ページ1:

HISTORY
14 มกราคม 2565
23:07
อารยธรรมของโลกตะวันออก
อารยธรรมลุ่มแม่น้าเหลืองหรือแม่น้าหวางเหอ [จีน]
และเกิดความหายนะทั้งทรัพย์สินและชีวิต
เมื่อแม่น้ำท่วมท้น - แม่น้ำวิปโยค
แม่น้ำเหลือง/หวางเหอ ยาวเป็นอันดับ 2 ของจีน (รองจากแยงซี ฉางเจียง)
- ดินทรายสีเหลือง พัดมาจากทิศตะวันตก เกิดความอุดมสมบูรณ์ในสองฟากแม่น้ำ
อารยธรรมจีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์
พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ คือ มนุษย์หยวนโหม่ว และ มนุษย์ปักกิ่ง
มีการเพาะปลก
หลักฐานที่แสดงให้เห็นความเจริญแรก คือ วัฒนธรรมหยางเชา อยู่ทางตอนเหนือของจีน ตั้งถิ่นฐานอยู่ริมแม่น้ำ - ทำเครื่องมือจับปลา
นอกเขตวัฒนธรรมหยางเชา - ชาวเหอ ๆ เริ่มปลูกข้าวเป็นครั้งแรก
เครื่องปั้นดินเผา
ความเจริญต่อมา คือ วัฒนธรรมหลงซาน ยุคโลหะ สำริด อยู่รวมกันเป็นชุมชนขนาดใหญ่ + กำแพงล้อมรอบ + มีถนน + การปกครอง
ทำเครื่องปั้นดินเผาแบบรมควัน และพบกระดูกสัตว์ที่รมด้วยความร้อน
อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์
เกิดรอยแตกเพื่อใช้ทํานาย
เรียกว่า กระดูกทำนาย
• สมัยราชวงศ์ชาง ๆ ประดิษฐ์อักษรบนกระดูกสัตว์ + กระดองเต่า เรียกว่า กระดูกมังกร / กระดูกทำนาย
.
•
ทําเครื่องใช้ด้วยสำริด
- นับถือเทพเจ้าแห่งการเพาะปลูก - ชางดี
- ทำปฏิทินบอกฤดูกาล
น
หมด านาจ → ราชวงศ์โจวปกครองต่อ - - อาณัตแห่งสวรรค์
* สมัยราชวงศ์โจว (รุ่งเรืองทางปรัชญา ๆ ลัทธิขงจื้อ เน้นคุณธรรม จริยธรรม ความสัมพันธ์ทั้ง 5
ลัทธิเต๋า การปฏิบัติตนตามวิถีธรรมชาติ
คำนวณได้ว่า 1 ปี มี 365 3 วัน
- ประดิษฐ์ตะเกียบ, เข็มทิศ
- สมัยราชวงศ์ฉิน 7 15 ปี จิ๋นซีฮ่องเต้/ฉินสื่อหวงตี้
เริ่มการปกครองในระบอบจักรพรรดิ
สร้างกำแพงเมืองจีนให้เป็นแนวเดียวกัน
- สุสานทหารดินเผา
• สมัยราชวงศ์ฮั่น - นำลัทธิขงจื้อมาใช้ในการปกครอง
- มีการสอบไล่คัดเลือก
จีน-อินเดีย
- เส้นทางสายแพรไหม จีน-โรป - พระถังซำจั๋ง
- ซือหม่า เชียน ปรับปรุงปฏิทินจันทรคติ เขียนหนังสือ สื่อ
แตกแยกเป็น สามก๊ก
ใช้ชีวิตสันโดษ
ผู้ปกครอง - ราษฎร
อี๊ด - บุตร
สามี - ภรรยา
พี่-น้อง
มิตร - มิตร
เป็นปึกแผนอีกครั้งในราชวงศ์สุยถัง
ราชวงศ์ถัง - ยุคทองของจีน
- พระถังซำจั๋ง - ชมพูทวีป (พระไตรปิฎก)
ราชวงศ์หยวน - ชาวมองโกลปกครองจีน
[
กุบไลข่าน
ราชวงศ์ชิง ๆ ชาวแมนจู * เสื่อมถอยความเจริญทุกด้าน
- ถูกรุกรานจากชาติตะวันตก - สงครามฝิ่น
- รบแพ้อังกฤษ

ページ2:

อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ [อินเดีย]
อารยธรรมอินเดียสมัยก่อนประวัติศาสตร์
หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด - ขวานกำปั้น ผู้คนเร่ร่อนเก็บอาหาร ล่าสัตว์ รู้จักการเพาะปลูก + เลี้ยงสัตว์
เผ่าทรวัด /ทรวิเดียน / ทมิฬ อยู่ก่อนที่ชาวอินโด - ยูโรเปียน (อารยัน) จะอพยพเข้ามา
แหล่งอารยธรรม – เมืองโมเฮนโจ - ดาโร และเมืองฮารัปปา
- อารยธรรมเมือง มีที่อาบน้ำสาธารณะ มีระบบการระบายน้ำ
นับถือพระแม่ธรณี มีรูปปั้นเทวดามีเขา และรูปปั้นครึ่งตัว
ชาวอารยันยึดบ้านช่อง + ทรัพย์สินพวกทมิฬ - ถูกเรียกว่า ทาส
คัมภีร์พระเวท
ฤคเวท
ประวัติศาสตร์ยุคพระเวท ยชุรเวท
สามเวท
อถรรพเวท
อารยธรรมยุคมหากาพย์ มหาภารตะ
[ รามายณะ (รามเกียรติ )
อารยธรรมอินเดียสมัยประวัติศาสตร์
(สีผิว)
แยกชนชั้นโดยดูสีผิว
วรรณะ แยกชนช
-
ต่อมา - นักรบ ต่อสู้ป้องกัน, ขยายอำนาจ
นักบวช สวดมนต์อ้อนวอนเทพเจ้า
ไวยชาวเมือง เลี้ยงสัตว์, ค้าขาย
ศาสนาฮินดู ถือกำเนิดตั้งแต่ยุคพระเวท - เสื่อมลง สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
ราชวงศ์คุปตะฟื้นฟูศาสนาฮินดูขึ้นใหม่
หลักเวียนว่ายตายเกิด + ทางไปสู่สัจธรรมมีหลายทาง
ศูทร : รับใช้
ศาสนาพุทธ ความเชื่อเรื่องกรรม / ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว / ทางสายกลาง
คำสอนที่ถือเป็นหัวใจ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์
2 นิกาย - หินยาน (เถรวาท), มหายาน
ตั้งราชวงศ์เมารยะ (พระเจ้าจันทรคุปต์)
ศตวรรษที่ 13 - 16 ศาสนาอิสลามเผยแผ่ไปทั่วอินเดีย
ราชวงศ์สุดท้าย - ราชวงศ์โมกุล/มคัล
ชาห์จะอ่าน - สร้างทัชมาฮัล
พระเจ้าอโศกมหาราช
r
- ทำนุบำรุงศาสนา
ปลายศตวรรษ 15 ชาวตะวันตกเข้ามาอินเดีย + อังกฤษเข้าปกครองอินเดีย
ศตวรรษ 20 ชาวอินเดียเรียกร้องเอกราช - มหาตมา คานธี - ขวาหลาล เนห์รู

ページ3:

เหตุการณ์สำคัญในสมัยกลาง
ยุคมืดที่แสงของอารยธรรมกรีก-โรมันหายไป
ตกอยู่ใต้ระบอบการปกครองระบอบฟิวดัล + ดำรงชีวิตอยู่ในเขตแมเนอร์
ยุคแห่งธรรมะอัศวิน + ยุคแห่งศรัทธา
ระบอบการปกครองแบบฟิวดัล
feudalism - feudum - fee/fief หมายถึง ที่ดิน
ประเพณีคอมมิเตตัส
สิทธิที่ได้ใช้ที่ดินผืนนั้นๆ
บุคคลที่ได้รับที่ทำกินจากเจ้านายจะต้องให้ความเคารพเชื่อฟังและรับใช้เจ้านายเพื่อตอบแทนสิทธิที่ได้ใ
การปกครองแบบกระจายอำนาจ
เจ้านาย / ผู้ได้รับสิทธิในการครอบครองที่ดิน : ลอร์ด
ผู้ที่ได้รับมอบที่ดิน : วัสซัล
กษัตริย์ - ลอร์ดอันดับหนึ่ง แต่ไม่มีพระราชอำนาจสูงสุด
- ใช้อำนาจได้กับวัสซัลที่ผ่านพิธีแสดงความจงรักภักดี
3 ฐานันดร - พระราชวงศ์ - ขุนนาง, นักบวช, ชาวนา - ทาสติดที่ดิน
บุตรหลานขุนนางที่เป็นชายต้องผ่านอบรม ศาสตร์อัศวิน และถูกแต่งตั้งเป็นอัศวิน
สงครามครูเสด
คริสต์-อิสลาม
สาเหตุ : ความขัดแย้งที่มีมาตั้งแต่ค.ศตวรรษที่ 7 เมื่อมุสลิมเข้ารุกรานยุโรป ชาวคริสต์ต้องทำการรบเพื่อต่อต้านการขยายอำนาจ
อิสลาม เป็นภัยต่อความมั่นคงของจักรวรรดิไบแซนไทน์ (โรมันตะวันออก)
พวกเติร์ก (อิสลาม) เข้ายึดครองนครเยรูซาเลม + คอนสแตนติโนเปิล
จักรพรรดิอะเล็กซีอุสที่ 1 คอมนินุส ส่งสาส์นช่วยเหลือ - สันตะปาปาเออร์บานที่ 2
1
เกิดขึ้น ๆ ครั้งในรอบ 2 ศตวรรษ - แต่มีเพียงครั้งที่ 1 ที่ชาวคริสต์รบด้วยหัวใจและศรัทธาในศาสนาอย่างแท้จริง
(หรือ)
ชาวคริสต์พ่ายแพ้ให้กับพวกมุสลิม
สงครามครูเสดมีส่วนช่วยทำลายระบอบฟิวดัล + เศรษฐกิจแบบแมเนอร์
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ หมายถึง การเกิดใหม่ของภูมิปัญญา ศิลปกรรม และวรรณกรรมของกรีกโรมัน
สาเหตุ : มีการฟื้นตัวของเมือง, สังคมเมือง
การติดต่อกับตะวันออกในสงครามครูเสด ทำให้เกิดความสนใจในด้านศิลปวิทยาการ
อิตาลี ให้ความสำคัญต่อลัทธิปัจเจกชนนิยม
ลักษณะ : ลัทธิมนุษยนิยม - วรรณกรรมคลาสสิก
->
บิดาแห่งมนุษยนิยม คือ ฟรานเซสโก เปตรากา / เปตราก - ศึกษาการใช้ภาษาละตินให้ถูกต้อง
คัมภีร์ไบเบิล - ศึกษาภาษาฮิบรู + กรีก
มรดกทางวัฒนธรรม : วิลเลียม เชกสเปียร์ โรมิโอและจูเลียต, เวนิสวานิช, คิงเลียร์ ฯลฯ
ในสมัยกลาง : แข็งกระด้างขาดชีวิตชีวา
มัสซักซีโอ : จิตรกรอิตาลีที่วาดภาพ 3 มิติ
เลโอนาร์โด ดา วินชี (มหาศิลปินแห่งศิลปะทั้งปวง ) - โมนา ลิซา
อาหารมื้อสุดท้าย
มิเกลันเจโล : ฝาผนังในหอสวดมนต์ซิสทิน, ภาพคำพิพากษาครั้งสุดท้าย, ภาพแกะสลักรูปเดวิดและลา ปิเอตา
มีการพัฒนาจนมีรูปแบบอลังการ หรูหรา ฟุ้งเฟ้อ - ศิลปะบาโรก
4

ページ4:

เหตุการณ์สำคัญในสมัยใหม่ - ปัจจุบัน
การค้นพบและการสำรวจทางทะเล
การแข่งขันสำรวจเส้นทางเดินเรือระหว่างโปรตุเกสกับสเปน
- มีการสร้างนวัตกรรมทางการเดินเรื่อ
- ศูนย์กลางการเรียนรู้วิทยาการสมัยใหม่
- เจ้าชายเฮนรี ราชนาวิก จัดตั้งโรงเรียนราชนาวีขึ้นที่แหลมซาเกรส เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทางทะเล
- บาร์โซโลมิว ไดแอส แหลมกู๊ดโฮป
- วาโก ดา กามา แหลมกู๊ดโฮป
- อินเดีย
- คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ค้นพบทวีปอเมริกา
- สนธิสัญญาตอร์เดซิยาส : กำหนดให้เส้นเมริเดียนที่ 370 ทางตะวันตกของหมู่เกาะเคปเวิร์ดเป็นเส้นสมมติที่แบ่งโลกออกเป็น 2 ส่วน
ผลของการค้นพบ/สำรวจทางทะเล
ต่อมาเรียกว่า เส้นสันตะปาปา
- เฟอร์ดินานด์ มาเจลลัน ประสบความสำเร็จในการเดินเรือรอบโลก - เซบาสเตียน เดล คาโน เดินทางต่อ
- วิลเลม ยานซ์ พบทวีปออสเตรเลีย - นิวฮอลแลนด์ (ชื่อเก่า)
การปฏิรูปศาสนา
=
หมายถึง การปฏิรูปของคริสต์ศาสนิกชนที่ไม่เห็นด้วยกับข้อปฏิบัติขององค์กรศาสนจักรคาทอลิก และการแสวงหาผลประโยชน์ต่างๆ
การเผยแผ่นิกายโปรเตสแตนต์
ลูเทอร์เสนอหลักการ 15 ประการ ติดประกาศโจมตีพวกนักบวช
มีจุดประสงค์เพียงแต่ต้องการแก้ไขข้อปฏิบัติต่างๆ ใ
-
ๆ ให้ถูกต้อง
- หลักปฏิบัติของลูเทอร์ต่างจากองค์กรศาสนจักร 3 ประการ - ศรัทธาโดยความเชื่อ ไม่ใช่โดยการกระทำ
- อำนาจสูงสุดของพระคัมภีร์ คือสิ่งเดียวที่ตัดสินความถูกต้อง
- ชาวคริสต์ทุกคนทำหน้าที่เป็นนักบวชได้
นิยายกัลแวง ให้ความสำคัญในด้านการกระทำที่มีเหตุผล
[ไม่มีความเชื่อในระบบการปกครองแบบลดหลั่นอำนาจของศาสนจักร
ผลของการปฏิรูปศาสนา
แบ่งแยกชาวคริสต์ออกเป็น 2 กลุ่ม - กลุ่มคาทอลิก
- กลุ่มโปรเตสแตนส์
เกิดการปฏิรูปซ้อน : คณะเยซูอิต - ทำงานเพื่อศาสนาอย่างจริงจัง, แก้ไขข้อบกพร่อง
ผลของการปฏิรูปศาสนาที่มีต่อโลก ชาวตะวันตกมีสิทธิจะเลือกนับถือลัทธิศาสนาใดก็ได้
ก่อให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทางการเมือง
รัฐต่างๆ หันมาปรับปรุงตนเองจากระบบเดิม
การปฏิรูปทางวิทยาศาสตร์
พัฒนาการทางวิทยาศาสตร์
นิโคลัส โคเปอร์นิคัส ได้รับการยกย่องว่ามีคุณูปการต่องานวิทยาศาสตร์
อธิบายว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล
กาลิเลโอ กาลิเลอี ประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์แบบหักเหแสง - 0 โคจร -
โยฮันส์ เคปเลอร์ ดาวเคราะห์โคจร : เป็นรูปวงรี
เซอร์ ไอแซค นิวตัน กฎแรงดึงดูดของจักรวาล + กฎความถ่วง
ทฤษฎีวิวัฒนาการ
ชาลส์ ดาร์วิน สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต่างต่อสู้เพื่อความอยู่รอด
ยื่น - การสืบทอดทางพันธุกรรม

ページ5:

(ปลายภาค) ประวัติศาสตร์สากล
27 กุมภาพันธ์ 2565 13:59
การปฏิวัติอุตสาหกรรม
เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์โลกสมัยใหม่เพราะทำให้โครงสร้างระบบเศรษฐกิจเกษตรกรรมเปลี่ยนเป็นระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
เรียกว่า ระบบทุนนิยม (Capitalism) ชนชั้นกลางมีบทบาทและอิทธิพลสำคัญมากขึ้น ชนชั้นกรรมกรเป็นแรงงานสำคัญในระยะแรก
การปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดขึ้นในประเทศอังกฤษเป็นประเทศแรก ในคริสต์ศตวรรษที่ 19
- นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ + วิทยาการมาปรับปรุงเกษตรกรรม - ประดิษฐ์เครื่องจักร / เครื่องทุ่นแรง
พัฒนาการของการปฏิวัติอุตสาหกรรม
ระยะแรก (ค.ศ. 1950 - 1970) - คิดค้นวิธีการผลิตใหม่ ๆ ด้วยการนำพลังงานไอน้ำและเครื่องจักรไอน้ำมาใช้
- มีการตั้งโรงงานขึ้นเป็นครั้งแรก
- มีการประดิษฐ์เครื่องปั่นด้าย
- ค.ศ. 1769 เครื่องจักรไอน้ำของเจมส์ วัตต์ นำมาใช้ขับเคลื่อนเครื่องจักรกลแทนพลังงานไอน้ำ
- ปัจจุบัน ) 1 มีการประดิษฐ์คิดค้นใหม่ ๆ + นำพลังงานใหม่ ไฟฟ้า
ระยะ 2 หรือช่วงสมัยใหม่ (ค.ศ. 1870-
- ประดิษฐ์ใยสังเคราะห์, วัสดุโลหะ น้ำมัน) มาใช้
นิวเคลีย
ยานพาหนะ เครื่องใช้อุปโภคบริโภค - ไนลอน พลาสติก เซรามิก
เกิดเป็นระบบโรงงานที่ใช้เครื่องจักรหุ่นยนต์ (automation)
ผลกระทบของการปฏิวัติอุตสาหกรรมที่มีต่อโลก
(ลดปัญหาความอดอยาก)
- ประชากรโลกเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็ว (มีอัตราการตายลดลง) - เพราะมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ + การผลิตอาหารมีจำนวนมาก
- จํานวนเมืองขยายตัวอย่างรวดเร็ว
- ระบบทุนนิยมพัฒนา + เติบโต
-
เรียกร้องให้สร้างสังคมแห่งความเสมอภาค แนวคิดเสรีนิยม (Liberalism)
- เป็นพื้นฐานของประชาธิปไตยได้ขยายตัว + เกิดการปฏิรูปทางการเมือง
- แนวคิดสังคมนิยม (Socialism) ที่ต่อต้าน ระบบทุนนิยมเริ่มมีอิทธิพลทางความคิด - นำไปสู่การปฏิวัติรัสเซีย
- การแสวงหาอาณานิคมทำให้แนวคิดลัทธิจักรวรรดินิยม (Imperialism) เจริญน้อยกว่า - นำไปสู่
- WW1 หรือ มหาสงคราม อุตสาหกรรม - มีการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น รถถัง ปืนกล เครื่องบิน
- มีการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง เกิด Co, สะสม - ภาวะเรือนกระจก
แนวคิดเสรีนิยม
WW1
J
เกิดระบอบคอมมิวนิสต์
เป็นแนวคิดที่เน้นเรื่องเสรีภาพและการเรียกร้องเสรีภาพ เสรีภาพในความหมายของเสรีนิยม - เสรีภาพภายใต้กฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้เสรีภาพตามอำเภอใจ
การปฏิวัติของชาวอเมริกัน ๆ เพื่อแยกตัวเป็นเอกราชจากอังกฤษ
การปฏิวัติฝรั่งเศส
[ เพื่อทวงสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน
- เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบเก่า ( สมบูรณาญาสิทธิราชย์) - เกิดลัทธิเสรีนิยม
เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ
ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ
เสรีนิยมทางการเมือง | ก่อให้เกิดการเรียกร้องการปฏิรูปเป็นประชาธิปไตย - มีรัฐธรรมนูญเป็นหลักกฎหมาย
- การปฏิรูปกฎหมายการเลือกตั้งในฝรั่งเศส
- ออกกฎหมาย + ปรับปรุงเขตเลือกตั้งในอังกฤษ
การยอมรับความเป็นปัจเจกบุคคลนิยม
- ชนชั้นกลางมีบทบาทในรัฐสภามากขึ้น
พระราชบัญญัติปฏิรูประบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาครั้งใหญ่ - ลดบทบาทของขุนนางเจ้าที่ดินลง
- ปลายศตวรรษที่ 19 พลเมืองชายทุกคนในยุโรปได้เลือกตั้ง (ของหญิงเริ่มหลัง WW1)
- เยอรมนี อิตาลี เน้นเสรีภาพทางการเมือง
- นักคิดเสรีนิยมคนสำคัญ - จอห์น ลอก (John Locke) / เสนอแนวคิดการแบ่งแย่งอำนาจ
=
รูโซ ( Rousseau) / เสนอแนวคิดอำนาจอธิปไตยของประชาชน
ระยะแรก
อิมมานูเอล คานท์, แอดัม สมิท, เจเรมี เป็นทีม, จอห์น สจ๊วต มิลล์, จอห์น เมนาด เคนส์ - หลัง

ページ6:

เสรีนิยมคลาสสิกกับเสรีนิยมสมัยใหม่ - เน้นความสำคัญของปัจเจกบุคคล + มีเสรีภาพอย่างเต็มที่
-คริสต์ศตวรรษที่ 20 - ปัจจุบัน รัฐเข้ามาเสรีนิยม สังคมประชาธิปไตยเสรีนิยม
- หลักการสำคัญ แนวคิดเรื่องสวัสดิการทางสังคม /รัฐสวัสดิการ
- แนวคิดเสรีนิยมและประชาธิปไตยเสรีนิยม เป็นหลักการพื้นฐานในการปกครอง
แนวคิดจักรวรรดินิยม
มีการยืดหยุ่น + เปลี่ยนแปลง
เป็นลัทธิการปกครองและการดำเนินนโยบายต่างประเทศของชาติยุโรป ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในการขยายอำนาจและการแสวงหาผลประโยชน์ในดินแดน
ที่อ่อนแอกว่า ชาติมหาอำนาจยุโรป - ประเทศกลุ่มสนธิสัญญาพันธไมตรี ไตรภาคี
- กลุ่มประเทศความตกลงไตรภาคี
ชาติแรก
- โปรตุเกส - สเปน - เนเธอร์แลนด์ - อังกฤษ - ฝรั่งเศส
พัฒนาการความเป็นมา - เกิดขึ้นในยุโรป เมื่อเข้าสู่ยุคการค้นพบ + สำรวจทางทะเล
ระยะแรก มุ่งหวังผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจมากกว่าการเมือง
- มีแรงผลักดันหลายประการ - ทางการเมือง : ครอบครองแผ่นดินมากขึ้น
-ทางเศรษฐกิจ : แสวงหาวัตถุดิบ การตลาด
- จากปัจจัยอื่น ๆ : การผจญภัย การเผยแผ่ศาสนา
- ลัทธิจักรวรดินิยมใหม่ : การขยายอำนาจเข้าครอบงำและเข้าปกครองทั้งทางตรงและทางอ้อม
- มุ่งขยายอำนาจเพียง แอฟริกา เอเชีย
อิทธิพลทางความคิดของแนวคิดสังคมแบบดาร์วิน - คนผิวขาว ผิวดำ ผิวเหลือง
ผลของแนวคิดจักรวรรดินิยมที่มีต่อโลก | ยุโรปกลายเป็นชาติมหาอำนาจ
แนวคิดชาตินิยม
การเมือง
ตลอดจนมีการผสมผสานนโยบายทางเศรษฐกิจ
- ก่อให้เกิดการแข่งขัน - WW1, WW2 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทัศนคติและแนวคิดทางการเมือง
เป็นผลสืบเนื่องจากการปฏิวัติฝรั่งเศส และการก่อตัวของแนวคิดเสรีนิยมที่เรียกร้องเสรีภาพ ชาตินิยม หมายถึงความเป็นชาติที่พลเมืองมีความรักและผูกพันกันทาง
วัฒนธรรมและการเมือง
พัฒนาการความเป็นมา - การปฏิวัติฝรั่งเศสได้สร้างความรู้สึกที่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ
- ฝรั่งเศส สร้างเพลงชาติขึ้นและใช้ธงสามสีของการปฏิวัติเป็นธงชาติ
- สงครามปฏิวัติฝรั่งเศสทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป
จักรพรรดินโปเลียนที่ 1
- นโปเลียน โบนาปาร์ต ก้าวสู่อำนาจทางการเมือง + ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนให้เป็นจักรพรรดิ
- จักรพรรดินโปเลียนทำสงครามรุกรานยุโรป - แนวคิดชาตินิยมกลับเป็นปฏิปักษ์ต่อฝรั่งเศส
- หลัง WW1 แนวคิดชาตินิยมได้ลดบทบาทและอิทธิพลลง 1 แนวคิดลัทธิสากลนิยม มีความสำคัญและเป็นที่ยอมรับ
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ทำให้แนวคิดลัทธิสากลนิยมหมดลง
[
- หลัง WW2 แนวคิดชาตินิยมได้หมดความสำคัญลงในยุโรป
เอเชีย แอฟริกา แนวคิดชาตินิยมพัฒนา
แนวคิดสังคมนิยม
ชาตินิยมการขยายอำานาจ
เป็นอุดมการณ์ทางการเมืองที่เน้นความสำคัญของความเสมอภาคทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ การยกเลิกกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินส่วนบุคคล และเปลี่ยนทรัพย์สินทั้งหมด
ให้เป็นของสังคมส่วนรวม
พัฒนาการความเป็นมา - นักคิดสังคมนิยมคนสำคัญ คาร์ล มาก
เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับสังคม
ฟรีดริช เองเจิลส์ ร่วมกันเขียนหนังสือ แถลงการคอมมิวนิสต์ แห่งความเสมอภาค
ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เรียก สังคมนิยมแบบยูโทเปีย - อองรี แซงต์ ซิมง, ชาร์ลส์ ฟูริเย, หลุยส์ บลอง ฯลฯ
พรรคแรงงานสังคมประชาธิปไต/พรรคบอลเชวิค
-รัสเซียเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์

ページ7:

>
ผลของแนวคิดสังคมนิยมที่มีต่อโลก 1 ขบวนการสังคมนิยมและขบวนการแรงงานมีบทบาทในการเคลื่อนไหวทางการเมือง
แนวความคิดสัจสังคมนิยม
- แนวคิดสังคมนิยมท้าทายระบอบประชาธิปไตย - ขยายตัวจากยุโรป + เอเชีย
ความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 - ปัจจุบัน
ความขัดแย้งใน
G
- คริสต์ศตวรรษที่ 20
ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 สงครามเกิดจากความขัดแย้ง
และการมีอานาจที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างชาติ รวมทั้งการที่
แต่ละประเทศมุ่งรักษาอำนาจอธิปไตยของตนเพื่อไม่ให้ ก
ครอบง่าจากประเทศอื่น น่าไปสู่การแข่งขันด้านท่าลังทหารและ
อาวุธ จนถึงการทูตเพื่อหาพันธมิตร ซึ่งจะท่าให้แต่ละฝ่ายมี
ความเข้มแข็ง
ยุโรปในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 จึงแบ่งออกเป็น 2
ฝ่าย การแบ่งดังกล่าวท่าให้ทั้งสองกลุ่มต่างหวาดระแวงและ
ไม่ไว้ใจกัน ดังนั้นการเผชิญหน้าของมหาอำนาจยุโรปทั้ง 2
ค่ายจึงอยู่ในลักษณะของการเตรียมพร้อมเพื่อค่าสงคราม
โดยคาดหวังกันว่าสงครามอาจจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
ระหว่างประเทศได้
ประเทศมหาอำนาจ
ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มประเทศสนธิสัญญาพันธไมตรี
เยอรมณี อิตาลี
ออสเตรีย-ชิงการี
00
กลุ่มประเทศความตกลงใตรกา
ฝรั่งเศส รัสเชีย
อังกฤษ
วิกฤตการณ์ทางการเมือง
ในวันคริสต์ศตวรรษที่ 20 ได้เกิดวิกฤดการณ์การเมืองระหว่างประเทศซึ่ง
เป็นพื้นฐานของความขัดแย้งระหว่างกลุมประเทศมหาอ่านางทั้ง 2 ค่าย น่าไปสู่การ
เกิดสงครามโลกใน คศ.1914 วิกฤตการณ์เมืองนั้นสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความขัด
แย้งระหว่างประเทศ ส่วนคุกคามสิน
ภาพของยุโรป ความขัดแย้งขยายคีมาก น
จนสะสมและพอท นมาช้านาน
วิกฤตการณ์โมร็อกโก
วิกฤตการณ์ระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น 2 ครั้ง คือ ความ
พยายามของฝรั่งเศสในการควบคุมโมร็อกโกและความพยายาม
พร้อมกันของเยอรมนีในการแย่งชิงอ่านาจของฝรั่งเศส (ค.ศ.
1905-1906 และ ค.ศ. 1911)
ในปี 1904 ฝรั่งเศสได้ทำสนธิสัญญาลับกับสเปนแบ่งโมร็อกโกและตกลงที่จะ
ไม่คัดค้านอังกฤษที่จะเคลื่อนไหวในอียิปต์ เพื่อแลกกับการเป็นอิสระในโมร็อกโก แต่
เยอรมนียืนกรานตามนโยบายเปิดประตุในพื้นที่ และในการแสดง านาจของ
จักรพรรดิวิลเลียมที่ 2 เยี่ยมชมแทนเจียร์และประกาศว่าเยอรมณีจะปกป้องอ่านาง
อธิปไตยของโมร็อกโก อีกทั้งเรียกร้องให้ทุกประเทศมีสิทธิ์เปิดประตูการค้าโมร็อกโก
ได้เท่ากัน จึงเกิดความตื่นตระหนกระหว่างประเทศ
วิกฤตครั้งนี้ได้รับการแก้ไขในเดือนมกราคม - เมษายน 1906 ที่การประชุม
อัลเดชรัส (Algeciras) ซึ่งมีการรักษาสิทธิทางเศรษฐกิจของเยอรมันและชาติอื่น ๆ
และเป็นทีทีชาวฝรั่งเศสและสเปนได้รับความไว้วางใจในการรักษาโมร็อกโก
>
วิกฤตการณ์โมร็อกโก
วิกฤตการณ์โมร็อกโกครั้งที่สอง (ค.ศ. 1911) เกิดจากการเคลื่อนไหวล้ม
ล้างอานาจสุลต่าน ฝรั่งเศสส่งกองกำลังเข้าไปควบคุม สถานการณ์ แต่เยอรมนี
ต่อต้านการแทรกแซงของฝรั่งเศส และส่งเรือรบเข้าไปยังเมืองอากาดีร์ อังกฤษ
ซึ่งเป็นพันธมิตรของฝรั่งเศส เตรียมกำาลังทางทะเล เพราะเข้าใจว่าเยอรมนีอาจใช้
อากาดีร์เป็นฐานทัพเรือโจมตีอังกฤษ เยอรมนียังไม่พร้อมจะท่าสงคราม วิ่งขอ
เจรจากับฝรั่งเศส โดยยอมรับรองให้ โมร็อกโกเป็นรัฐได้อารักขาของฝรั่งเศส
เหตุการณ์จึงยุติลง “เหตุการณ์อากาดีร์" นี่จุดชนวนให้เกิดการพูดคุยเรื่อง
สงครามในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง การเจรจาระหว่างประเทศยังคงดำเนิน
ต่อไปและวิกฤตก็บรรเทาลง
เมื่อสิ้นสุดการประชุมเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1911 ฝรั่งเศสได้รับ
สิทธิในการปกป้องโมร็อกโกและในทางกลับกันเยอรมนีได้รับดินแดนคองโกของ
ฝรั่งเศส

ページ8:

วิกฤตการณ์บอสเนีย
ก่อนหน้าการเกิดวิกฤตการณ์โมร็อกโกครั้งที่ 2 ได้เกิดวิกฤตการณ์บอสเนียขึ้น
ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากออสเตรีย-ฮังการีได้เข้ายึดครองบอสเนียและเฮอร์เซโกวินา กลุ่ม
นายทหารหนุ่มที่เรียกตัวเองว่า "เติร์กหนุ่ม" (Young Turks) ได้ก่อการปฏิวัติขึ้นใน
จักรวรรดิออตโตมันหรือตุรกีเพื่อล้มล้างอำนาจอธิปไตยของสุลต่าน เกิดความวุ่นวาย
ภายในจักรวรรดิออตโตมัน
ตุรกีเกรงว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นใน
คาบสมุทรบอลข่านจะขยายตัวเข้ามาในบอสเนีย จึงเข้า
ยึดครองบอสเนียเฮอร์เซโกวีนา และน่าไปสู่
วิกฤตการณ์บอสเนีย
แม้ความตกลงดังกล่าวจะทําให้วิกฤตการณ์บอสเนียยุติลง
โดยปราศจากสงคราม แต่ก็สร้างความร้าวฉานระหว่างเชอร์เบียกับ
ออสเตรีย-ฮังการี ทัฟริโล ปรินชิบ นัก กษาชาวเชิร์บชาตินิยมได้
ลอบปลงพระชนม์อาร์ช กฟรานซิส เฟอร์ดินานด์
การลอบพระชนม์ครั้งนี้จึงได้เป็นชนวนนำาไปสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1
es
รัสเซียและเซอร์เบียต่อต้านการยึดครองดัง
กล่าว และเชอร์เบีย งเป็นผู้นำาของขบวนการรวม
กลุ่มชาติสลาฟ (Pan-Slavism) เรียกร้องให้
ออสเตรีย-ฮังการีตีนบอสเนีย เยอรมนีประกาศ
สนับสนุนการยืดครองของออสเตรีย-ฮังการี รัสเชีย
ชิงสนับสนุนเชอร์เบีย และไม่พร้อมที่จะก่อสงครามกัน
เยอรมนี อิงเจรจาลับกับเยอรมนี
วิกฤตการณ์สงครามบอลข่าน
เกิดสงครามบอลข่านชั้น 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เกิดจากเซอร์เบีย บัลแกเรีย กริชและมอนเตเรโก
รวมกันกลุ่มพันธมิตรทางทหารชื่อว่า สันนิบาตบอลข่าน เพื่อยืดครองแคว้นมาชิโดเนีย แคว้นคอชอนอ
และเกาะครีตจากตุรกีโดยมีรัสเซียสนับสนุน ซึ่งตุรกีเป็นฝ่ายแพ้ ต้องลงนามในสัญญาลอนดอน และได้
สูญเสียดินแดนในคาบสมุทรบอลข่าน และมีการจัดตั้งประเทศแอลเบเนีย น แต่ประเทศสันนิบาตทั้ง 4
ประเทศก็ไม่พอใจกับดินแดนที่ได้รับ โดยมัลแกเรียไม่พอใจที่เซอร์เบียและกรีชได้ดินแดนมากกว่าตน
จึงประกาศสงคราม
ตุรกีและโรมาเนียสนับสนุนเซอร์เบียและกรีซ บัลแกเรียซึ่งขาดพันธมิตรจึงพ่ายแพ้
สงครามโลกครั้งที่ 1
การสิ้นพระชนม์ของอาร์ชบุ๊กฟรานซิส เฟอร์ดินานด์ และพระชายา ทำให้ออสเตรีย ฮังการีอ้างเป็นสาเหตุในการลงโทษเซอร์เบียว่าอยู่เบื้องหลัง
ออสเตรีย ฮังการีเรียกร้องให้เซอร์เบียส่งบุคคลที่ก่อการมาลงโทษ ให้ออสเตรียมีสิทธิเข้าร่วมไต่สวน
* เซอร์เบียไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเรียกร้องได้ทั้งหมด- ขอให้รัสเซียช่วย
เยอรมนี (พันธมิตรกับออสเตรีย-ฮังการี) เรียกร้องให้รัสเซียหยุดระดมพล
ฝรั่งเศส (สนับสนุนรัสเซีย) ออสเตรีย-ฮังการี ประกาศสงครามกับเซอร์เบีย
ทําให้เยอรมนีประกาศสงครามกับรัสเซียและฝรั่งเศส
แต่ล้มเหลว
(บุกทัพผ่านเบลเยี่ยม)
- อังกฤษ (พันธมิตรกับฝรั่งเศสและรัสเซีย) ประกาศสงครามกับเยอรมนี - ไม่พอใจที่เยอรมนีละเมิดความเป็นกลางของเบลเยียม
สงครามยืดยาวกว่า 4 ปี - พัฒนาเป็นมหาสงคราม
- นำไปสู่การปฏิวัติรัสเซีย - เป็นประเทศแรกที่นำแนวคิดสังคมนิยมมาใช้
ถือเป็นสงครามเบ็ดเสร็จ เพราะมีการทำลายล้างกันในทุกๆ ด้าน และทุกรูปแบบ
จัดตั้งองค์การระหว่างประเทศ - สันนิบาตชาติ
- แก้ไขข้อพิพาทและความขัดแย้งระหว่างประเทศ
- ป้องกันไม่ให้เกิดสงครามและธำรงรักษาสันติภาพ

ページ9:

สงครามโลกครั้งที่ 2
สันนิบาตชาติไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิก
การดำเนินงานของสันนิบาตชาติไม่บรรลุผลมากนัก เพราะอเมริกาซึ่งผลักดันการจัดตั้งสันนิบาตชาติไม่ได้เ
ญี่ปุ่นรุกรานแมนจูเรีย - อิตาลีรุกรานเอธิโอเปีย ซึ่งขัดกับหลักการของสันนิบาตชาติ
.
+
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำพรรคนาซี ก้าวขึ้นสู่อำนาจทางการเมืองในเยอรมัน
- ทำลายข้อตกลงในสนธิสัญญาแวร์ซาย
- เยอรมนีบุกโปรแลนด์ อังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมนี
* ค.ศ. 1939-1940 เยอรมนียึดครองยุโรปได้เกือบหมดยกเว้นอังกฤษ
เยอรมนีหันไปบุกสหภาพโซเวียต เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงที่ไม่ชนะอังกฤษ 1
.
.
* เยอรมนีเลยสนับสนุนสหภาพโซเวียต
ญี่ปุ่น (พันธมิตรเยอรมันและอิตาลี บุกโจมตีอเมริกา - เข้าสู่สงครามกับฝ่ายพันธมิตร
- ค.ศ. 1941 1944 ประเทศพันธมิตรได้ผนึกกำลังเอาชนะเยอรมนี + นำไปสู่การยกพลขึ้นบก
สิ้นสุดลงหลังจากอเมริกาทิ้งระเบิดที่เมืองฮิโระชิมะและนะงะซะกิ
๔
ในวันดี-เดย์ (6 มิถุนายน ค.ศ. 1944)
อเมริกา
สหภาพโซเวียต
↓
สงครามเย็น (สงครามอุดมการณ์ )
เป็นความขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อแย่งชิงความเป็นผู้นำโลกระหว่างกลุ่มโลกเสรีกับกลุ่มโลกคอมมิวนิสต์
จะไม่ใช้อาวุธทำสงคราม
(แข่งขันกันสะสมอาวุธและกำลังรบ)
ทำให้ยุโรปแบ่งออกเป็น 7 ยุโรปตะวันตก
[ ยุโรปตะวันออก - สหภาพโซเวียต
อเมริกา
เริ่มปรับสัมพันธ์ทางการทูตกัน
นโยบายของประเทศอภิมหาอำนาจ สมัยหลังสงครามเย็น
,,
นำไปสู่การประชุมเพื่อความมั่นคงและร่วมมือระหว่างกันในยุโรป
- การล่มสลายของระบอบคอมมิวนิตส์นับเป็นการสิ้นสุดของระบบโลกในยุคสงครามเย็น
- อเมริกาเป็นประเทศอภิมหาอำนาจเดียวในโลกที่มีอำนาจมาก - แต่ก็ไม่สามารถผูกขาดอำนาจไว้เพียงประเทศเดียว
สงครามอรก
+
อเมริกากล่าวอ้างว่าประธานาธิบดี ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำอิรักให้การช่วยเหลือขบวนการอัล เคดา และกล่าวหาว่าอิรักครอบครอง
และซุกซ่อนอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง นโยบายแข็งกร้าวของอเมริกา แม้อังกฤษจะสนับสนุนอเมริกา แต่ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน ไม่เห็นด้วย
คณะผู้ตรวจสอบอาวุธก็แถลงว่าเท่าที่ตรวจสอบพบว่า อิรักไม่ได้มีอาวุธ
อย่างไรก็ตามอเมริกาก็ได้โจมตีอิรัก โดยไม่รอฉันทานุมัติ
หลังการยุติปฏิบัติการทางทหาร
อเมริกาได้ฟื้นฟูบูรณะ รักให้เป็นประชาธิปไตย