ページ1:

HELLO
the suBject is
โครโมโซม
SCORE:
lou
CAN
Do
IT I
100%
PowER,

ページ2:

ทีว
hikko
gurashi"
๏ โครโมโซม.
4
7
ประย
เลยแคริโอตใน 5 อินเตอร์เฟสจะเป็น โครมาทินในนิวเคลียส
- แบ่งนิวเคลียสในระยะโพรเฟส โครมาทิน ดาว หนาขึ้นสิ้นลง
1.1) รูปร่าง ลักษณะ และจำนวนโครโมโซม
ป
• การจำแนกโครโมโซม
- ตามขนาดของโครโมโซม
- จัดเรียงตามขนาดของโครโมโซม - และตำแหน่งของเซนโทรเมีย
การจัดทำ แคริโอไทย”
งานตำแหน่งของเซนโทรเมียร์
* สิ่งมีชีวิต สปีชีย์หนึ่งอาจมีโครโมโซมแบบเดียวกันหรือ
- ใช้โครโมโซม ราย มหาเสน
(30314นโครโมโซม ดสด)
^
หลายแบบก็ได้
ล้างลอยด์ → จะมีโครโมโซมในเซฟ ร่างกาย
เหมือนกัน 2 ชุด (บท)
จะเห็นว่า 1 สิ่งมีชีวิตต่างสปีชีย์กันอาจมีจำนวนโครโมโซมทั่วกันก็ได้
จำนวนโครโมโซมของสิ่งมีชีวิตสปีชีส์เดียวกัน จำนวนคงที่ และเท่ากันเสมอ
3 ลักษณะโครโมโจม แต่ละสาย มีโครโมโซม รูปร่างลักษณะ แตกต่างกัน
ส่วนประกอบของโครโมโซม.
- โครโมโซมของยู คริโอต → DNA 2
- โปรตีน ส่วนใน เป็น อิสโทน
+
- DNA ที่เป็นเส้น - สายคู่ 1 เส้น พันรอบ กลุ่ม โทน 1 โมเลกุล เรียกว่า
"
* นิวคลีโอ (ชม” นิวคลีโอโซม ในบ้านกัน เป็นโครมาทิน ในระยะแบ่งนิวเคลียส
จะมีการทำให้หนาขึ้น และสั้นลง มองเห็นเป็น โครโมโซม Ans
Typo

ページ3:

ยีนส์ (gene) : กำหนดลักษณะทางพันธุกรรม, ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม
โครโมโซมของเซลล์โพรแคริโอต เช่น แบคทีเรีย
จำนวนโครโมโมชุดเดียว
->
- มีโครโมโซมเป็นวง อยู่ในไซโทพลาสซึม
ประกอบไปด้วย
J
DNA สายคู่ที่เป็นวง 1 โมเลกุล และ ไม่มีอิสโทนเป็นองค์ประกอบ!!
แบคทีเรียบางชนิดมี พลาสมิด (plasmid.) : DNA สายคู่ที่เป็นขนาดเล็กอยู่นอกโครโมโซม
วงแบคทีเรีย
จีโนม (Genome) : สารมันฐกรมทั้งหมดภายในเซลล์มมี
ประกอบด้วย สารพันธุกรรมในนิวเคลียส ไมโทคอนเดรีย และ คลอโรพลาสต์
* สิ่งมีชีวิตแต่ละปีชีส์มีขนาดของจีโนม จำนวนโครโมโซม จำนวนขึ้นต่างกัน !!
DNA : เป็นสารพันธุกรรมที่ทำหน้าที่ ถ่ายทอดลักษณะของสิ่งมีชีวิตไปสู่รุ่นต่อๆไป
1.2) สารพันธกรรม
องค์ประกอบทางเคมีของ DNA
DNA เป็นกรดนิวคลีอิกชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็น polymer สายยาว ประกอบด้วยหน่วยย่อย
ผลเอเมอร์ ที่เรียกว่า "นิวคลีโอไทด์”
นิวคลีโอไทด์ (nucleotide) - น้ำตาลดีออกซีไรโบส
หมู่ฟอสเฟ 10 - ไนโตรจีนัสเบส
ไพลิน
ไพโรจน์สเปร
น้ำตาลดีออก ไรโบส
พิวรีน : 2 วง A 5
G
ไพริมิดีน : 1 วง C,T
ปริมาณ A ใกล้เคียงกับ T
'G".
"C
แม่ฟอสเฟต
นิวคลีโอไทด์ เชื่อมต่อกันด้วย
" น ฟอสโฟไดเราราช
} ใกล้เคียงกับ 1
3

ページ4:

10
DNA ประกอบด้วย polynucleotide สาย ซึ่งติดกันด้วย มัน ไฮโดรเจน
ระหว่างเบส polynucleotide สายหนึ่ง + polynucleotide อีกสาย แนว
5'
A=T C=G = เบส สม
J
เกลียว ละรอบ
3.+ mm นาง
DNA ประกอบด้วยนิวคลีโอไทด์จำนวน
มาก ก็จะมีรูปแบบของการเรียงลำดับ
นิวคลีโอไทด์ที่แตกต่างกันได้หลายรูปแบบ
เบส
0.34 mm
เวียนขวา
เบส ลม
- แม่ฟอตเฟส + น้ำตาลดีออกซีไรโบส
1.3) สมบัติของสารพันธุกรรม
สารพันธุกรรมมีสมบัติสำคัญคือ
- เพิ่มจำนวนได้โดยมีลักษณะเหมือนเดิม
- ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากรุ่นพ่อแม่-ลูก
- ควบคุมให้เซลล์สังเคราะห์ สารต่างๆ เพื่อแสดงลักษณะทางพันธุกรรมให้ปรากฏ
การทสอง DNA
ก่อนจะมีการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส หรือ ไมโอซิส จะมีการจำลอง DNA เกิดขึ้น
ในระยะ อินเตอร์เฟส : ระยะที่เซลล์มีการสังเคราะห์ DNA เพิ่มขึ้นอีกชุดหนึ่ง
ในการจำลอง DNA
เพิ่มจาก 1 โมเลกุลเป็น 2 โมเลกุล
->>
แต่ละสายท่าหน้าที่เป็น DNA แม่แบบ
- พอลินิวคลีโอไทด์ 2 สายแยกออกจากกัน
11ma-Niana polynucleotide
สายเดิม 1 สาย และ สายใหม่ 1 สาย
- เมื่อสิ้นสุดกระบวนการจำลอง DNA จะมีการ เพิ่มโมเลกุล DNA
Typo
-การ สอบบบ จ
อนุรักษ์

ページ5:

ขั้นตอนการจำลอง DNA
© Polynucleotide 2 สาย เอนไซม์เฮลเดส : สลายพันธะไฮโดรเจนระหว่างคู่เบส
ทำให้ 2 สายแยกออกจากกันเหมือน วัดบ
(3) Polynucleotide แต่งสาย ทำหน้าที่เป็น แม่พิมพ์ (Template) ในการสร้างสายใหม่
โดย เอนไซม์ DNA polymerase : ทำนิวคลีโอไทด์ อิสระ ที่อยู่ในเซลล์เข้าจับคู่กับ
นิวคลีโอไทด์ ของ สายแม่พิมพ์ AT 3
C=G
3) มีไพรเมอร์ : มาในตำนานเบสคู่สม เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง polynucleotide
สายใหม่
→>
(3) นิวคลีโอไทด์ของ Polynucleotide ภายในจะเข้ากับสายเพิ่มซึ่งเป็นแม่พิมพ์กับ
พันธะไฮโดรเจน DNA polymerase จะสร้างสายใหม่จาก 5' ไป 3
สายยาวต่อเนื่องกัน เรียกว่า สื่อถึงสมาทาน (leading strand)
สายสั้นๆ มีทิศจาก 5 ไป 3 จากนั้น DNA ไลเกส : เชื่อมต่อ พอลินิวคลี
โอไทด์สายสั้นๆ เข้าด้วยกัน เรียก polynucleotide สายนี้ว่า
แลกกิจการด์ (agging strand.)
t
** การสังเคราะห์ polynucleotide สายใหม่จะสร้างในทิศทางจากปลายๆ 22 ส
การควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมของ DNA
- ยืน : เป็นช่วงของ DNA ที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม
- โปรตีน เกี่ยวข้องกับการแสดงลักษณะทางพันธุกรรม
เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์โปรตีนอย่างไร ??
2 DNA
สิ่งมีชีวิตพวก แค่โลต
E
* DNA อยู่ใน นิวเคลียส
การสังเคราะห์โปรตีนเกิดในไซโตพลาสซึม
1
J
นิวเคลียส
2000000 DNA
ถอดรหัส
PreemAMA
เร่ง
DANA
แปลราส
ไรโบโซม
Polypeptiole
(รูป 4.17 หน้า 24)
บริเวณเอนโดพลาสมิตร กลัมาแบบบรูป : (AEA)
* การสงเคราะห์ mRNA จะเกิด เฉพาะบริเวณที่เป็น"จีน"

ページ6:

การถอดรหัส
การสังเคราะห์ RNA - ใช้ DNA เป็นแม่แบบ มีทิศทางจากปลาย ไปยัง
การจำลอง DNA - ใช้ DNA สายเดี่ยวเป็นแม่แบบ
(laul RNA polymerase)
และนิวคลีโอไทล์ 4 . AU CG
000000000000000
|merasc |ข้ามาจบ
RNA Polymerase
00000000
สลายพันธะไฮโดรเจนระหว่าง
คู่เบส
320000 0000000
5
MRNA
- นิวคลีโอไทด์ที่มีเบสเป็นเบสค สมกับ DNA แม่แบบ จะเข้ามาจับ
กับ นิวคลีโอไทด์ของ DNA แม่แบบ โดย เอนไซม์ RNA Polymerase
จะเชื่อมนิวคลีโอไทด์อิสระด้านปลาย 3 ได้เป็น สายยาว ของ mRNA
-> DNA แม่แบบ เรียงจาก ปลาย 3 ไปยัง ปลาย 5 mRNA เรียงจาก 5 - 3
+ $1000000000 S
3
RNA Polymerase หยุดทำงาน และ แยก 200 กจาก DNA แม่แบบ
สาย mRNA ที่สงเคราะห์ แยกออกจาก DNA
Typo

ページ7:

รหัสพันธุกรรม
ความแตกต่างกันทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตขึ้นอยู่กับ ลำดับ และ จำนวน
ของนิวคลีโอไทด์ ใน WNA
- DNA เป็นแม่แบบในการสงเคราะห์ m & NA : ข้อมูลทางพันธุกรรมใน DNA จ
ถ่ายทอดให้กับ mRNA
-
การเรียงลำดับของนิวคลีโอไทด์ชนิดต่างๆ 100 NA จะเป็น ตัวกำเนิด การ
เรียงลำดับของกรดอะมิโน เพื่อสังเคราะห์ โปรตีน เรียก "สมันธุกรรม
-"รสสามเบส (triple code)
ประกอบด้วย 3 นิวคลีโอไทด์เรียงต่อกัน ตามลำดับใน mRNA เป็น 1 วันส
เรียกว่า โดดอน (codon) : แต่งโคลนแปลความหมายเป็น 500 มิโน แต่ละชนิด
- ลำดับเบสของ ทรานเฟอร์ เอ็นเอ (RNA) ที่เข้าคู่กับลำดับเบสของโคด 0 เป็น
mRNA เรียกว่า แอนติโกoon (anticodon ) : ประกอบด้วย 3 นิวคลีโอไทด์เช่นกัน
กำหนดชนิดของกรดแอมิโน
•
61 วันส
• 3 su 5
-
UAA UGA UAG = Trauun (stop codon)
AUG = sub0726 (start codon)
- ลำดับนิวคลีโอไทด์บน ANA ทำหน้าที่ กำหนดชนิด และ ลำดับ 10 กรดแอมิโนใน
สาย 50 เปปไทด์ ที่สังเคราะห์ขึ้น, เบสนั้นธุกรรมสำหรับกรดแอมิโน

ページ8:

การแปลรหัส
เมื่อมีการ 0 0 0 รส จาก DNA เป็น mRNA แล้ว จะนำไปสังเคราะห์โปรตีน โดยการ พระน
มี RNA (พอลเมอร์ สายยาว 103 นิวคลีโอไทด์ ) ที่สำคัญ 3 ชนิด
โครงสร้าง 103 RNA
-
- ประกอบด้วยน้ำตาลไรโบส และ เบส + ชนิด (Ay, 36) 3) แม่ฟอสเฟส
RNA และ DNA มีอะไรต่างกันบ้าง ??
- RNA - มีน้ำตาลไรโบส
->
DNA → มี
-มีน้ำตาลดีออกซีไรโบส
เบส + ชนิด
RNA A,U,C,G
DNA + A,T, C, G
- ชนิดของ RNA
①messenger RNA : MRNA
มวน
แม่ฟ๐ เฟส. - RNA เกิดจาก การ คัดสำเนา
เป็น RNA ที่ได้จากกระบวนการถอดจากสาย DNA
ข้อมูล หรือเรียกว่า การถอดรน จาก
v
DNA โดยเอนไซม์ RNA
Polymerase แล้วเข้า กระบวน
การหนึ่ง โดยเอนไซม์อื่นๆ
หน้าที่ : เป็นตัวนำข้อความพ้น กรรมหรือ รสมัน กรรม (codon) จาก DNA
มายัง ไซโทพลาสซึม เพื่อใช้เป็นแบบสร้าง Polypeptide
(3.) transfer RNA : #RNA_
หน้าที่ : - เป็นตัวแปรรมสนกรรม บน mRNA ไปเป็น ลำดับกรดแอมิโนในสาย polypeptide
เพราะมีโมเลกุลส่วนหนึ่งเป็น anticodon ที่สัมพันธ์กับสนพัน กรมบน RNA
-
1
- เป็นตัวนำกรดแอมิโนไปยังแหล่งสร้างโปรตีน โดยกรดอะมิโนแต่ละชนิดจะมี
tRNA เป็นของตัวเอง
(3.) ribosomal RNA
rRNA (ผลิตจาก DNA โดยกระบวนการการเช่นเดียวกัน)
หน้าที่ : - เป็นองค์ประกอบของ ไรโบโซม
www
Typo
ส่วนเป็น และยึด 103 RNA ในกระบวนการแปรร เมื่อมีการสงเคราะห์ ไปเป็น

ページ9:

ใน Procaryote
เกิดกระบวนการ ถอด รส และแปลงส
ในไซโตพลาม เนื่องจากไม่มี
เขื่อนมนิวเคลียส
ใน Eukaryote
ถอดรหัส ในนิวเคลียส
แปลเนส ในไซโตพลาสซึม
- mRNA ที่มีไรโบโซม หลายๆอื่นที่ กำลังแปลรส อยู่ บน mRNA นี้ว่า โรโบโซม
หรือ พลเม
กระบวนการสังเคราะห์ DNA
Dใช้ polynucleotide ที่เป็นแม่พิมพ์ 1 ใช้ polynucleotide ที่เป็นแม่พิมพ์
ทั้ง 2 สาย
2. ใช้ourม์
การสงเคราะห์
กระบวนการสงเคราะห์ mRNA
A
เพียง สายเดียว
ในการสงเคราะห์
DNA polymerase ใน (2) ใช้oul
3) ใช้ดีออกซีไรโบส, นิวคลีโอไทด์ 4
ATCG
(4) ผลผลิตได้ DNA ใหม่ 2 สาย
RNA polymerase
ชนิด (3) ใช้ไรโบส, นิวคลีโอไทด์ 4 ชนิด
AUCG
(4) ผลผลิตที่ได้ได้ mRNA สายเดี่ยว