ノートテキスト

ページ1:

การลำเลียงของพืช
4. การลำเลียงน้ำ
- การลำเลียงน้ำจากสิ่งแวดล้อมเข้าสู่รากพืช
ปกติสารละลายในดิน มีความเข้มข้นต่ำกว่าในมาก ทำให้น้ำเข้าสู่รากพืชโดยการออสโมซิสและการแพร่แบบฟาซิลิเทต
การลำเลียงน้ำเข้าสู่ไซเล็ม (มี 3 แบบ)
น้ำ - ราก - คอร์เทกซ์ - ไซเล็ม
←
Samplast pathway เป็นการลำเลียงน้ำตกเซลล์หนึ่งสู่อีกเซลล์หนึ่ง ผ่านมตาลในเลยมาตา และเข้าสู่ไรเต็ม
- apoplast pathway เป็นการลำเลียงนำไปตามผนังเซลล์ และช่องว่างระหว่างเซลล์ แต่เมื่อลำเลียงไปถึง
เอนโดเดอร์มิส นํ้าจะเปลี่ยนการลำเลียงแบบ apoplast เป็นแบบ Synplast
แล้วเข้าสู่ไซเล็ม
- Transmembrane pathway เป็นการลำเลียงน้ำ จากเซลล์หนึ่งสู่อีกเซตส์ โดยผ่านเยื่อหุ้มเซลล์
Symplast&Transmembrane
apoplast
- การลำเลียงน้ำ ภายในไซเล็ม,
•
1. เป็นการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง จากรากขึ้นสู่ด้านบน โดยอาศัย การซึม ตามรู, แรงดังจากการคายน้ำ และความดัน ราก
• การซึมตามเล็ก (capillary action) เป็นแนวดัง ที่เกิดตกในเลกุลน้ำ ผิวผนังในพืช ** ไม่สามารถลำเลียงไปถึงยอดสูงๆ
แรงดึงจากการคายน้ำ (transpiration pull) เป็นแรงดันที่เกิดจากการดึงนำมาทดแทนที่สียไปจากการคายน้ำ
* วิธีนี้ลำเลียงน้ำในปริมาณตก
• ความดันราก ( root pressure) เป็นแรงดันที่เกิดในไซเล็ม ของราก สามารถกันน้ำขึ้นสู่ส่วนบนของพืชได้

ページ2:

2. การแลกเปลี่ยนแก๊สและการคายนา
กลไกการเปิด ช บ
0
ปากใบ จะเปิดในเวลากลางวัน และปิดในเวลากลางคืน
* การเปิดปิดปากใบขึ้นอยู่กับคามเต่ง - เซลล์คุมแต่ง : ปากใบเปิด
เซลล์คุมไม่เต่ง : ปากใบปิด
» K* และ ซูโครส มีความสัมพันธ์กับการเปิดปิดของปากใบ และความกว้างของรูปากใบ
- การแลกเปลี่ยนแก๊ส
•
การเปิดปากใบทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างพืชกับบรรยากาศ
โดย จะแพร่จากความเข้มข้นสูง → ต่ำ
3.
COA
COA 0₂
• ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง เซลล์จะใช้ co และเกิด O,
การลำเลียงธาตุอาหาร
การเคลื่อนที่ของธาตุอาหารเข้าสู่พืช
• ธาตุอาหารจะเข้าสู่เซลล์พืช และไซเล็ม
โดยอาศัยโปรตีน ลำเลียง
.
ความสำคัญของธาตุอาหาร
ธาตุที่ต้อง
•
การมาก
ธาตุที่ต้อง
การนิตย
0
ธาตุหลัก C, H, O
N, P, K, Ca, Mg, 5
Cl, Fe, Mn, B, Zn, Cu, Ni, Si, Mo
แบบฝาซิลิเทต
“แอกทีฟทรานสปอร์ต

ページ3:

4. การลำเลียงอาหาร
การศึกษาการเคลื่อนย้ายทหารในพืช,
* มาร์เซลโล มัลมิจิ + ควั่นรอบเปลือกลำต้นพืชใบเลี้ยงคู่ โดยควั่นใช้สอยห่าง 2 cm. และ ลอกเปลือกลำต้นบริเวณที่ควั่นออก
หลังจากนั้นผ่านไประยะหนึ่งพบว่าลำต้นปริเวณเหนือรอยควั่นมีการมองออก
* 1.6. Mason 8 E. J. Makkel -> พบว่าการควั่นเปลือก ลำต้นพืชดังกล่าว ไม่มีผลต่อการคายน้ำ เพราะใช้เล่มยังทำงานอยู่
- กลไกการลาเลียง หาร
เวสเซลล์ การ์
•
- ลำต้นเหนือรอยควั่นมีการพองออก เนื่องจากมีการสะสมของน้ำตาลที่ไม่สามาร
เสียงมายังโฟลเอ็ม ด้านล่างได้
Ernst Munch (นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน)
- น้ำตาลบางส่วนที่พืชสร้างขึ้น จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงในคลอโรพลาสต์ จะถูกลำเลียงออกมาในไซโทพลาสซึม
แล้วเปลี่ยนเป็นน้ำตาลซูโครส หลังจากนั้นเคลื่อนย้ายจากเซลล์บริเวณสร้างไปยังโฟลเอ็ม และถูกลำเลียง
ไปยังส่วนต่างๆ ผ่านซัฟทิวบ์
แนวสร้าง
แหล่งรับ
@ ซูโครสเคลื่นที่ ลูกจาก ฟทิว เมมเบอร์
เข้าสู่เนื้อเยื่อแหล่งรับ ทำให้ความเข้มข้น
ของสารละลายในทิวบ์เมมเบอร์ลดลง
ซูโครสออกจากแหล่งสร้างเข้าสู่ซีฟทิวบ์เมมเบอร์ ทำให้ความเข้มขัน
ของสารละลายในซีฟทิวบ์เมมเบอร์ จึงสูงขึ้น
2) น้ำจากเซลล์ค้างเคียง และเวสเซลเมมเบอร์เข้าซัฟทิวบ์เมมเบอร์
โดยการออสโมซิส ทำให้ความดันปทิวบ์ผมเปอร์แหล่งสร้างสูง
3 กามดันที่สูงขึ้นทำให้สารละลายในทิวบ์เมมเบอร์ซึ่ง
ซูโครส อยู่ เคลื่อนจาก ฟาวเมมเบอร์ฟรีส่ง สร้างไปยัง
แหล่งรับที่มีความดันต่ำกว่า
น้ำจากซัฟทิวบ์เมมเบอร์ จึงเคลื่อนที่ออกสู่เซลล์ ข้างเคียงและ เวสเซล เมมเบอร์ โดยออสโมซิส ทำให้ความดันในซีฟทิวบ์เมมเบอร์
บริเวณแหล่งรับต่ำลง ซึ่งทำให้ยังคงมีความแตกต่างของความดันในฟอร์เมมเบอร์ระหว่าง บริเวณแหล่งสร้างกับแหล่งรับ
การลำเลียงสารในโฟลเอ็มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Comment

No comments yet