ノートテキスト
ページ1:
ประวัติบุคคลสำคัญ ของนาฏศิลป์ไทย นางลมุล ยมะคุปต์ ประวัติส่วนตัว นางลมุล ยมะคุปต์ หรืออีกชื่อหนังแบรรดาเกษยทั้งหลายจะขนาน นามให้ท่าน ด้วยความเคารพรักอย่างยิ่งว่า “คุณแม่ลกุล” เป็นธิดาของร้อยโท นายแพทย์จีน อัญ ธัญภา กับ นางด่าบอย อัญธัญชาติ (เชื้อ อินต๊ะ) เกิดเมื่อ วันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔ ณ จังหวัดน่าน ในขณะที่บิดาขึ้นไปราชการสงคราม ปราบกบฏเจี๊ยว (กบฏ จ.ศ.๑๒๖๘ ปีขาล พ.ศ. ๒๕๕๕) (พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๒๕) เกิดที่จังหวัดน่าน เมื่ออายุได้ ๕ ขวบ บิดาได้พามา ถวาย ตัวเป็นละครที่วังสวนกุหลาบ และที่วังสวนกุหลาบ ครูลมูลได้ความรู้ทาง ละครในรูปแบบ ของละครนอก ละครในและละครพันทาง ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ วังเพชรบูรณ์ และ ได้ ความรู้ในเรื่องของละครดึกดำบรรพ์ เมื่อออกจากวังเพชรบูรณ์ ครูลมูลได้สมรสกับครู สงัด ยมะคุปต์ และได้ขึ้นไปเป็นครูสอนละครที่เชียงใหม่ในคุ้มพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ซึ่งครูลมุลได้ความรู้เกี่ยวกับ นาฏยศิลป์ล้านนาและพม่า ครูลมูล ได้นำคณะละครไปแสดง ที่เมืองพระตะบอง ประเทศเขมร อยู่ 9 ปี ซึ่งคงได้ ประสบการณ์ด้านดนตรีและนาฏศิลป์ ของเขมรมาบ้าง ต่อมาเข้ารับราชการเป็นครูแผนกนาฏศิลป์ กรมศิลปากร และ ทำงาน ตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย ผลงาน ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งครู ครูพิเศษ และตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ประจำ วิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากรนั้น ท่านได้ถ่ายทอดท่ารำสำคัญ และในขณะเดียวกัน ได้ประดิษฐ์คิดค้น ทาร่าที่งดงามยิ่งไว้มากมายเกินกว่าที่จะนำมากล่าวได้ครบถ้วน หากจะนำมาเฉพาะเรื่องสำคัญและเป็น ประเภท “ระบำ” สารัตถประโยชน์ ดังนี้ ประเภท “รา” • รากษ์บทใหญ่ พ.ศ. ๒๔๗๘ ร่วมคิดการแสดงชุดนี้กับนางมัลลี คงประภัศร ใช้ประกอบการ แสดงละครเรื่อง “สุริยคุปต์” หลังจากนั้นได้ขออนุญาตพระยานัฏกานุรักษ์ (ทองดี สุวรรณการ 4) จัดเป็นหลักสูตรใช้สอนในโรงเรียนนาฏศิลป์ตราบเท่าทุกวันนี้ (ท่ารำแม่บทใหญ่) เดิมเป็นทา นึ่งท่านได้ประดิษฐ์ท่าเชื่อมหรือที่เรียกว่า “ลีลา” เป็นประบวนรำขึ้น • ราชดชาตรี ร่วมคิดการกับนางมัลลี (หมัน) คงประภัศร์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากท่าขัดไหว้ ครูชาตรี • ร้าวงมาตรฐาน ร่วมคิดท่ารำกับจมื่นมานิตย์เรศ (เฉลิม เศวตนันท์) • ต้นวรเชษฐ์ ร่วมคือท่ารำกับนางมัลลี (หมัน) คงประภัศร์ และหม่อมด่วน ภัทรนาวิก (นางศุภ ลักษณ์ ภัทรนาวิก) • ร่าเกิดเทิง คิดขึ้นเมื่อครั้งไปเผยแพร่นาฏศิลไทย ณ สหภาพพม่า เมื่อปี ๒๕๕๘ • ร่ากิ่งไม้เงินทองถวายพระพร ร่วมคิดกับนางเฉลย ศุขะวณิช จัดแสดงเนื่องในวาระสมัยเฉลิม พระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว • ปี พ.ศ.๒๕๒๕ นางสาวปราณี สำราญวงศ์ ประพันธ์บท ประเภท “ฟ้อน” . 0 • ฟ้อนเงี้ยว คิดขึ้นเมื่ออยู่เชียงใหม่ โดยได้รับแบบอย่างมาจากพวกเงี้ยว (ไทยใหญ่) และนำท่ารา ของชาวเชียงใหม่เข้าผสมผสานดังที่ยึดถือเป็นแบบอย่างในการแสดงตราบกระทั่งทุกวันนี้ • ฟ้อนเล็บ ฟ้อนเทียน คิดขึ้นตามพระกระแสรับสั่ง พระราชชายา เจ้าดารารัศมี โดยนําทาร่าของ ภาคกลางเช้าปรับปรุงให้งดงามขึ้น • ฟ้อนแพน ร่วมกับนางมัลลี (หมัน) คงประภัศร เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๗ ฟ้อนม่านมุ่ยเชียงตา ดัดแปลงท่ารำของพม่า มาปรับปรุงขึ้นเมื่อครั้งอยู่เชียงใหม่ ฟ้อนแคน ร่วมคิดกับนางเฉลย ศุขะวณิช เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ • ประเภท ชิ่ง” • เชิงสัมพันธ์ ร่วมกับนางเฉลย ศุขะวณิช จัดแสดงครั้งแรกในวาระที่รัฐบาลไทยจัดงานต้อนรับ ฯพณฯ เติ้ง เสี่ยวผิง รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๑ เชิงสราญ ร่วมกับนางเฉลย ศุขะวณิช โดยดัดแปลงมาจากชุดฟ้อนแคน แสดงครั้งแรกใน รายการเสาร์สโมสร เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๕ • ระบ่ากินนรร่า จากบทละครดึกด่าบรรพ์ เรื่อง จันทกินรี โดยรวมดิดาร่ากับบางดุลย ศุขะวณิช • ร่วมคิดท่ารำกับหม่อมด่วน ภัทนาวิก (นางศุภลักษณ์ ภัทรนาวิก) เพื่อใช้ประกอบการ แสดงละครในเรื่องอิเหนา ตอนลมหอบ • ระบ่ากฤดาภินิหาร ร่วมคิดทาร่ากับหม่อมด่วน ภัทรนวิก เพื่อใช้ประกอบ การแสดงละคร เรื่อง เกียรติศักดิ์ไทย • ระบ่าพม่า-มอญ ใช้ประกอบการแสดงละครเรื่องราชาธิราช ตอนกระทำสัตย์ ณ โรงละคร ศิลปากร ประมาณปี พ.ศ.๒๔๙๖ • ระบ่ากลอง ร่วมกับนางผัน โมรากุล ผู้ประพันธ์เพลง คือหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปะ บรรเลง) • ระบำฉิ่ง ร่วมกับนาง พัน โมรากุล ผู้ประพันธ์เพลง คือหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปะ บรรเลง) • ระบำพม่าไทยอธิษฐาน เนื่องในโอกาสเดินทางไปเผยแพร่นาฏศิลป์ไทย ณ สหภาพพม่า เมื่อ ปี พ.ศ.๒๔๙๘ • ระบำนกยูง ร่วมกับนางผัน โมรากุล เมื่อครั้งไปหัดละครของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์ เจ้าเจ๊ลมเขตมงคล • ระบ่าบ้า ร่วมกับนางพัน โมรากุล เมื่อครั้งไปหัดละครของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า เฉลิมเขตมงคล • ระน่าสวัสดิรักษา ท่าขึ้นในโอกาสเป็นที่ปรึกษาของนางสำเนียง วิภาตะศิลปิน • ระบำโบราณคดี ชุด ทวารวดี ศรีวิชัย เชียงแสน ลพบุรี ร่วมกับนางเฉลย ศุขะวณิช ใน ขณะที่นายธนิต อยู่โพธิ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศิลปากร ระบำาเริงอรุณ เมื่อกรมศิลปากรจัดแสดงแสดงโขน ชุด ศึกวิรุณจำบัง พ.ศ.๒๕๕๒ • ระบำดิ่ง (กิ่งทิเบต) ร่วมกับนางเฉลย ศุขะวณิช จัดแสดงครั้งแรกในงาน “น้อมเกล้า” ณ โรงละครแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๕ • ระบำกรับ ร่วมกับนางเฉลย ศุขะวณิช จัดแสดงครั้งแรกในงานเลี้ยงรับรองคณะโครงการ เรือเยาวชน ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๕ • ระบำกลอง เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายที่ประดิษฐ์ขึ้น เพื่อใช้จัดแสดงในงานดนตรีไทย มัธยมศึกษา ในครั้งนี้ นายปฐมรัตน์ ถิ่นธรณี เป็นผู้ปรับทำนองเพลง น.ส.ณัฏฐา เพ็ญพอรู้ ม.4/2 เลขที่12 10
Recommended
นาฏศิลป์ ม.4___
225
0
นาฏศิลป์:ละครไทย
165
2
Sejarah Browsing
Recommended
Senior High
ศิลปะ
(ข่วยผมสรุปที่สำคัญๆทีครับจะทำรายงาน) วงการดนตรีไทยได้รับพระบรมราชูปถัมภ์เรื่อยมา แม้ว่าพระองค์ จะทรงเชี่ยวชาญทางด้านดนตรีแจ๊สซึ่งเป็นดนตรีสากล แต่ก็มิได้ทรง ละทิ้งแขนงดนตรีไทย ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้นักดนตรีไทยรักษา ระดับเสียงของดนตรีไทยไว้ สนับสนุนให้มีการค้นคว้าวิจัยบันไดเสียง ของดนตรีไทย โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เพื่อเกิดเป็นมาตรฐาน ของคนตรีไทยในรุ่นหลัง รวมถึงได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้กรมศิลปากรจัดพิมพ์หนังสือโน้ตเพลงไทย เล่ม ๑ เพื่อรวบรวม ศิลปะดนตรีไทยไว้ นอกจากนี้ พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิธีครอบประธาน ครูโขนละครและต่อกระบวนรำเพลงหน้าพาทย์องค์พระพิราพ ซึ่งเป็นศิลปะชั้นสูงของวงการดนตรี และนาฏศิลป์ไทยที่กำลังจะสูญหายไป มีการจัดกิจกรรมทางดนตรีไทย เช่น ดนตรีไทยมัธยมศึกษา ดนตรีไทยอุดมศึกษา และจัดการประกวดดนตรีไทยในระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาตาม ภูมิภาคต่าง ๆ นอกเหนือสิ่งอื่นใด คือ พระองค์ได้ทรงปลูกฝังการเล่นดนตรีไทยให้กับพระราชโอรส และพระราชธิดาด้วย โดยเฉพาะ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสนพระราชหฤทัยและพระราชทานพระราชานุเคราะห์การดนตรีไทย เป็นพิเศษ และไม่ใช่เพียงสนพระราชหฤทัยในฐานะคนดู คนฟังเท่านั้น หากแต่ทรงศึกษาด้วยพระองค์เอง อย่างจริงจัง พระราชกรณียกิจในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในส่วนที่เกี่ยวกับดนตรีไทย จึงเป็นไปอย่างกว้างขวาง ทรงเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิดทรงพระราชนิพนธ์บทร้องเพลงไทยไว้หลายเพลง เช่น บทสมโภชพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (ทรงบรรจุเพลงเอง) เพลงไทยดำเนินดอย เพลงพระอาทิตย์ชิงดวง และเพลงเต่ากินผักบุ้ง และภายหลัง จากอิทธิพลของดนตรีตะวันตกได้เข้ามามีบทบาทในสังคมไทยมากขึ้น ทำให้เกิดแนวคิดการนำดนตรีไทย และดนตรีตะวันตกมาบรรเลงร่วมกัน เรียกว่า ดนตรีร่วมสมัย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ จึงเกิดวงดนตรีไทย ร่วมสมัยขึ้น โดยกรมประชาสัมพันธ์ จากนั้นครูเอื้อ สุนทรสนาน และครูพุ่ม บาปุยะวาทย์ ร่วมกัน สร้างสรรค์นำเอาบทเพลงไทยมาปรับปรุงให้เป็นเพลงไทยสากลเรียกว่า ดนตรีสังคีตสัมพันธ์ และ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ได้เกิดวงดนตรีไทยร่วมสมัยที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักมาจนถึงปัจจุบัน คือ วงฟองน้ำ ก่อตั้งโดยครูบุญยงค์ เกตุคง และอาจารย์บรูซ แกสตัน ภายหลังได้มีวงดนตรีร่วมสมัยต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย เช่น วงบอยไทย วงกำไล ซึ่งทั้งสองวงก่อตั้งโดย นายชัยยุทธ โตสง่า
Senior High
ศิลปะ
วิชานาฏศิลป์ค่ะ เราหาคำตอบไม่เจอเลย
Senior High
ศิลปะ
ช่วยคิดหน่อยครับ
Senior High
ศิลปะ
ปัจจุบันในวงการภาพยนตร์ มักนำเสนอให้ดนตรีไทย และนาฎศิลย์ไทย เป็นสิ่งที่น่ากลัว และมีสิ่งลี้ลับเข้า มาเกี่ยวข้อง ทำให้คนในสังคมมีความหวาดกลัวต่อตนตรีไทย และนาฏศิลป์ ในฐานะที่นักเรียนเป็นเยาวชน รุ่นใหม่ นักเรียนจะมีวิธีการสื่อสารอย่างไรให้คนในสังคมไทยให้รับรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็น เป็นสิ่งที่มนุษย์ จินตนาการขึ้น แปละให้หันมาช่วยกันอนุรักษ์ตนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทยให้คงอยู่คู่กับประเทศไทยต่อไป
Senior High
ศิลปะ
ตอบอะไรคะ
Senior High
ศิลปะ
ประโยชน์ของนาฏศิลป์คืออะไรคะ
Senior High
ศิลปะ
ช่วยอธิบายความสำคัญของนาฏศิลป์หน่อยค่ะ
Senior High
ศิลปะ
มีใครพอจะรู้ บ้างคะ
Senior High
ศิลปะ
สถาบันสอนรำไทยมีสอนที่ไหนบ้างคะ
Senior High
ศิลปะ
Comment
No comments yet