Junior High
วิทยาศาสตร์

วิท ม.2เทอม1 ปลายภาค

72

486

0

chacharun

chacharun

ノートテキスト

ページ1:

ระบบ
ภายใน
ร่างกาย

ページ2:

ระบบไหลเวียนเลือด
เกี่ยวข้องกับหัวใจ เลือด หลอดเลือด
cl
เลือด มี 2 ส่วน 1. น้ำเลือดหรือพลาสมา เป็นของเหลว มีร้อยละ55
2. มีเซลล์เม็ดเลือดและเกล็ดเลือด ไม่เป็นของเหลว มีร้อยละ45
(1) น้ำเลือด บลาสมา (plasma) มีน้ำประมาณร้อยละ91 หน้าที่ลำเลียงเอนไซม์ ฮอร์โมน แก๊ส แร่ธาตุ วิตามิน
และสารอาหารต่าง ๆ ที่ย่อยแล้วไปให้cellและรับของเสียไปกำจัดออก
(2) เซลล์เม็ดเลือด (blood cell)
เซลล์เม็ดเลือดแดงกลม ตรงกลางเว้า @ ไม่มีนิวเคลียส อปก.ส่วนใหญ่เป็นสารประเภทโปรตีนเรียกว่า
“เฮโมโกลบิน" (แก๊สคาร์บอนมอนนอกไซด์มีสมบัติจับเฮโมโกลบิน) หน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปส่วนต่างๆ
ของร่างกาย ลำเลียงคาร์บอนไดออกไซน์ไปที่ปอด สร้างเม็ดเลือดแดงที่ไขกระดูก
ไขกระดูก อยู่ได้ 110-120 วัน ทำลายที่ตับและม้าม
เซลล์เม็ดเลือดขาว กลม ไม่มีสี มีนิวเคลียส หน้าที่ทำลายเชื้อโรคและสารแปลกปลอม
สร้างเม็ดเลือดขาวที่ ม้าม ไขกระดูก ต่อมน้ำเหลืองอยู่ได้ 7-14 วัน
3) เกล็ดเลือดหรือแผ่นเลือด (blood platelet) ไม่ใช่ cell แต่เป็นชิ้นส่วนของcell กลมรีและแบน
มีอายุประมาณ 4 วัน ช่วยให้เลือดแข็งตัว เมื่อเลือดไหลออกสู่ภายนอก
หลอดเลือด
1 หลอดเลือดแดง (artery) ผนังหนา แข็งแรง ไม่มีลิ้นกั้นภายใน มีออกซิเจนสูง
ยกเว้นหลอดเลือดบัลโนนารี อาร์เตอรี นำเลือดจากหัวใจไปปอด
2. หลอดเลือดดำ (vein) ผนังบาง มีลิ้นกั้นภายในระหว่างห้องบนขวากับห้องล่างขวา มีออกซิเจนสูง
ยกเว้นหลอดเลือดบัลโมนี อาร์เตอรี ที่นำเลือดจากหัวใจไปปอด
3. หลอดเลือดฝอย (capillary) เชื่อมระหว่างหลอดเลือดแดงกับดำ
มีการแลกเปลี่ยนแก๊สและสารต่าง ๆ ระหว่างเลือดกับเซลล์

ページ3:

วงจรการไหลเวียนเลือด
หลอดเลือดดำจากส่วนต่างๆ ของร่างกายบนและล่างไหลมารวมกันที่ เอเตรียมขวา ผ่าน ลิ้นไตรคัสบิด
แล้วจูงมาที่ เวนตริเคิลขวา ผ่าน ลิ้นบัลโมนารี เซมิลูนาร์ แล้วเข้าสู่ หลอดเลือดแดงพัลโมนารี อาร์เตอรี
จากนั้นก็จะนำเลือดไปฟอกที่ ปอด แล้วนำเลือดกลับเข้าสู่หัวใจโดย หลอดเลือดดำบัลโมนารี เวน
จากนั้นลงสู่ เอเตรียมซ้าย ผ่าน ลิ้นไปดัสบิด แล้วลงมาท์ เวนตริเคิลซ้าย ผ่าน ลิ้นเอออร์ เซมิลูนาร์
จากนั้นเข้าสู่ หลอดเลือดแดงใหญ่เอออร์ตาร์ แล้วไหลไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
ความดันเลือด (blood pressure) ขณะหัวใจบีบตัวและคลายตัว
ทำให้เกิดความดันเลือดภายในหลอดเลือดแดง วัดจากหลอดเลือดแดงที่ใกล้หัวใจ
หลอดเลือดดำมีความดันต่ำกว่าหลอดเลือดแดงเสมอ
ความดันเลือด มีหน่วยวัดเป็น มิลลิเมตรปรอท (mmHg) มีค่าตัวเลข 2 ค่า คือ
ค่าความดันเลือดขณะหัวใจบีบตัว และ ค่าความดันเลือดขณะหัวใจคลายตัว
120/80 ตัวแรกคือค่าความดันเลือดสูงสุดขณะหัวใจบีบตัว ซิสโทลิก (systolic)
ตัวหลังคือค่าของความดันเลือด ไดแอสโทลิก (diastolic)
ความดันเลือดปกติ คือน้อยกว่า120/80
เครื่องมือวัดความดันเลือดเรียกว่า “มาตรวัดความดันเลือด" ใช้คู่กับ สเตตโทสโคป
ชีพจร หมายถึง การหดตัวและคลายตัวของหลอดเลือดแดงซึ่งตรงกับจังหวะการเต้นของหัวใจโดยเฉลี่ย
ประมาณ 60-100ครั้ง ต่อนาที
เพศหญิงที่ใกล้หมดประจำเดือนจะมีความดันเลือดค่อนข้างสูง

ページ4:

S
ระบบหายใจ
การหายใจ - นำอากาศเข้า - ออกจากร่างกาย ส่งผลให้
O2 + สารอาหาร → พลังงาน + H2O + CO2
+
เกิดขึ้นกับเซลล์ทูกเซลล์ตลอดเวลา ทุกเซลล์มีการสลายพลังงาน - ตอนออกกำลังกาย
อาศัย 1.กล้ามเนื้อกระบังลม 2.กระดูกซี่โครง
1.การหายใจเข้า กะบังลมต่ำลม กระดูกซี่โครงสูง ปริมาณช่องอกเพิ่มขึ้น ความดันลดลง (รอบปอด)
อากาศเข้าสู่จมูก หลอดลม ไปยังถุงลมปอด ปอดขยายตัว
2.การหายใจออก กะบังลมสูง กระดูกซี่โครงต่ำ ปริมาตรช่องอกน้อยลง ความดันสูงขึ้น
(รอบปอด)
อากาศในถุงลมปอดออกสู่หลอดลม ออกจมูก ปอดหดตัว
สิ่งที่กำหนดอัตราการหายใจเข้า - ออก คือ ปริมาณคาร์บอนไดออกไซน์ในเลือด
การหมุนเวียนของแก๊ส
แลกเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซน์กับออกซิเจน เกิดบริเวณถุงลมปอด
ด้วยการแบร่ออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆ
เอนไซม์
C,H,O, +60 - → 6CO,+6H,O +พลังงาน
2

ページ5:

> ระบบกำจัดของเสีย
ของเสีย คือ สารที่เกิดจากกระบวนการเมแทบอลิซึมภายในร่างกายของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีประโยชน์
เมแทบอลิซึม คือ กระบวนการหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีที่เกิดขึ้นในร่างกายของสิ่งมีชีวิต
ไต
(kidrey)
กำจัดของเสียในรูป น้ำปัสสาวะ รูปร่างไตคล้ายเมล็ดถั่วดำ หากผ่าตามแนวยาวจะพบเนื้อ 2 ชั้น
เปลือกไตชั้นนอก - ดอร์เทอร์ และ เปลือกไตชั้นใน = เมดัลลา
ไตประกอบด้วยหน่วยไตนับล้านหน่วยเป็นท่อที่ขดไปมาโดยมีปลายท่อหนังตัน เรียกว่า โบว์แมนส์แคปซูล
ภายในมีหลอดเลือดฝอยบันกันเป็นกระจุก เรียกว่า โกลเมอรูลัส กรองของเสียจากเลือดที่ผ่านไต
บริเวณท่อของหน่วยไตจะมีการดูดซึมสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายกลับคืนสู่หลอดเลือดฝอยและหลอดเลือดดำ
ของเสียอื่น ๆ จะไปเป็นปัสสาวะ
ยก.วาด
โครงสร้างไตผ่าตามยาว
44.2.8.
เนอเรชนใน (renal medulla)
เนื้อไตชั้นนอก (renal cortex)
รีนัลอาร์เตอรี หลอดเลือด
แดงที่แตกแขนงออกจาก
เอออร์ตาเบื่อไปยังไต
หน่วยไต
(nephron)
ไ
(ureter)
-หลอกเลียดรีนัลอาร์เตอรี
(renal artery)
หลอดเลือกรีนักเวน
(renal vein)
thail
กรวยไต (renal pelvis)
To
da
รีนัลเวน หลอดเลือดดำที่นำ
เลือดออกจากไตไปยังหัวใจ
เอออร์ตา หลอดเลือดแดง
ใหญ่ที่นำเลือดจากหัวใจห้อง
ล่างซ้ายไปเลี้ยงส่วนต่างๆ
ของร่างกาย
เส

ページ6:

ผิวหนัง
มีต่อมเหงื่อประกอบด้วยท่อเล็ก ๆ ขดไปมา รอบท่อมีหลอดเลือดฝอย
มาบันอยู่ การกรองของเสียจะเกิดที่ต่อมเหงื่อ ออกมาที่รูเหงื่อ
ของเสียในเหงื่อ ยูเรีย เกลือแร่ น้ำ ต่อมเหงื่อบางส่วนถูกควบคุมด้วย ระบบประสาทอัตโนมัติ
เมื่อตกใจหรือเครียดจะมีการกระตุ้นเหงื่อออกมามากกว่าปกติ เหงื่อมีน้ำร้อยละ99
ผู้ที่ออกกำลังกายมากๆ จะเสียน้ำและ(NaClไปทางเหงื่อ ต้องดื่มน้ำและเกลือNaClแทน
เหงื่อมีกลิ่นเพราะมียูเรียและแอมโมเนีย
ลำไส้ใหญ่
"อุจจาระ" ในลำไส้ใหญ่มีแบคทีเรียจำนวนมาก
มีทั้งที่เป็นประโยชน์(ช่วยสังเคราะห์วิตามินB12)และโทษ(เชื้อโรค)
ร่างกายจะขับถ่ายอุจจาระออ
ปอด
ร่างกายทางทวารหนัก
(Lung) ของเสียคือ H2O+CO2 เกิดขึ้นจากกระบวนการหายใจของเซลล์ต่าง ๆ
ขั้นตอนการกำจัดของเสีย
(1) CO2+H2O แพร่ออกจากเซลล์เข้าสู่หลอดเลือด ปนอยู่ในเลือด
(2) เลือดที่มีของเสียถูกลำเลียงไปยังปอด โดยลำเลียงผ่านหัวใจ ส่งต่อไปแลกเปลี่ยนแก๊สที่ปอด
(3) เลือดที่มีของเสียไปถึงปอด ของเสียแพร่ผ่านผนังหลอดเลือดเข้าสู่ถุงลมปอด แล้วลำเลียง
ไปตามหลอดลม กำจัดออกจากร่างกายทางจมูกพร้อมกับลมหายใจออก ส่วนใหญ่คือ
CO2 +ไอน้ำ

ページ7:

ระบบประสาท (nervous system)
ระบบการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสัตว์
ระบบประสาทส่วนกลาง เป็นศูนย์กลางควบคุมการทำงานของร่างกาย
ภายใต้อำนาจจิตใจ ประกอบด้วย สมองและไขสันหลัง ส่งข้อมูลในรูปกระแสประสาทออกจากบริเวณศูนย์กลาง
สมอง ทำหน้าที่ควบคุมการทำกิจกรรมทั้งหมดของร่างกาย เป็นอวัยวะชนิดเดียวที่แสดงความสามารถ
ด้านสติปัญญา การทำกิจกรรม การแสดงออก
1) เซรีบรัมเฮมิสเปียร์ สมองส่วนหน้า ควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ความจำ ความเฉลียวฉลาด
เชื่อมโยงความรู้สึก (ใหญ่สุด)
2 เมดัลลา ออบลองกาตา อยู่ติดกับไขสันหลัง ควบคุมการทำงานของระบบประสาทอัติโนมัติ
(เราบังคับไม่ได้)
3) เซรีเบลลัม สมองส่วนท้าย ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและการทรงตัว
ไขสันหลัง (spinal cord) เนื้อเยื่อประสาทยาวจากสมองไปในโพรงกระดูกสันหลัง กระแสประสาทผ่าน
ไขสันหลัง มีทั้งเข้า-ออกและที่ติดต่อไขสันหลังโดยตรง
เซลล์ประสาท (neuron) หน่วยเล็กที่สุดของระบบประสาท มีเยื่อหุ้มไซโทพลาซึมและมีนิวเคลียส
เซลล์ประสาทประกอบด้วยตัวเซลล์และเส้นใยประสาทที่มี 2 แบบ คือ
- เดนไดรต์ นำกระแสประสาทเข้าสู่ตัวเซลล์
- แอกซอน นำกระแสประสาทออกจากตัวเซลล์ไปยังเซลล์ประสาทอื่น ๆ

ページ8:

1 เซลล์ประสาทรับความรู้สึก รับรู้ความรู้สึกจากอวัยวะรับสัมผัส ส่งกระแสปรัสาทผ่าน
เซลล์ประสาทประสานงาน
2 เซลล์ประสาทประสานงาน ตัวเชื่อมโยงกระแสประสาทระหว่างเซลล์รับความรู้สึกกับ สมอง
ไขสันหลัง และเซลล์ประสาทสั่งการ พบในสมองและไขสันหลังเท่านั้น
(3) เซลล์ประสาทสั่งการ รับคำสั่งจากสมองหรือไขสันหลัง
เพื่อควบคุมการทำงานอวัยวะต่าง ๆ
การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง
สิ่งเร้า, การกระตุ้น เรียกว่า กระแสประสาท เป็นสัญญาณไฟฟ้าที่นำไปสู่เซลล์ประสาทด้านเดนไดรต์
และออกอย่างรวดเร็วทางแอกซอน (มีแผ่นไขมันหุ้มไว้ เป็นฉนวน ทำให้กระแสประสาทเดินเร็วขึ้น)
ระบบประสาทรอบนอก รับและนำความรู้สึกเข้าสู่ระบบประสาท
ส่วนกลาง ได้แก่ สมองและไขสันหลัง
จากนั้นนำกระแสประสาทสั่งการไปยังหน่วยปฏิบัติงาน
ประกอบด้วย หน่วยรับความรู้สึก อวัยวะรับสัมผัส เซลล์ประสาท เส้นประสาท
1.ระบบประสาทภายใต้อำนาจจิตใจ ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อที่บังคับได้และตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก
2.ระบบประสาทนอกอำนาจจิตใจ ทำงานอัตโนมัติ มีศูนย์กลางควบคุมในสมอง ไขสันหลัง การเกิดรีเปลั๊กซ์แอกชัน,
มีสิ่งเร้ามากระตุ้นอวัยวะสัมผัส
ex. นิ้วถูกเปลวไป กระแสประสาทส่งไปยังไขสันหลัง ไขสันหลังสั่งให้กล้ามเนื้อแขนหดตัว เพื่อดึงมือออกจากเปลวไป

ページ9:

) ระบบสืบพันธุ์
ต่อมใต้สมอง(ควบคุมของสมองส่วนหน้า)จะหลัง
ฮอร์โมนกระตุ้นต่อมเพศชายและหญิงให้หลั่ง
ฮอร์โมนเบศ
เพศชาย
1 อัณฑะ สร้างตัวอสุจิ สร้างฮอร์โมนเพศชาย ในอัณฑะมีหลอดสร้างตัวอสุจิ เป็นท่อขดเรียงกัน สร้างตัวอสุจิ
ถุงอัณฑะ ปรับอุณหภูมิให้ต่ำกว่าอุณหภูมิของร่างกาย 3-5°C (ประมาณ34°C)
2 หลอดเก็บตัวอสุจิ อยู่บนอัณฑะ เก็บอสุจิจนกว่าจะแข็งแรงบร้อมจะปฏิสนธิ
3 ท่อนำตัวอสุจิ ลำเลียงอสุจิไปยังต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ
4 ต่อมสร้างน้ำเลี้ยงอสุจิ สร้างอาการ น้ำตาล ปริกโทส VC. โปนตีนโกลบูลิน ของเหลว
5 ต่อมลูกหมาก สร้างสารที่เป็นเบสอย่างอ่อน ลดความเป็นกรดในท่อปัสสาวะ
6 ต่อมดาวเปอร์ สร้างเมือกหล่อลื่นที่ท่อปัสสาวะ
เริ่มสร้างอสุจิตอนอายุ 12-13 ปี
เพศหญิง
1 รังไข่ ขนาดเท่ากับหัวแม่มือ หนัก2-3กรัม สร้างสองสิ่งได้แก่
1.1 สร้างไข่ สุกและตกกึ่งกลางของรอบเดือน การตกไข่เดือนละ 1 เซลล์ สลับกัน ไข่มีโครโมโซมครึ่งนึง
(23เส้น) ของเซลล์ร่างกาย
1.2 สร้างฮอร์โมนเพศหญิง สองออร์โมนคือ เอสโทรเจน พัฒนามดลูด ช่องคลอด ต่อมน้ำนม ลักษณะต่างๆ
โบรเจสเทอโรน ร่วมกับเอสโทรเจน การเจริญของมดลูก เยื่อบุ เตรียมรับไข่ที่ผสมแล้ว
2 ปีกมดลูก, ท่อนำไข่ เป็นทางเดินของไข่เบื่อมายังมดลูด
3. มดลูก เป็นไซโกด (ไข่+อสุจิ) แล้วมาเป็นเอ็มบริโอ ฝังที่ผนังมดลูก
4 ช่องคลอด ให้อสุจิเข้าสู่มดลูก, ทางที่ทารกคลอดตามธรรมชาติ
=
ประจำเดือน - เยื่อผนังมดลูก + หลอดเลือดสายตัวออกมาทางช่องคลอด
กระตุ้นไข่สุก - ฮอร์โมนFSH
กระตุ้นไข่ตก - ฮอร์โมนLH
เซลล์ไข่ไม่สามารถมอง
เห็นได้ ผญ.ไม่ต้องไป
ถั่วงดูนะจ๊ะ ติ๊ดตี่บอก

ページ10:

ความเข้มขัน
ของ
สารละลาย

ページ11:

สารละลายที่มีตัวละลายอยู่มาก เรียกว่า สารละลายเข้มข้น
สารละลายที่มีตัวละลายอยู่น้อย เรียกว่า สารละลายเจือจาง
สารละลายที่ไม่สามารถละลายได้อีก เรียกว่า สารละลายอิ่มตัว
ร้อยละโดยมวล มวลของตัวละลาย
ญ
มวลของสารละลาย
ร้อยละโดยปริมาตร ปริมาตรของตัวละลาย
× 100
ปริมาตรของสารละลาย
ร้อยละโดยมวลต่อปริมาตร
X100
มวลของตัวละลาย X 100
ปริมาตรของสารละลาย

コメント

コメントはまだありません。

News