ชั้นปี

วิชา

ชนิดของคำถาม

คณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัย

ขอวิธีทำและคำตอบค่ะ🥹

1). สอบใบขับขี่ Basic statistics การสอบใบขับขี่ประกอบไปด้วยการสอบภาคทฤษฎีและการสอบภาคปฏิบัติ ถ้า 25% ของผู้เข้า สอบสอบตกภาคปฏิบัติ และ 15% ของผู้เข้าสอบสอบตกภาคทฤษฎี และ 10% ของผู้เข้าสอบ สอบตกทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ถ้าเลือกสุ่มผู้เข้าสอบมาหนึ่งคน จงหาความน่าจะเป็นที่คน ส้ นจะ 1.1) สอบตกอย่างน้อยหนึ่งตอน 1.2) สอบตกภาคปฏิบัติ แต่สอบผ่านภาคทฤษฎี 1.3) สอบผ่านทั้งสองตอน 1.4) สอบผ่านอย่างน้อยหนึ่งตอน 2). เชื้อโรคในวัว ถ้ามีเชื้อโรคในวัวชนิดหนึ่งที่สามารถติดต่อกันระหว่างสัตว์หลายๆประเภท สมมติให้วัว 200 ตัว ถูกทดสอบว่าติดเชื้อโรคหรือไม่ โดยเหตุการณ์ A คือเหตุการณ์ที่วัวถูกขนส่งด้วยรถบรรทุกเมื่อไม่ นานมานี้ และเหตุการณ์ B คือเหตุการณ์ที่วัวถูกทดสอบเชื้อโรคแล้วมีผลเป็นบวก (ติดโรค) โดย ข้อมูลของการตรวจเป็นไปตามตารางด้านล่าง B B' A 40 60 A' 20 80 2.1) มีความน่าจะเป็นเท่าใดที่วัวจะติดเชื้อและถูกขนส่งด้วยรถบรรทุกเมื่อไม่นานมานี้ 2.2) มีความน่าจะเป็นเท่าใดที่วัวจะติดเชื้อถ้ากำหนดให้วัวที่ทำการทดสอบนั้นถูกขนส่งด้วย รถบรรทุกเมื่อไม่นานมานี้ 2.3) ความน่าจะเป็นที่วัวจะติดเชื้อ

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
คณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัย

ช่วยหน่อยค่า งงมาก🥹

1. จากการวิจัยทางการแพทย์พบว่า จากโรงเรียนในชนบทแห่งหนึ่งมา สารอาหาร 20% ของเด็กนักเรียนในชนบทเป็นโรคขาดสารอาหาร สุ่มนักเรียน 12 คน จงหาความน่าจะเป็นที่จะพบว่า นักเรียนเป็นโรคขาด ก. จงหาฟังก์ชันการแจกแจงความน่าจะเป็นของนักเรียนที่ขาดสารอาหาร ข. ความน่าจะเป็นที่ นักเรียนเป็นโรคขาดสารอาหารไม่เกิน 1 คน ค. ความน่าจะเป็นที่นักเรียนเป็นโรคขาดสารอาหารอย่างน้อย 1 คน ง. ความน่าจะเป็นที่ นักเรียนเป็นโรคขาดสารอาหารตั้งแต่ 2 ถึง 4 คน จ. ค่าคาดหวัง และความแปรปรวนของจำนวนนักเรียนขาดสารอาหาร ฉ. จงหา E(3X+2) และ Var(4X-5) เมื่อจากค่าคาดหวังและความแปรปรวนของจำนวนนักเรียนที่ขาด สารอาหาร

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย

ช่วยสรุป แล้วก็ทำเป็นข้อๆให้หน่อยได้มั้ยคะ🙏🏻

dtac-T.Better Together 13:36 บทบัญญัติที่ 4 : คนตอบสนอ cdn.fbsbx.com 4 44%E เรียบร้อย สนองต่อสิ่งจูงใจ เนื่องจากคนตัดสินใจโดยเปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์ ดังนั้น พฤติกรรมของคนจึงเปลี่ยนเมื่อ โครงสร้างต้นทุนและผลประโยชน์เปลี่ยนไป นั่นคือ คนตอบสนองต่อสิ่งจูงใจ นั่นเอง เมื่อราคาแอปเปิลสูงขึ้น คนก็ตัดสินใจซื้อลูกแพร์มากขึ้น ซื้อแอปเปิลน้อยลง เพราะต้นทุนในการได้มาซึ่งแอปเปิลสูงขึ้น ใน ขณะเดียวกัน ชาวสวนแอปเปิลตัดสินใจจ้างคนงานมากขึ้น และปลูกแอปเปิลมากขึ้น เนื่องจาก ผลประโยชน์ จากการขายแอปเปิลสูงขึ้น บทบาทหลักของสิ่งจูงใจในการกำหนดพฤติกรรมมีความสำคัญสำหรับการออกแบบ นโยบายของรัฐ(Public Policy) นโยบายของรัฐมักเปลี่ยนแปลงโครงสร้างต้นทุนและผลประโยชน์ของกิจกรรม ภาคเอกชน เมื่อผู้กำหนดนโยบายล้มเหลวในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แสดงว่านโยบายรัฐอาจก่อให้เกิดผลที่ ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ตัวอย่างของผลที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจจากนโยบายของรัฐ เช่น นโยบายว่าด้วยเข็มขัด นิรภัยและระบบป้องกันความปลอดภัยรถยนต์ ในทศวรรษ 1950 รถที่มีเข็มขัดนิรภัยมีจํานวนน้อย ต่างจากใน ปัจจุบันที่รถทุกคันล้วนมีเข็มขัดนิรภัย เหตุผลของการเปลี่ยนแปลงก็เพราะ "นโยบายของรัฐ" นั่นเอง ในช่วง ปลายทศวรรษ 1960 หนังสือของ Ralph Nader ที่ชื่อ “Unsafe at Any Speed” ก่อให้เกิดกระแสเกี่ยวกับความ ปลอดภัยของรถยนต์ รัฐสภาสหรัฐอเมริกาออกกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ต้องสร้างอุปกรณ์รักษาความ ส่ ปลอดภัย ซึ่งหมายถึงรถทุกคันต้องมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่างเข็มขัดนิรภัยด้วย กฎหมายเข็มขัดนิรภัยกระทบ ความปลอดภัยของรถยนต์อย่างไร ? ผลทางตรงในเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ถ้ามีเข็มขัดนิรภัยในรถทุกคัน คนก็คาด เข็มขัดนิรภัยกันมากขึ้น และโอกาสที่จะรอดจากอุบัติเหตุรถยนต์ที่มีมากขึ้น ในแง่นี้ เข็มขัดนิรภัยช่วยรักษาชีวิต ผลดีทางตรงด้านความปลอดภัยนี้จูงใจให้รัฐสภาออกกฎหมายดังกล่าว แต่การทำความเข้าใจผลทั้งหมดของ กฎหมายต้องตระหนักว่า คนเปลี่ยนพฤติกรรมโดยตอบสนองสิ่งจูงใจที่เขาเผชิญอยู่ พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องใน กรณีนี้คือการขับรถเร็วและความระมัดระวังในการขับรถ การขับรถช้าและระมัดระวังมีต้นทุนเพราะสิ้นเปลือง เวลาและพลังงาน เมื่อผู้ขับขี่ที่มีเหตุมีผลตัดสินใจว่าจะขับรถอย่างปลอดภัยเพียงใด ก็จะเปรียบเทียบ ผลประโยชน์ส่วนเพิ่มจากการขับรถอย่างปลอดภัยกับต้นทุนส่วนเพิ่ม เขาจะขับรถช้าและระมัดระวังเมื่อ ผลประโยชน์จากการเพิ่มความปลอดภัยสูงกว่า นี่เป็นการอธิบายว่าทำไมคนถึงขับรถช้าและระมัดระวังขณะ ถนนลื่นมากกว่าสภาพถนนปกติ หากเราพิจารณาว่าการออกกฎหมายให้คาดเข็มขัดนิรภัยเปลี่ยนแปลงการ คำนวณต้นทุนและผลประโยชน์ของผู้ขับขี่ที่มีเหตุมีผลอย่างไร ? พบว่าเข็มขัดนิรภัยทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าอุบัติเหตุ มีต้นทุนต่ำลงเพราะการคาดเข็มขัดนิรภัยช่วยลดความน่าจะเป็นในการบาดเจ็บและล้มตาย ดังนั้น เข็มขัดนิรภัย ลดผลประโยชน์จากการขับรถช้าและระมัดระวังลง ผู้ขับขี่ก็ตอบสนองต่อการใช้เข็มขัดนิรภัยโดยขับรถเร็วขึ้น และลดความระมัดระวังในการขับขี่ลง ผลสุดท้าย กฎหมายเข็มขัดนิรภัยทำให้จำนวนอุบัติเหตุเพิ่มสูงขึ้น 5 แล้วกฎหมายกระทบจำนวนคนตายจากการขับขี่อย่างไร ? ผู้ขับขี่ที่คาดเข็มขัดนิรภัยอาจมีโอกาสรอดชีวิตมาก ขึ้นจากอุบัติเหตุแต่ละครั้ง แต่โอกาสเกิดอุบัติเหตุอาจเพิ่มจำนวนมากครั้งขึ้น จำนวนคนตายสุทธิในประเด็นนี้ยัง ไม่ชัดเจน ยิ่งกว่านั้น การที่ผู้ขับขี่เลือกลดความระมัดระวังในการขับขี่ลงส่งผลกระทบทางลบต่อคนเดินถนน (และผู้ขับขี่ที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย) เพราะโอกาสเกิดอุบัติเหตุของคนเหล่านี้สูงขึ้นและไม่ได้รับการป้องกัน จากเป็นข้อมกัน ดังนั้น จอมมายว่าด้วยเข็มขัดนิรฉันมีแนวโน้มทำให้จำนวนการตายของคนเดินถนนเพิ่มสูงขึ้น 3

รอคำตอบ จำนวนคำตอบ: 0
1/2