Senior High
สุขศึกษา

ความขัดแย้ง

62

10529

0

._.

._.

Senior High Kelas 3

สรุปตามหนังสือกระทรวงศึกษาธิการ(ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 วิชาสุขศึกษา หน่วยการเรียนรู้ที่ 2)

ノートテキスト

ページ1:

@ploypee_planet
ความขัดแย้ง
(Conflict)
ความขัดแย้ง : สภาพที่บุคคลทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นหรือความเชื่อไม่ตรงกันและยังไม่สามารถหาข้อยุติที่สอดคล้องกันได้
ความขัดแย้งระหว่างบุคคล : คนสองคนที่มีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกัน
สาเหตุของความขัดแย้งระหว่างบุคคล
.
.
.
ความคิดเห็นแตกต่างกันเนื่องมาจากประสบการณ์การ
เรียนรู้ความรู้สึกนึกคิดที่ไม่เหมือนกัน
.
.
วิธีการคิดหรือวิธีการแก้ไขปัญหาต่างกัน
การรับรู้แตกต่างกันต่างฝ่ายต่างยืนยันในสิ่งที่ตนเอง
เห็นนั้นถูกต้อง
ค่านิยมแตกต่างกันในที่นี้หมายถึงสางที่บุคคลยึดถือ
เป็นเกณฑ์ในการตัดสินคุณค่าของสิ่งต่างๆว่าดี-ไม่ดี
อคติของคนแต่ละบุคคล
• จากการขัดผลประโยชน์กัน มักแก้ได้ยากกว่าปัญหาอื่น
ผลของความขัดแย้งของวัยรุ่นและครอบครัว
1 ทำให้ขาดประสิทธิภาพในการเรียนการทำงานขาดกำลังใจ
2 ครุ่นคิดไม่รู้จักจบสิ้นและเป็นผลเสียต่อการเรียนการทำงาน
3 เป็นผลเสียต่อระบบการทำงานของร่างกาย
4 บ้านแตก ปัญหาสุขภาพจิตผู้ที่ได้รับความกระทบมักเป็นเด็ก
5 สุขภาพจิตเสื่อมโทรมแพร่กระจายไปยังสมาชิกคนอื่น
.
.
สาเหตุของความขัดแย้งระหว่างวัยรุ่นกับครอบครัว
• วัยรุ่นไม่มีอิสระทางความคิดในการตัดสินใจและใช้ชีวิต
› พ่อแม่สมัยเป็นวัยรุ่นกับวัยรุ่นปัจจุบันย่อมต่างกัน
ค่านิยม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วัฒนธรรมที่เปลี่ยน
แปลงไป หากไม่ยอมรับซึ่งกันและกันก็อาจเกิดปัญหาได้
พ่อแม่ใช้ความคิด ความสามารถ ประสบการณ์ของตนเป็น
มาตรฐานคาดหวังกับการกระทำของวัยรุ่น
• บรรยากาศในครอบครัวที่สมาชิกมีความสัมพันธ์ไม่ดีต่อกัน
ทําให้เกิดความขัดแย้งได้โดยง่าย
• วัยรุ่นที่รักอิสระ มีความสับสนทางอารมณ์และความคิดเป็น
สาเหตุของความขัดแย้ง
การสื่อสารที่สร้างสรรค์เป็นการเชื่อมโยงความ
สัมพันธ์ระหว่างบุคคลสื่อที่ใช้ในการสื่อสารได้แก่
1 ภาษาพูด ใช้ง่าย สะดวกและประหยัด มีความสุภาพ
ไพเราะน่าฟังนุ่มนวลมีหางเสียง
2 ภาษาเขียน ให้รายละเอียดได้ดีกว่าการพูดมีโอกาส
ขัดเกลาภาษาที่ใช้ให้เหมาะสมและถูกต้อง
3 ภาษากาย ใช้มากที่สุดและใช้อยู่ตลอดเวลาขณะพูด
แนวทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างวัยรุ่นและครอบครัว คุยกันหากคู่สนทนาดูนาฬิกาบ่อยครั้งหรือนั่งแกว่งขา
1 พิจารณาถึงปัญหาและพิจารณาสิ่งที่ตนเองต้องการ
2 การนัดหมายเวลาพูดถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นขอความร่วมมือ
ในการแก้ไขข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น
3 อธิบายถึงปัญหาและความต้องการของตนเองให้อีกฝ่ายนึงรับทราบ
4 ตรวจสอบความเข้าใจของอีกฝ่ายให้แน่ชัดว่าเข้าใจตรงกันไหม
5 เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายหนึ่งได้อธิบายความต้องการ
6 ตรวจสอบความเข้าใจของตนเองต่อความต้องการของอีกฝ่ายใส่ใจ
ความรู้สึกของอีกฝ่าย
7 หาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้โดยร่วมกันตัดสินใจเลือกแนว
ทางที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้รับความพึงพอใจและบรรลุผลทั้งสองฝ่าย
ปัญหา
เล่นสื่อถึงการเบื่อหน่ายไม่สนใจอยากจบบทสนทนา
การในการอ่านภาษากายต้องใช้วิจารณญาณร่วมด้วย
การสื่อสารอย่างมีสันติ
1 เข้าใจตนเองว่ารู้สึกและต้องการอะไร
2 สื่อสารให้ผู้อื่นรับรู้โดยไม่กล่าวโทษผู้อื่น
3 เข้าใจคนอื่นอย่างจริงใจทั้งในเรื่องที่เราเห็นด้วย
และไม่เห็นด้วยและประนีประนอมถ้าเราไม่เห็นด้วย
ปัญหาหมายถึงสภาวะหรือสถานการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ในการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นอาจเกิดความขัดแย้งทาง
ความคิด อาจรู้หรือไม่รู้เท่าทันปัญหาที่เกิดเราอาจมองเห็นความสำคัญของปัญหาในระดับที่แตกต่างจากผู้อื่น
การประเมินสถานการณ์ปัญหานำไปสู่การตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
1.ประเมินสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มีลักษณะเป็นปกติหรือไม่
ปกติ ดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีเปลี่ยนการ
เปลี่ยนแปลงนั้นส่งผลต่อการทำงานหรือการดำรงชีวิตอย่างไร
2 ประเมินโดยการเปรียบเทียบ ทำให้เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้น
และสามารถพิจารณาว่าความแตกต่างนั้นมีผลต่อการทำงาน
หรือการดำรงชีวิตอย่างไร ควรเปรียบเทียบกับตนเองเท่านั้นไม่
ควรเปรียบเทียบกับบุคคลอื่นเขาบุคคลมีความแตกต่างกัน
1 ด้านผลงาน 2 การใช้เวลา 3 ด้านปริมาณ
4 ด้านคุณภาพ 5 เปรียบเทียบความพึงพอใจ
3 ประเมินโดยการสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของผู้อื่น
ระดับความสัมพันธ์
1 ขัดแย้งมาก 2 ขัดแย้งระดับปานกลาง 3 ขัดแย้งระดับน้อย
ปฏิกิริยาการตอบสนองของคนที่เรารู้จักเปรียบเสมือน
กระจกสะท้อนการกระทำ เพราะการแสดงออกต่างๆทำให้
เราประเมินได้ว่าการกระทำของเราส่งผลต่อความคาดหวัง
หรือเกิดปัญหาอะไรหรือไม่ สังเกตจากสีหน้าท่าทางคำพูดที่
โต้ตอบการกระทำเป็นไปตามที่เราคาดหวังหรือต่อต้านเรา
วิธีการแก้ไขอาจใช้วิธีการหลีกเลี่ยงหรือการยอมเสียสละ
ความต้องการของตนเองหรือการพูดตกลงกัน

Comment

No comments yet