ページ1:

.
25
น อาญาร
ความผิดเกี่ยวกับ
3 ชีวิต ร่างกาย
ความผิดต่อชีวิต
29 (เจตนาฆ่า)
1) ผู้ใด
2) ว่า : ทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต ซึ่งรวมถึงการงดเว้นด้วย
vai
3) ผู้อื่น ต้องมีสภาพบุคคล ๕ ป.ม.ม. ม. 15 )
4) เจดานา +รู้ข้อเท็จจริง (ม.59)
การพิจารณาเจตนา ในเบื้องต้น) 2. E
-อจากอาวุธ
1
กระทํา ว่า
– โอกาสเลือกกระทำ - ตำแหน่งของขาดแลง หรือทรกระทำ
ผลที่เกิดขึ้นจะตายสัมพันธ์กับการกระทำ (ทฤษฎีเงื่อนไข)
- ถ้าผู้นั้นไม่ตาย: พยายามฆ่า
การ มีท ขณะที่ผู้ตายถึงแก่ความตายแล้ว ต่างยกมือ ไม่มีภาษา)
* เป็นไปไม่ได้ในปุ๋ยเทงจง มยายาม
ใช้มีดสปา ทรี มั่น เรียบายบริเวณศีรษะ คณะอื่นนั้นหลัง
LD พาตนาฆ่า Cอาว + าแหน่ง 4 om เลือกกระทา เมื่อโมตายจงผิด
นมยายาม
Darling

ページ2:

290 ทำให้ผู้อื่นตายโดยไม่เจตนา)
1) ทำร้ายผู้อื่น (มีเจตนาทราย)
การทำร้ายนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายถึงแก่ความตาย
2)
ใช้หลักทฤษฎีเงื่อนไป
ไม่มีเจตนาฆ่า
3)
4) มีเจตนาทำร้าย
ประมาท — 291 :ตาย
-300: สำนั
291 (ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึง
นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย)
1 มีการกระทำอันเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ไม่เคลื่อนไหว * กระทำโดยประมาท” กระทำความผิดมิใช่โดย
ไม่มีเจตนา แต่ประมาท (ม.49 3.4) ความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะ
: การกระทำ
เลือน
นว
เวทนา ๒๒ กระทำโดยปราศจาก
2.
เช่นนั้นจักต้องมี ตามวิสัยและ
มการณ์ และ กระอาง ความ
ระมัดระวังเช่นว่านั้น แต่
เมียงมอไม่
ได้
ความผิดตอรางกาย
กา
295 (ทำร้ายร่างกาย)
1 ทำร้ายผู้อื่น : อยู่ในความหมายของคำว่าประทุษไทย (ม.1 (1)
* ประทุษร้าย ทำการประทุษร้าย แก่กายรัฐ จิตใจ ของ บุคคล ไม่ว่าจะด้วยแรงกายภา
หรือด้วยวิธีอื่นใด รวมถึงการกระทำใดๆ ซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดอยู่ใน
ภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ไม่ว่าจะโดยใช้ยาทำให้มันเมา สะกดจิต หรือวิธีอื่นได
น คล้ายคลึงกัน
มีบาดแผลด้วยทั้งขึ้นใน กระดูกร้าว
2) เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ รอยข้างๆ อันได
3)เนา
* ผลไม่เกิด : พยายาม

ページ3:

297
ทำร้ายผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส)
1) กระทำผิดฐานทำร้ายร่างกาย ผม 219)
การทำร้ายนั้นเป็นเหตุให้ผู้ถูกทำร้ายได้รับอันตราย สำนัก
1)
“อันตราย หลัง
(1) บอด หูหนวก ลิ้นขาด เสี่ยมานุประท
(2) เสียอวัยวะมันๆ หรือความสามารถสืบพันธุ์
(3) เสียแขน 17 30 นิ้ว เท้า หรือ อวัยวะอื่นได
(4) พัก สย นมอย่างติดตัว
(5) แฌลูก
(๖) จิต การอย่างติดตัว
(1) ทุพพลภาพ หรือเจ็บป่วยเรื้อรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต
(๑) ทุ่มมาดาม หรือหวยกับด้วย อาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน หรือ จน ประกอบ
กรณียา ตามปกติไม่ได้กินกว่า 20 วัน
ทั้งนี้ ต้องเป็นผลที่ตามธรรมดา ย่อมเกิดขึ้นได้จากการกระทำนั้น
3)เจตนา - หากผมไม่ต
-
ทำไม่สำเร็จ : พยายามใน ม.295 2 ไม่มีพยายาม
*
- ตั้งแต่ไม่สานส: รับผิด ทมม. 295 5 ทำให้น้
2991 4 ชุดมุนต่อสู้เป็นเหตุให้บุคคลได้รับอันตรายสาหัส
(
1) เข้าร่วม ชุลมุนต่อสู้ (3 คน + )
- มีบุคคลหนึ่งบุคคลได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ได้รับ
2)
0
อนตรายสาหัส
3) โดยการการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น
Danely

ページ4:

300
(ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นมาเจ็บหน นัส)
1 กระทำ ด้วย ประการใดๆ
2) เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสำนั
3) ประมาท
ลักษณะ 11.
เดรภาพ และ ขอเสียง
309 ข่มขืนใจผู้อื่น)
0
เพรภาม
* การข่มขืนใจ ต้องกระทำโดยผู้ที่
8
ที่ไม่มี
อ้านาจ กระ เ ม น จะ
ในความผิด
1) ข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการ หรือ ไม่กระทำการ
โห้ยอมถนนต่อ ได
2) โดย : ทำให้กลัวว่า จะเกิดอันตรายต่าง ๆ ชีวิต
หรือ ใช้กำลังประทุษร้าย
|d
ป
ร่างกาย
อันตรายจากผมจีน เราม
หรืออยู่ที่อื่นก็ได้ รวมทำความเชื่อ ชื่อเสียง
3)จนฝถูก ต้องกระทำการ / ไม่ กระทร น
บ.บ
ยอมจำนนต่อสิ่งนั้น อสม
4) เจตนา
วรรคสอง
1)กระทำความผิดในวรรค 30
1
แกตนเอง, น
บุคคลที
หรือ
เอกสารสิทธิ์” เอกสารที่เป็นหลักฐาน
แห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง เป็น
สงวน เรีย ระงับ หงิ
2 โดยมี 125 หรือ ร่วมกันกระทำ 5 คน +
3) มูลเหตุจูงใจ เมื่อ ให้ผู้ถูกข่มขืนใจ 7 ถอน ทำลายเอกสารสิทธิไม
Danely

ページ5:

วรรคสาม (ท้าย)
1) กระทำความผิดดังวรรคแรก
2) โดย : อ้างอำนาจรั้ง ซองโจร ไม่ว่าจะมีอยู่จริงหรือไม่)
1310 (หน่วงเหนี่ยวกักขัง)
1 1) หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือ
2) กระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย
3 3)เจตนา
*
การหน่วงเดียวกัน ผู้ที่ถูกหน่วงเหนียวๆ
ไม่จำเป็นต้องรู้ตัว
รถแทรกระทำของบุคคลผู้ไม่มีอำนาจกระทำ หรือ
ทำไปโดยมีอำนาจแต่กระทั่งเกินบวบอานาจนั้น
กระทำในวรรคแรกทำให้ผู้นั้นตาย : รับผิด 240
วรรคสอง > การกระท
1 มนัส:297
313 (จับตัวเรียกค่าไถ่)
1) เอาสาวเด็กอายุไม่เกิน 15 ไป หรือ
0-2) เอาตัวบุคคลอายุเกิน 15ปีไปโดยใช้อุบายหลอกลวง เป็น
เอกลังประทุษร้าย อำนาจครอบงำผิด คลองธรรม ใช้วิธีข่มขืนใจด้วย
ประกาอื่น ด
5) หน่วงเหนียว กักขังบุคคลด
4เจตนา
+
9)
“ไก่” ทรัพย์สิน หรือประโยชน์
ที่เรียกเอา หรือใช้เมื่อแลกเปลี่ยน
กับเสรีภาพของผู้ถูกเททั่วไป
5) [เจตนามีเศษ) เมื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ ผมหนา หน จะต้องเป็น เงินที่ไม่
ควรได้ (ใบสิทธิ์โดยมาจบ)
0 เจ้าหนี้ = ค่ำได้ -

ページ6:

316 เหตุลดโทษ:
เกษ 315-316
319 (คนกลาง)
3131
1) เป็นผู้กระทำความผิดในม. 313 เรียกค่าไถ่) 34 (ผู้สนับสนุน 315)
4) ปล่อยตัวผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ได้รับเสรีภาพก่อนศาลชั้นต้น
ภายในภาวะอันใกล้
2)
(3) โดยผู้นั้นไม่ได้รับอันตรายสำนัก หรือ ตกอยู่ในภาวะ
เป็นอันตรายต่อชีวิต
317 <พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15)
1) พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ผู้เยาว์จะยินยอมด้วย หรือไม่ก็มิใช่ข้อสำคัญ
2) ปรากไปจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแล
3. นรากโดยปราศจากเหตุอันสมควร ถ้าหากมีเหตุสมควรก็ไม่ผิด
4) จาน
*มราก
สไม่ได้ทาดอบ
ๆ
- การมาไปเลย)
- ต้องปรากฏว่ามีการปราก จะเป็นความคิด (MH/2558)
แยกออกจากกัน มาทุกที่หนึ่งไปยังที่หนึ่ง
2. 2492 / 2561 : กม. มุ่งคุ้มครอง นาจปกครอง มิใช่ตัวผู้เยาว์ถูกมาก (317-510)
การที่ผู้เยาว์ไม่เจ็บเลย ที่บ้าน ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายนัดหมายรัก ส่วนกันก่อน
00
M
แล้วเลยร่วมประมว กับ คยาว โดยไม่ได้รับความยินยอมจากบิดามารดาของ เยาว
ยอมทนอำนาจปกครองดูแลบุตร ผู้เทวดาปราก โดยปริยาย การที่ยา
โทรสัพทัน เลยว่าจะหนีออกจากบ้าน และโดมบาย ๆ พฤติการณ์จำเลยมิใช่
การไปเป็นเพื่อนแต่เป็นการพรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร ทั้งสองกรณี
ฎ.174/2555: ความผิดฐานพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 กฎหมายมุ่งคุ้มครอง
อ่าน ปกครองของบิดามารดา ผู้ปกครอง ผัด แล กรณีจะเป็นความผิดดังกล่าวได้
จะต้องมีการปฎก ซึ่งหมายควรมากไปเสีย -- เลย มีแต่กระทำเราผู้เสียหาย
เท น ยังไม่มีกรมราไป
Darly
2

ページ7:

วรรคสอง - กระทำโดยทุจริต คือ จำหน่าย หรือรับเด็กผู้ถูกมาก
รับโทษเท่ากับวรรคแรก
วรรคล้าม +กระทำโดยมีเจตนามิเศษ : เมื่อหากำไร เมื่อการอนาจาร
1)°
| *319-319: u19 ไม่เกิน1ป
319 ผมรากโดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจ)
1 มากผู้ อายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี
2) พรากไปจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือ ผู้ดูแล
3) เป็นการมากโดยผู้พา ไม่เต็มใจ ไม่รัดใจไป ใช้กลอุบาล
4) เจตนา :เจตนา ธรรมดาก็ผิดสำเร็จ
วรรอง สาม ๆ เหมือนกับ 317
=
Lucenses
*
เต็มใจ+เจตนาปีเศษ - ผิด
=
319 ผมรากโดยผู้เยาว์เต็มใจ)
พรากผู้เยาว์อายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 1 ปี
มรากไปจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง ผู้ดูแล
ย
3) ผู้ท ฟามได้ไปดีพ
4) เจตนา หากไม่มี (มีเพียงเจตนาธรรมดาคือ มากไป ๆ) ก็ไม่ผิด
เจตนา เศษๆ เพื่อนทีไร หรือ เพื่อการอนาจาร

ページ8:

3 หมิ่นประมาท
526 หมิ่นประมาท)
ในความผู้อื่นต่อบุคคล ไม่
ดอ
es
2 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกหมิ่น หรือลูกก็อยาก
บ
เป็นเพียงมฤติการณ์ประกอบ ๆ แม้จะยังไม่เกิดแต่นานเกิด เป็นความผิด
พิจารณาจากความคิดของวิญญาน
3) เจตนา
* การได้ความ การแสดง มาจาก รรม อันเป็นข้อเท็จจริง
( ประการใด ประการหนึ่ง ของผู้ถูก หมื่น
ประมาทให้ปรากฏร บุคคลที่ 3
หากความเท็จนั้น ไม่น่าเป็นจัดได้โดยแท้
ไม่ผิด
- ไข่บุคคลอืห์
- มากับยึดกดูหมิ่นในที่สาธารณะ
-อักษ |รูป ทม อื่นๆ
และลงมือความลักษณะที่เป็นหมิ่นประมาทลงในหนังสือพิมพ์ เลย
- ทำไปโดยเชื่ออย่างสุจริต ได้รับยกเวัน (319) หรือมีบุคคลอื่นได้ยิน
ละว่า “แมท รม. ริท : เป็นจามากเนื่องจากไม่ระบุไว้งัด น
-3.cen) 106อกสารมาแล้วไปให้ผู้อื่นอ่านต่อ ถือเป็นการได้ตามแล้ว
-.cex) ได้ความคุ้ยหายว่าเป็นกระสือ - ยกฟ้อง
29 (เหตุยกเว้นโทษ 326)
1) แสดงความเห็น หรือ ข้อความโดย จริตในกรณีดังนี้
(1) เพื่อความชอบธรรม ป้องกัน ส่วนได้เสียตามคลอง ธรรม
ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานซึ่งเป็นวิสัยของปร
(3) คชมด้วยใจเป็นธรรม ซึ่งเป็นวิสัยของประ
(4) แจ้งข่าว - ในล
(2)
การปร มง
น์ความจริงใจในความผิดฐานหมิ่นประมาท)
330 (การพิสูจน์ค
4. ถ้าผู้อาภาพ ว่ากระทำความผิด จนได้ว่า ที่บาทหมิ่นประมาทนั้น
เป็นจริง ไม่ต้องรับโทษ
=
1 มันเป็นการ, ความในเรื่องส่วนตัว และการพิสูจน์นั้นไม่เป็นประโยชน์
2)
เกด → ห้ามมิสูจน์

ページ9:

331 แสดงความเห็นในการพิจรณาคดี)
1) เป็นคู่ความ หรือ ทนายความของคู่ความ
2) แสดงความเห็นในกระบวนพิจรณาคดี้
3) เมื่อประโยชน์แก่คดีของคาน - การเข้าไป” 1 ผู้อื่นครอบครองทรัพย์อยู่ก่อน
หมวด 1 สัก ซึ่ง
334-c กทรัพ )
ลักษณะ 19
ทรัพย์
ส
1)
ผู้กระทำเข้าไปเอาการครอบครอง
โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ ค. ยินยอ
4) ฟาทรัพย์สอนที่
รองมีลักษณะเป็นการแย่งการครอบครอง
** ลักทรัพย์แล้วไม่คิดทำให้เสียทรัพย์อีก
1) เอาไป ไม่จำกัดวิธี แต่ต้องมีลักษณะที่เป็นการตัดกรรมสิทธิ์ตลอดไป เอาไปบาด
-
มีภาษณะ มา เคลื่อนที่ไป
2) ทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
สังหาริมทรัพย์
-อยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น
3) เจตนา - ครอบไปถึงออกภายนอกทั้งหมด - ไป
Li ทรัพย อื่นๆ
4) โดยทุจริตา (ม.101)) โดยทุจริต” เมื่อแสวงหาประเด็นอันมิควรได้โดยชอบ
ด้วยกฎหมายบนรับตนเอง หรือผู้อื่น
1.2.1940/2542 : สัญญาณโทรศัพย์เป็นการแต่ไม่มีที่แปลงมาจากเสียงพูดให้เคลื่อนที่
ผ่านลวดตัวนำา การที่จ้าเลยลักเอาสัญญาณโทรศัพย์ จาก โทรศัพท์แห่งประเทศไทย
ไปใช้เมื่อประโยชน์ บอง เลยโดยทุจริ งเป็นความผิดฐานลักทรัพ เช่นเดียวกับ ก
กระ ไฟฟ้า
0.301/2551 : จำเลยเป็นจักรยานผู้เสียหายมาจากจุดที่จอดเดิมประมาณ 1 เมตร แต่
เลยยังไม่ทันติดเครื่องรถขับเข้าไปเมาะผู้เสียหายมาเมาเสียก่อน
จำเลยจึงทิ้ง
วิ่งหนีไปตีได้ว่างเลยยึดถือครอบครอง และอากรม เคลื่อนที่ไปในลักษณะที่มา
เอไปได้ เป็นการ กทม สทท แคว
4663212513 การที่จำเลยทั้งสองคนลอกลวงโจทก์ โดยจำเลยที่ 2 แดง ตนตอ
โจทย์มาเป็นนายช่วงแรกเจ้าของที่ดินตาม น. 3 จนโจทก์หลงเชื่อ แม้จะไม่ปรากฏว่า
เลยได้รับประโยชน์เป็นทรัพย์สินแต่อย่างใด ตาม เ ส นายกนางได้รับ
ประโยชน์จากทรับนอน ซึ่งย่อมถือว่าเป็นการสอง มาประโยชน์ หรับผู้อื่น
ใน
อันเปนการทาตาเช่นนั้น

ページ10:

+
ANG
4.1151/2529 : จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนา วิทยุของกลางซึ่งใช้สำหรับติดต่อกัน
หน่วยราชการกลับบ้าน โดยไม่ส่งมอบให้แก่ผู้ที่เว็บเวรต่อจากจำเลย จึงไม่ได้รับ
ประโยชน์ ทาวิทยุดังกล่าว ต่อมาก็เลยนำไปส่งมอบให้แก่ผู้บังคับบัญชา แสดงให้เห็น
ว่าไม่มีเจตนาทุจริต ก็มีทางราชการจะได้รับความเสียหาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้การกระทำของ
เลยเบนเนท ขึ้นมาได้
ทรง
12-2011 72915 เลยเอากระบือ (5) น. กับเกวียนของ ม. ซึ่งจำเลยเข้าใจว่าเป็นของน
2-2041/2515 vibe as to vep
รวมราคา 7,500 บาท ดังนี้ เห็นได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ไปเมื่อนักใช้หนี้กัน ๒๕๖
นั้น ไม่เกินกว่าจำนวนหนี้ ถือว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริต ไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ใจว่า
4-3296/2555 จากเอาสร้อยคอของผู้เสียหายไป เพื่อนคนนี้กัน ๒๕๕๘ จำเลยก็เข้าใจ
มีราคาไม่เกินกว่าจำนวนหนี้ เลยเอาไปโมราเชื่อว่าเป็นประโยชน์ ที่ทำเลยควรได้ จึงเป็น
การเอาไปโดยไม่มีเจตนาทุจริต ไม่ผิดฐานทรัพย์
4.J9/2584 ทวานปรารภกันทอดแหจับปลาในสระของวัดมา ประกอบ การ ความรู้สึก
ร่วมกันโดยปริยายว่าเจ้าอาวา ยนยอมให้กระทำได้ มารณ์จึงเป็นการกระทำกับปาละ
บาดเจตนาท รต
*
* การฉวยคนต่างฎีกา) หยิบทรัพย์ไปต่อหน้า ภาย
2
36 (วิ่งราวทรัพย์)
1) ลักทรัพย์ เอาไป ของเจ้าทรัพย์ หรือ ผู้ดูแลทรัพย์ นั้นอยู่
*2) โดยฉกฉวย เอาซึ่งหน้า : การดึง หรือกระทำไปโดย ว
3 ทนแลผู้อื่น ที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
4) เนา
ทุจริต”
น
1 2102 25 19 มือขอให้ลงโทษฐานถึงราวทรัพย์ การพิจารณา นั่งไม่ได้ว่า จำเลย
ฉกฉวยเอาถึงหน้า ศาลลงโทษฐานลักทรัพย์ได้
1

ページ11:

หมวดปี
337 (กรรโชก)
1) ข่มขืนใจ : บังคับให้ใช้กระทำการใด
val
1) ผู้อื่น
4)
3) ให้ยอมให้ ตนเอง หรือ ผู้อื่นได้ประโยชน์ ในลักษณะ
3 เป็นทรัพยสิน
โดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน เสรีภาพ
ของ ผู้ถูกขู่เข็ญ หรือ บุคคลที่ 3 หรือใช้กำลังประทุษร้าย
5) จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมให้ หรือยอมจะให้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์
สัน (มักความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผลงาน
- ถ้าผู้เสียบไม่ยอมให้ หรือในแต่ไม่ได้กลัว ที่ถูกข์ : พยายามกรอก
ไม่จำเป็นต้องมีมูลเหตุชักจูงใจมีเศษ
1
๖ เ นา *
วรรคสอง เหตุฉกรรจ์)
ทำความผิดในวรรคแรก โดย (1) ว่าจะฆ่า ทำร้ายร่างกายให้ผู้ถูกข่มขืนใจ หรือ
บุคคลที่3ได้รับอันตราย หนัง หรือว่าจะทำให้เกิดเพลิงไหม้
(1) มีอาวุธม
๔. เลยเก็บโทรศัพท์ได้แล้วว่าไม่นำเงินมาให้ จะเอาโทรศัพท์ไป ทย เป็นการ
00
วาจะ อันตรายต่อกรม สนแล้ว
เป็นมาการ
๑.๑๐ ในคิดบัญชี ที่จำเลยเป็นหุ้นส่วนอยู่ ไม่โลกเก่า เนื่องจากไม่มีทรามขืนใจไป
ยอมให้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน แต่ผิดเสรีม
2/
ฎ.1279
2503 ญา การที่ เลย ร่วมเขียนจดหมายไป มือหลอก ควง เอาเงิน จาก บิดา
บุคคลผู้มีชื่อ แม้จะมั่วว่าผู้มีชื่อนนานหรือร่วมกับ เลย ในการเขียน หรือให้ไปรับเงิน
ก็ตาม บทใน เลยมั่นฝึกฐานกรรโชกไปได้ไม่ เมกะในแง่ของบิดา ผู้มีจ่อๆก
ข่มขืนใจ ก็ยังคงต้องถือว่า มีชื่อดัง กล่าวเป็นบุคคลที่สาม ตามความหมาย ป.อ. ม. 33
Darling

ページ12:

339
ฉ่งทรัพย์)
1) ลักทรัพย์ To be
481
อ
ใช้กำลังประทุษร้าย
L มาหาผู้อื่นๆ
หาไม่ได้ทานดาน ซึ่งทรัพย์
หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย
3)
องเกิดขึ้นในขณะกระทำความผิดเสีย m กระท่างไม่ขาดตอน
มูลเหตุจูงใจมา เมื่อ 1 (0) ให้ความสะดวกแก่การ มาทรัพย์นั้นไป
-1) ใ น ทราย นให้
L06) ยึดทรัม 1 be
4).ปกปิดการกระดกมวด
(9) ในนั้นจากการจับกุม
ขอม ในทันได้ฟัน ว่าจะใช้กำลังประทาย หนึ่ง ได้ใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย แต่
4,447 1941 ขณะที่จำเลยกระชากกระเป๋าถือของผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้
26 4472/2941
หลังจาก เลยกะจากกระเป๋ากลองผู้เรียนายแล้ว เลย วิ่งหนี้ไปนั่งซ้อนจักรยาน
ศ
ซึ่งจอดอยู่ เมื่อ หลบหนี แต่ถูก วิ่งไปผลักจนรถจักรยานล้มลง จำเลยจึงรักอาวุธมีดอกมา
จะแทง . เป็นนกติการณ์ที่จัดว่าจำเลยกระทง โดยมีคอนเพ็ญไม่ใช่ จัดวาง
กาหลงหนี่ เมื่อให้มันทการจับกุมและเมื่อการมาทายไป ๒๕๕๒ ม. จะมีให้ผู้เรียนาย
เอาเมือการกระทำ ของ เลยยังไม่บาด คนจากการกระจกกระเป๋า กือบ ผู้เสียหาย ถือได้ว่า
จาย 18 ทกกระทา ผู้ชายโอเบญ ทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เมื่อ ใน
นท การจับกุมแล้ว เป็นความผิดร้างท
, 44130/2539 : เลขที่ 1 เอาเล็ก ค ม มาวางบนตักให้ผู้เสียหายเป็นในขณะ
นัดกัน
ในรถโดยสาร จมดา แว่นตา ยาย หยิบเอาแว่นตาของผู้เสียหายจาก
กระเป๋าหล่อและ ง เกดกในสมุดผู้เสียนายไป ย่อมเป็นเทรลักทรัพย์โดยขู่เข็ญว่าในทัน
นันจะ ประกาย ( สินทรับ ) เ ท 2 และ 5 บท
ม จ . บ
1 ของในเน้นว่ามีพานความทัน 3 ก น นทรัพย
340 เปล้นทรัพย์ว
13เอาไป
2)
+
๖) ทุจริต
7) มาๆ ชักจูงใจ
เจ้าของรวมอยู่ด้วย
ทรัพย์ของผู้อื่นหรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าบ
3) โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือ ชั้นกันเครื่องใช้กำลังประทุษร้าย
4) ร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ 3 คน 4
5) เพา

ページ13:

4
541 (ฉ้อโกง) * เป็นการหลอกเอากรรมสิทธิ์
1) หลอกลวง ด้วยการ - ของข้อความเท็จ จัดจ้าง Fact
-
- ปกปิดชื่อ ความจริงที่ควรบอกให้แจ้ง (มีหน้าที่ต้องแจ้ง)
Horse, is not for * เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแม่ง
รวมทั้ง opinion prediction
2
A
ผู้อน
มิได้ไป
+ 3) ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือ บุคคลที่ 3
หรือทำให้ผู้นั้น ๆ ทำ ถอน
4) เจตน
5) ทุจริต
L
ทำลาย
เอกสารสิทธิ์
1 เอก
3.เทป 2530 ลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย 4 คือโกง การห้ามน้ำมันไม่มีสัญญาซื้อย
เคยมีเจตนาท ตมา ร น เมื่อผู้ทายเทน้ำมัน ใน ไม่ได้ครอบครอง
การครอบครองอยู่ที่Ăทยได้ว่า เลยแบ่งการครองครอ
ในเป็นลักทรัพย์
*
352 (อักษาทรัมป์) ไม่มียายาม (ยังไม่มีฎีกา)
1) ครอบครองทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย
:ทรัพย์ -- อสังหาฯ/ ่งนาฯ
“เบียดบัง” กระทำการเป็น
2) เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นขอทาน หรือบุคคลที่ 3 ปฏิปักษ์ต่อกรรมสิทธิ์ใน
4 เจตนา
4)โดยทุจริต
ทรีม บองผู้อื่น
ทรัพย์สินหาย ผู้เก็บได้ไม่รู้ หรือ ไม่มีอันควรร
วรรคท้าย และทางเดี่ยว เดียว
ว่าเจ้าของ า ก ทม คืน ของ โกะการ รอ เง
1) ทรัพย์ของผู้อื่น ซึ่งผู้อื่นส่งมอบให้ด้วยความสำคัญผิด หรือ
2
ทรัม สินนาย อื่น ได้
ในทรัพย์
ตัวบุคคล D

ページ14:

A
“ผู้ครอบครองทรัพย์” ควบคุมเหนือทรัพย์นั้นทางกายภาพ และมีอำนาจเหนือ
ทฌยนนได้อย่างเมืองมอ เพื่อที่จะใช้ทรัพย์นั้นได้โดยปราศจากขอบเขตอัน
จำกัด อย่างมีเหตุผล (ผู้ครอบครองโดยแท้จริง)
- มีผู้ที่ไม่ได้ครอบครองทรัพย์ในทางกายภาพ แต่มีอำนาจเหนือทรัพย์นั้น
ได้อย่างเพียงนี้ เมื่อที่จะใช้ทรัพย์นั้นได้โดยปราศจากขอบไบรอันจำกัด
อย่างมีเหตุผล ผู้ครอบครองโดยนัยของกฎหมาย)
LD
ในทาง
3) บุคคลที่ไม่มีอำนาจเหนือทรัพย์ แต่เทาะเป็นผู้ควบคุมทรัพย์ไว้ใ
กายภาพ แต่เบาก็เป็นเพียงผู้ใช้ทรัพย์เพียงชั่วคราว หรือ อยู่ในขอบเขตกัด
(ผู้ยึดถือทรัพย์ไว้แทนผู้อื่น ผู้ดูแลรักษาทรัพย์)
ได้แก่ 1) เจ้าของ ทรัพย์สิน 2) ผู้เช่า 3) ผู้รับจ้าง 1) ผู้ยืมใช้คงรูป ๑) ผู้รับบน
เจ้าของทรัพย์สิน 1
ผู้รับจํานํา า) รับฟ้าก ร้Šตัวแทน
3.1382503 หลัง เดินหายเป็นเรื่องที่ทรัมขั้นลุกมันไปจากความยึดถือ ของ จักทอง หรือ
ของเจ้าของ
ผู้ครอบครองโดยมิได้ค้างใจ ไม่ใช่เรื่องการ และการครอบครอง ผู้ใดเก็บเอาทรัม หันไป
จะเป็นลักทรัพย์ หรือชักยอกทรัพย์สิน นายต้องมีจารณาเป็นรายๆไป กับเก็บ ไปโดย
รู้หรือควรรู้ว่า นั้นเจ้าของ กำลังติดตาม หรือเมื่อเอาชนก็เป็นทรัพย์
ถ้าไม่รู้ หรือไม่มีเหตุอันควรรักเป็นจักยอกทรัพย์สินไทย
C ดูเจตนาตายในผู้กระทำ
P
Darling