าง ซึ่งสมซับซ้อน จาแนกได้ 16 ระบบ ได้แก่ ระบบประสาท (Nervous System) 2 ระบมิโครงกระดูก <Skeletal System / ข 3. 1.นมผิวหนัง (Integumentary System) 4. ระบบหายใจ (Respiratory System) Brain Spinal cord Brachial plexus Musculocutaneous nerve Radial nerve Median nerve liohypogastric nerve Genitofemoral nerve 5 Titanssion (Circulatory System > Obturator nerve- 6. ระบบย่อยอาหาร (Digestive System ) 4. ระบบขับถ่ายปัสสาวะ (Urinary System ? (Endocrin System ) 3. ระบบต่อมไร้ท่อ 4. สนม พ พันธ์ 10. ระบบกล้ามเนื้อ ระบบผิวหง > (Reproductive System ) (Muscular System ) Ulnar nerve Common peroneal nerve Deep peroneal nerve Superficial peroneal nerve ระบบอวัยวะต่างๆ ของร่างกายมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้มีชีวิตดำรง ต่อมร่างกายที่มีพื้นที่มากที่สดในทั้งกาย Cerebellum Intercostal nerves Subcostal nerve Lumbar plexus Sacral plexus Femoral nerve Pudental nerve Sciatic nerve Muscular branches of femoral nerve Saphenous nerve Tibial nerve บทบาทหน้าที่ ป้องกันปกปิดอวัยวะตายในไม่ให้ได้รับอันตราย, ป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย, รับความรู้ด้า เคอราติน ( Keratin) ใสและยาว ป้องกันผมร่างกาย การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดเคราทิน เรียกว่า เคอราตินเซน เช่น ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ระบบผิวหนังประกอบด้วย 2 น คือ 1. ท ง พา 1. พร้า (Epidermis) - เป็นผิวหนังส่วนบน - เป็นส่วนที่คลอดออก แล้วสร้างเซลล์ขึ้นมาทาดอยู่เสมอ - 4 2.ง ไม่มีนิวเคลียส n เซลล์ชั้นใน 69 หน้าที่ผลิตผิว (Melanin) เรียกว่า "สเตรทม เคอร์มินาม ที่เกิดขึ้นในชั้นผิวหนังกำพร้า ได้แก่ เล็บมือ เสียหา - 4 v 2. หนังแท้ (Dermis) - อยู่ใต้ผิวหนังกำพร้า ประกอบด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน 2 ชั้น คือ 1.1 ชั้นบนหรือชั้นต้น (Papillary Layer) มีหลอดเลือด และ ปลายประสาทฝอย ชั้นล่างหรือชั้นลึก (Reticular 2.2 Layer) มีใจมันอยู่ มีรากผมหรือขน และต่อมีใจมั่น V หน้ากว้า (Epidermis), หนังน (Dermis) ผม-เสบชน (Hair) แมเหลี่ย (Sweat gland) ต่อมไขมัน (Sebacous gland) ไขมัน (Fat) เนย า (Vein) เส้นเลือดแดง (Artery)
ページ2:
ระบบโครงกระดูก ทำหน้าที่พองและป้องกันอวัยวะภายในร่างกาย เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเนื้อ ช่วยในการ เคลื่อนไหวเคลื่อนที่ กรดในร่างกายมี 20 ชั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 206 ,1 2 I 80 4. กระดูกแกน (Axial Skeleton) - หน้าที่ จนและป้องกันอันตรายให้แก่อวัยวะภายในร่างกาย มี 10 ชิ้น ประกอบด้วย - v กะโหลกศีรษะ(Skull> มี 29 ชิ้น กระดกสินทáง (Vertebrae) มี่ 26 ชิ้น Ossicles (inner car Hyoid bone Skull Rib cage - - กระดูกซี่โครง (Ribs) มี 24 ชิ้น 3 กระดูกอก (Sternum) มี 1 ชิ้น Vertebral column Et กระดูกแกน กระดูกรยางค์ 1. กระดูกยางค์ (Appendicular Skeleton ) - เชื่อมกับกระดูกแกน หน้าที่ ค้ำจุน และเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว 92 ของร่างกาย มี 126 ชิ้น ประกอบด้วย 1 กระดูกแขน มี 64 ชิ้น (ช้าง 6. 30 ชิ้น) ¬ กระดกยา มี่ 68ชิ้น (ข้างละ 1 ชิ้น ) กระดูกของมนุษย์แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ 1 1. กระดูกอ่อน (Cartilage) เป็นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ประกอบด้วยเซลล์กระดูกอ่อน (Chondrocye) สารระหว่าง เซลล์ และเค้นใยชนิดต่างๆ ได้รับสารอาหารแทรกซึมผ่านสายระหว่างเซตมา เนื่องจากไม่มีหลอดเลือดฝอย 2. กระดูก (Bone ) เป็นโครงสร้างที่เจริญมาจากเนื้อเยื่อเกี่ยวกัน ประกอบด้วย เซลล์กระดูก (Osteocyte ) เส้นใยชนิดต่างๆ และสารระหว่างเซลล์ มีผลึกไฮดรอกซี่อะพาไทต์ ทำให้กระดูกมีความแข็งแรงมากกว่ากระดูกอ่อน อาหารไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปเลี้ยงเซลล์ได้ บริเวณนี้จึงมีหลอดเลือดแทรกหาไปทางช่องระหว่างเซลล์ 10 เรียกช่องว่างนี้ว่า ฮาเวอร์เซียน (Havevsian Canal ) ตรงกลางของกระดูก มีลักษณ จะโปร่งยีนโพรงคล้าย 4 4 ฟ ฟองน้ำ (Spongy bone) เป็นที่อยู่ของไขกระดูก ทำหน้าที่ สร้างเมื่อเลือกเพลง และเมื่อเลือดขาว ข้อต่อที่เชื่อมต่อกระดูก มี 2 ประเภท 4. 1. ข้อต่อที่เคลื่อนไหวไม่ได้ (Innovable Joints ) - ทำหน้าที่ยึดกระดูก เช่น ข้อต่อกระโหลกศีระ (Suture) 2. ข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ <Movable Joints) - มีหลายรูปแบบ เช่น แบบบานพับ (Hinge) พบที่ข้อต่อ กระดูกนิ้วมือ นิ้วเท้า มีการเชื่อมต่อคล้ายลูกกลมในหน้า (Ball and Socket) พบที่ข้อต่อของหัวไหล่และสะโพก ข้อต่อที่ข้อมือ เรียกว่าไกลถึง (Gliding) ข้อต่อที่ต้นคอกับกะโหลกศีรษะเป็นข้อต่อที่มีเลื่อยสวมประกบกัน (Pivotal) จากการศึกษาพบว่าบริเวณข้อต่อ จะมีการสร้างของเหลว เป็นเมือกคล้ายไม่ขาวหล่อลื่นอยู่เพื่อไม่ให้เสียดสีกัน นอกจากบริเวณข้อต่อ ยังมีเส้นเอ็น (Tendon) หรือ อีกเมนต์ (Ligament) ช่วยยึดกระดูกได้อีกด้วย ความสำคัญของระบบโครงกระดูก - เป็นที่ยึดเกาะกล้ามเนื้อ - ประกอบโครงสร้างส่วนที่เพิ่งของร่างกาย - เป็นที่สร้างเม็ดเลือด - เก็บขาย แคลเซียม ฟอสเฟต และแมกนีเซียม - ป้องกันสวย ภายในร่างกาย เช่น ปอด หัวใจ ตับ สมอง How Bones Work Types of Joints Pivot Boll and Socket Hinge Saddle ข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ Gliding Conyloid
ページ3:
ระบบกล้ามเนื้อ - ทำงานร่วมกับระบบโครงกระดูก ประกอบด้วย การเคลื่อนไหวทั้งหมด และเป็นกล้าม 1. กล้ามเนื้อลาย (Striated Muscle or Crosstripe Muscle) มีลายตามขวาง เกาะติดกับกระดูกหรือโครง ช่วยทำให้เป็นรูปร่างของร่างกายและควบคุมได้ นับว่าเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคลื่อนไหวทั้ง เนื้อที่แข็งแรงที่สุด ลักษณะในการทำงานของกลางเนื้อลาย คือ ดึงกระดูกให้มีการเคลื่อนไหวตายที่ต้องการ กระดก ช 1 1 1 2. กล้ามเนื้อเรียบ (Smooth Muscle) มีลักษณะเรียบ ไม่สามารถควบคุมได้หรือทำงานแบบอัตโนมัติได้ เป็นส่วนประกอบของอวัยวะในร่างกาย Ex. กล้ามเนื้อที่หลอกลวง ขอด มดลูก กล้ามเนื้อเรียบตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ดี EX. การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและกรุงรส ประสาท กล้ามเนื้อเรียบมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลง ส่วนประกอบของเลือดหรือในเนื้อเยื่อ ฮอร์โมน วิตามิน ยา เกลือ กรด ด่าง 3. กล้ามเนื้อหัวใจ (Cardiac Muscle) พบบริเวณหัวใจ และผนังเส้นเลือดใหญ่ที่ทำเลือดเข้าสู่หัวใจเท่านั้น เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ คล้ายคลึงกับเซลล์กล้ามเนื้อตาย กล้ามเนื้อหัวใจมีลักษณะแตกกิ่งก้านและคนกันมีรอยต่อ และช่องระหว่างเซลล์ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีความต้านทานไฟฟ้าต่ำ ทำให้ส่งกระแสไฟฟ้าผ่านทุก cell หนึ่งไปยังอีก cell หนึ่งได้ Smooth Muscle Tissue Cardiac Muscle Tissue Skeletal Muscle Tissue ด ความสำคัญของระบบกล้ามเนื้อ ช่วยให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ เป็นที่เกิดพลังงานของร่างกาย ช่วยในอวัยวะภายในต่างๆทุกภาพได้ตามปกติจ และมีประสิทธิภาพ ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย - ป้องกันอวัยวะภายในไม่ให้ ไม่ให้ได้รับความกระทบกระเทือน การสร้างเสริมและทรงประสิทธิภาพ - ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปทน 3 ครั้ง วันละอย่างน้อย 30 นาที – กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควรรีบไปพบแพทย์ ถ้าเกิดความผิดปกติ เช่น การปวดหลังเรื้อรัง ควรรีบ พักผ่อนให้เพียงพอ - ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ อย่างสม่ำเสมอ
ページ4:
44.4) การวางแผนพัฒนาสุขภาพ 1 องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ให้ความหมายของสุขภาพว่า ภาวะแห่งความสมบูรณ์ของร่างกาย จิตใจ และปัญญา รวมถึง การตรงชีวิตอยู่ ตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข ปัจจุบัน สุขภาพมีองค์ประกอบ 4 ส่วน ได้แก่ 1. มิติทางกาย หมายถึง มีร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยโดยไม่จำเป็น ไม่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร 2. มิติทางจิตใจ หมายถึง มีจิตใจดี มีความสุข ไม่เครียด และรู้จักวิธีจัดการความเครียด 3. มิติทางสังคม หมายถึง มีการพึ่งพาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข 4. มิติทางปัญญาหรือจิตวิญญาณ หมายถึง การมีจิตใจที่เปี่ยมสุข เข้าถึงความดีงาม ถูกต้อง มีเมตตากรุณา การวางแผนพัฒนาสุขภาพ หมายถึง การกำหนดแนวทาง วิธีในการสร้างสุขภาพ ดูแล ส่งเสริมสุขภาพล่วงหน้า M มิติทางกาย ความสำคัญ ของการวางแผนพัฒนาสุขภาพ เพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้มีความสมบูรณ์ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำด้วยตนเอง คนอื่นทำไม่ได้ ตัวอย่างการสร้างเสริมสุขภาพให้สมบูรณ์ SP 0 มิติทางจิตใจ 0 • มองโลกในแง่บวก 0 ทำจิตใจให้ผ่องใส ออกกาลังกายสม่ำเสมอ • ดื่มสะอาดอย่างเพียงพอ • ผ่อนคลายความเกลียด 0 . . กินอาหารทีมีประโยชน์ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตราฐาน จนท บพักผ่อนอย่างเพียงพอ * * * * ผู้หญิงไม่ควรมีเส้นรอบเอวมากกว่า 30 cm. (38 นิ้ว) ผู้ชายไม่ควรมีเส้นรอบเอวมากกว่า 10 cm. (36 นิ้ว) ค่า BMI เกิน 30 ขึ้นไปเป็นโรคอ้วนลง ค่าปกติของชีพจร 60 - 100 ครั้ง นาที นักกีฬาจะมีค่าชีพจรประมาณ 40 - 50 ครั้ง/นาที . มิติทางปัญญา
ผลการค้นหาอื่น ๆ
สมุดโน้ตแนะนำ
คำถามที่เกี่ยวข้องกับโน้ตสรุปนี้
มัธยมปลาย
สุขศึกษา
#ช่วยหน่อยค่ะ ต้องส่งวันจันทร์ที่จะถึงนี้ค่ะ
มัธยมปลาย
สุขศึกษา
วิชาสุขศึกษา ม.5ค่ะ หน่วยการเรียนรู้ที่5 รู้จักสิทธิผู้บริโภค ข้อ9กับข้อ10ค่ะ ช่วยหนูด้วยค่า🙏🙏
มัธยมปลาย
สุขศึกษา
หาเพื่อนเรียนว่ายน้ำ ใครเรียนสตรีราชินูทิศอุดรบ้างคะ ชั้นมอสี่ รุ่นสองช่วงบ่าย
มัธยมปลาย
สุขศึกษา
ช่วยหาคำตอบข้อสอบให้ด้วยค่ะ
มัธยมปลาย
สุขศึกษา
โทษของวิชาสุขศึกษามีอะไรบ้างค่ะ
มัธยมปลาย
สุขศึกษา
สุขศึกษา ขอบคุณล่วงหน้าค่าา 1.ถ้าระบบใดระบบนึงผิดปกติจะส่งผลกระทบกับระบบอื่นอย่างไร(ระบบหายใจ ไหลเวียนเลือด ย่อยอาหาร ขับถ่าย) 2.ถ้าไม่มีการวางแผนดูแลสุขภาพจะส่งผลกระทบยังไง
มัธยมปลาย
สุขศึกษา
รับตรงแพทย์จุฬาฯ ใช้คะแนนอะไรบ้าง ระหว่าง กสพท กับ รับตรง อันไหนรับเยอะกว่ากันค่ะ
News
ความคิดเห็น
ยังไม่มีความคิดเห็น