Junior High
ดนตรี

ประวัติดนตรีไทย ม.1-2

31

1192

0

tinyy._flover

tinyy._flover

Junior High Semua

ประวัติดนตรีไทยตั้งแต่สุโขทัยถึงปัจจุบัน ม.1-2

ノートテキスト

ページ1:

เครื่องดนตรีสําคัญ: กลอง
สําริด(กลองมโหระทึก)เป็นวัฒนธรรม
ดองชอน มีลักษณะคล้ายทรง
กระบอก ส่วนหน้ากลองและงานผาย
ออก หน้ากลองตกแต่งด้วยรูปดวง
อาทิตย์และลายนกบิน ส่วนขอบหน้า
กลองประดับด้วยรูปกบ จึงมีอีกชื่อว่า
“กลองกบ”
พบหลักฐาน (ภาพปูนปั้นประดับ
ฐานเจดีย์@เมืองโบราณคูบัว
จ.ราชบุรี} ภาพนักดนตรีหญิงห้า
คน แต่งกายห่มสไบไม่สวมเสื้อ เกล้า
มวยสูง นักดนตรีหญิง 4คนมี
เครื่องดนตรีประจําตัวคือ พิณ
5สาย,พิณนํ้าเต้า,กรับ,ฉิ่ง ส่วนคน
สุดท้ายสันนิษฐานว่าเป็นนักร้อง
2 ยุคทราวดี
วงบรรเลงพิณ พิณน้ำเต้า) มีผู้บรรเลง 1 คน
ทําหน้าที่ดีดพิณและขับร้อง
วงขับไม้ บรรเลงในงานเลี้ยง/พิธีมงคลของ
กษัตริย์และชนชั้นสูงเช่น กล่อมเศวตฉัตรใน
พระราชพิธีฉัตรมงคล
วงเครื่องประโคมในพระราชพิธี เป็นการประสม
วงอย่างพิเศษโดยมีการประโคมแตรและกลอง
มโหระทึก การประโคมแตรสังข์และกลองชนะ
ยุคสุโขทัย
วงปี่พาทย์เครื่องห้า
วงปี่พาทย์ชาตรี /ปี่พาทย์ชนิดเบา
บรรเลงในการแสดงละคร
ชาตรี,มโนราห์,หนังตะลุง มีเครื่อง
ดนตรีคือ ปี่นอก ฆ้องคู่ โทนชาตรี (ทับ)
กลองชาตรี และฉิ่ง
ปี่พาทย์เครื่องห้า /ปี่พาทย์ชนิดหนัก
บรรเลงในการแสดงโขน มีเครื่องดนตรี
คือ ปี่ใน ฆ้องวงใหญ่ ตะโพน กลองทัด
และฉิ่ง (สมัยสุโขทัยยังไม่มีระนาด)
ยุคก่อนสมัยสุโขทัย
ยุคอยุธยา
- ประวัติและความเป็นมาของดนตรีไทย -
วงปี่พาทย์เครื่องห้า
มีเครื่องดนตรีเหมือนสมัยสุโขทัย แต่เพิ่มระนาดเอกเข้ามา
วงมโหรีเครื่องสี่
แรกเริ่มวงมโหรีประกอบด้วยนักดนตรี 4 คนคือ คนขับลำนำา+ตี
กรับพวง,คนสีชอสามสาย, คนดีดกระจับปี่ คนดีโทนวงมโหรีเครื่อง
หก พัฒนาจากวงมโหรีเครื่องสี่ โดยเพิ่มขลุ่ยกับรำมะนา
ยุคธนบุรี
เนื่องจากในสมัยนี้มีอายุ 15 ปี +อยู่ในระยะฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม
จึงไม่มีหลักฐานการเปลี่ยนแปลงของเครื่องดนตรีไทย
ร.1 :เพิ่มกองทัดในวงปี่พาทย์1
ลูกวงปี่พาทย์จึงมีกลองทัด2ลูก
ร.2 :มีชอสามสายส่วนพระองค์
(ชอสายฟ้าฟาด),น่าวงปี่พาทย์
บรรเลงประกอบการขับเสภา
S.3 :เพิ่มระนาดทุ้มคู่กับระนาดเอก
-ฆ้องวงเล็กคู่กับฆ้องวงใหญ่
จึงเกิดเป็นวงปี่พาทย์เครื่องคู่
ร.4 :คิดค้นระนาดเอเหล็ก+ระนาด
ทุ้มเหล็ก+ฉาบใหญ่จึงเกิดวงปี่
พาทย์เครื่องใหญ่และ ปรับปรุงวง
มโหรีหญิงให้เป็นวงมโหรีเครื่องใหญ่
-5.5
: เกิด วงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์"
เพื่อประกอบละครดึกด่าบรรพ์
ร.6 : ปรับปรุงวงปี่พาทย์มอญ
เพื่อใช้ในงานศพ, น่าอังกะลุงของ
อินโดนีเซียมาดัดแปลงให้มีเจ็ด
เสียง,น่าขิม+ออร์แกน+วงเครื่อง
สายะวงเครื่องสายผสม
ร.7 : แต่งเพลงโหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง
,เพลงเขมรลออองค์,เพลงราตรีประดับ
ดาว//เป็นยุคที่ดนตรีไทยเจริญที่สุดแต่
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
ดนตรีไทยจึงชบเชาลง
ร.8 : ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ร.9 : เกิดวงมหาดุริยางค์ขึ้นโดยมี
นักดนตรีร่วมบรรเลงกว่า 200คน
+มีเครื่องดนตรีครบทุกประเภท
6 ยุครัตนโกสินทร์
79

Comment

No comments yet