ชั้นปี

ชนิดของคำถาม

สุขศึกษา มัธยมต้น

ช่วยสรุปเนื้อหาแบบย่อยให้หน่อยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ🙇🏻‍♀️🙇🏻‍♀️

47 Explain plain คิดเห็น น รุ่น ร่วม รรม 2.2 ๒.๒ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเจตคติทางเพศของวัยรุ่น การที่วัยรุ่นจะมีเจตคติทางเพศเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้ ๑) ครอบครัว เป็นสถาบันแรกที่ให้การอบรมเลี้ยงดูบุตร รวมถึงสอนและปลูกฝัง ความรู้ ความเชื่อ ค่านิยม และการปฏิบัติต่างๆ ให้กับวัยรุ่น การให้ข้อมูลของพ่อแม่และญาติพี่น้อง ในครอบครัว ตลอดถึงการแสดงออกต่างๆ ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ดีให้กับวัยรุ่นตั้งแต่แรกเกิด จนโต หากพ่อแม่ปลูกฝังเจตคติทางเพศที่ถูกต้อง วัยรุ่นก็น่าจะมีเจตคติทางเพศที่นำไปสู่การปฏิบัติ ที่เกี่ยวกับเพศอย่างพึงประสงค์ การพูดคุยและการสื่อสารกันระหว่างพ่อแม่และลูกเป็นสิ่งจำเป็น และควรมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันด้วย ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยในการเปลี่ยนแปลง เจตคติทางเพศได้ โดยเฉพาะองค์ประกอบของเจตคติด้านความเชื่อ นักเรียนที่มีปัญหาหรือ คำถามต่างๆ ควรที่จะซักถามและพูดคุยกับพ่อแม่อย่างเปิดเผย เพราะพ่อแม่ย่อมพร้อมที่จะ ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกเสมอ ๒) เพื่อน นักเรียนลองทบทวนความเชื่อ ความคิด ความรู้สึกเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ของนักเรียนว่า เกิดขึ้นโดยมีอิทธิพลบางส่วนจากเพื่อนหรือไม่ ความคิด ความเชื่อ ความรู้สึกเหล่านั้น อาจจะค่อยๆ ถูกปลูกฝังในตัวของนักเรียนอย่างช้าๆ โดยไม่รู้ตัว เจตคติทางเพศก็เช่นเดียวกัน หากเป็น เจตคติทางเพศด้านบวก ที่นำไปสู่พฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม นักเรียนสามารถที่จะทำ ตามเพื่อนได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตที่เหมาะสมด้วย แต่ถ้าหากเป็นเจตคติทางเพศด้านลบ ซึ่งนำไปสู่พฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสม นักเรียนควรจะคิดและวิเคราะห์ว่า ความเชื่อนั้นๆ ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ ผลสืบเนื่องที่เกิดขึ้น เป็นอย่างไร นักเรียนจะเปลี่ยนความเชื่อหรือไม่ ก่อนที่จะปฏิบัติพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์นั้น ที่จริงแล้วนั้นทุกๆ คนจำเป็นที่จะต้องมีเพื่อน แต่นักเรียนต้องระลึกเสมอว่า นักเรียนไม่จําเป็น การ วัต ระ คอ ตะ ได้ ขอ ตะ ใน คร RE ต้ ค ต้องมีความเชื่อหรือความคิดเห็นเช่นเดียวกับ เพื่อนเสมอไป ความเชื่อบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง นักเรียนก็สามารถจะพูดตักเตือนเพื่อนให้ ปฏิบัติหรือเชื่อในสิ่งที่ถูกต้องได้ และสามารถ นำพากันปฏิบัติในสิ่งที่ดี มีประโยชน์ และ เพื่อนจะมีอิทธิพลต่อเจตคติทางเพศของวัยรุ่นอย่างมาก สร้างสรรค์ โดยไม่ให้เกิดผลเสียต่อตัวนักเรียน จึงควรร่วมกันแนะนำให้ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องตามกรอบ ครอบครัว หรือสังคมส่วนรวม วัฒนธรรมไทย

ยังไม่เคลียร์ จำนวนคำตอบ: 1
ภาษาอังกฤษ มัธยมปลาย

ช่วยหาคำตอบ

FIRST CONDITIONAL REAL POSSIBILITY IF CONDITION PRESENT SIMPLE If she studies hard RESULT IF RESULT WILL/WON'T+BASE VERB she will pass the exam CONDITION WILL/WON'T+BASE VERB She will pass the exam PRESENT SIMPLE if she studies hard We use the first conditional when there is a real possibility that this condition will happen in the future. Exercise Write the verbs in brackets. Use the first conditional. 1-1 (stay) at home if it (rain) this afternoon. 2- If my brother, (go) abroad, I (be) very worried. 3- You 4- Melissa (not earn) enough money if you (can) to go out later if she (not work) more hours. (not finish) her homework 5-If1 (go) to the supermarket later, I (buy) some tomatoes. 6-Peter (get) wet if he (not take) an umbrella. 7-Ifi (find) the book you lent me, I (give) it back to you. 8-They (be) angry if we 9-What 10-Many workers 11-1 12-If he 13-My uncle 14-If you 15-Sandra, if you (not visit) them next Saturday. We promised to go. (not go) to work tomorrow? (happen) if you (lose) their jobs if that factory. (not buy) a bigger house if I (not finish) the vegetables, he (can) to go to the opera if he (close) down. (get) promoted at work. (not have) a dessert. (not remember) to get the tickets. (not taste) nice. (be) late for the meeting. (not put) sugar in your coffee, it, (not hurry up), you 16-Cristopher (be) so happy if he (find) the money he lost. 17-Your motorbike: (not break down) if the mechanic (check) it. 18-if you (not take) an aspirin, your headache, (not disappear).

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
ภาษาอังกฤษ มัธยมปลาย

ทำยังไงคับ

Activity 3 Present Simple Tense ชุดที่ 1 Daily Routine 15 Present Simple Tense หมายถึง “ปัจจุบันกาล” มีโครงสร้างและหลักการใช้ดังนี้ โครงสร้าง ประธานเอกพจน์ + กริยาช่องที่ 1 เติม s หรือ es หรือ ประธานพหูพจน์ + กริยาช่องที่ 1 Present Simple Tense ใช้กับเหตุการณ์ดังนี้ เช่น 1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เป็นความจริงตลอดไปหรือเป็นความจริงตามธรรมชาติ The sun rises in the east Fire is hot. 2. ใช้กับการกระทำที่ทำจนเป็นนิสัย มักจะมีกลุ่มคำที่มีความหมายว่า เสมอๆ บ่อยๆ ทุกๆ อยู่ด้วย เช่น I get up at six o'clock every day. Third Person Ending: -s, -es,-ies 1. ถ้ากริยาทั่วๆ ไปให้เติม “S” เช่น walk eat read walks eats reads 2. ถ้ากริยาลงท้ายด้วย -S, -es, -X, -0, -2,- ch, -sh ให้เติม es เช่น go box catch brush goes boxes catches brushes 3. ถ้ากริยาลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น ies ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติม S ได้เลย เช่น cry fly cries flies play plays destroy destroys

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0