Undergraduate
นิติศาสตร์

ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2547

62

754

0

watcharipp

watcharipp

สรุปกฏหมายเตรียมสอบพนักงานราชการ

PromotionBanner

ノートテキスト

ページ1:

ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยพนักงานราชการ พ.ศ. 2543
บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2543
เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน รักษาการตามระเบียบนี้
คณะกรรมการ หมายความว่า คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
ส่วนราชการ หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐที่มีฐานะเป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ -
บริหารราชการแผ่นดิน และกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เว้นแต่ราชการส่วนท้องถิ่น
หัวหน้าส่วนราชการ หมายความว่า ปลัดกระทรวง ปลัดทบวง อธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม หรือหัวหน้าหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีฐานะเป็นส่วนราชการ
และผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างพนักงานราชการ
พนักงานราชการ หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการจ้างตามสัญญาจ้างโดยได้รับค่าตอบแทน จากงบประมาณของส่วนราชการ เพื่อเป็นพนักงานของรัฐในการปฏิบัติงาน ให้กับส่วนราชการนั้น
สัญญาจ้าง หมายความว่า สัญญาจ้างพนักงานราชการตามระเบียบนี้
บรรดากฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ คำสั่ง หรือมติคณะรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ทาราชการ หรือลูกจ้างของส่วนราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหรือเป็นข้อห้ามในเรื่องใด
ให้ถือว่าพนักงานราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติ หรือต้องห้าม เช่นเดียวกับข้าราชการ หรือลูกจ้างด้วย ทั้งนี้ เว้นแต่เรื่องใดมีกำหนดไว้แล้วโดยเฉพาะในระเบียบนี้ หรือตามเงื่อนไขของ -
สัญญาจ้าง หรือเป็นกรณีที่ส่วนราชการประกาศกำหนดให้พนักงานราชการประเภทใด หรือตำแหน่งในกลุ่มงานลักษณะใดได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกับที่ราชการ หรือลูกจ้างในบางเรื่องเพื่อให้
เหมาะสมกับสภาพการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ
หมวด 1 พนักงานราชการ
พนักงานราชการมีสองประเภท ดังต่อไปนี้
(1) พนักงานราชการทั่วไป ได้แก่ พนักงานราชการซึ่งปฏิบัติงานใน
หรืองานเชี่ยวชาญเฉพาะ
ประจำทั่วไปของส่วนราชการในด้านงานบริการ งานเทคนิค งานบริหารทั่วไป งานวิชาชีพเฉพาะ
(2) พนักงานราชการพิเศษ ได้แก่ พนักงานราชการซึ่งปฏิบัติงานในลักษณะที่ต้องใช้ความรู้ หรือความเชี่ยวชาญสูงมากเป็นพิเศษเพื่อปฏิบัติงานในเรื่องที่มีความสำคัญ และจำเป็นเฉพาะ
เรื่องของส่วนราชการ หรือมีความจำเป็นต้องใช้บุคคลในลักษณะดังกล่าว
ในการกาหนดตําแหนงของพ
(1) กลุ่มงานบริการ
เราชการให้กำหนดตำแหน่งโดยจำแนกเป็นกลุ่มงานตามลักษณะงานและผลผลิตของงาน ดังต่อไปนี้
(2) กลุ่มงานเทคนิค
(3) กลุ่มงานบริหารทั่วไป
(4) กลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ
(5) กลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะ
(6) กลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ
ในแต่ละกลุ่มงานตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการอาจกำหนดให้มีกลุ่มงานย่อยเพื่อให้เหมาะสมกับลักษณะงานของพนักงานราชการได้
การกำหนดให้พนักงานราชการประเภทใดมีตำแหน่งในกลุ่มงานใด และการกำหนดลักษณะงาน และคุณสมบัติเฉพาะของกลุ่มงาน
ให้เป็นไปตามประกาศของคณะกรรมการ
ส่วนราชการซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างพนักงานราชการอาจกำหนดชื่อตำแหน่งในกลุ่มงานตามความเหมาะสมกับหน้าที่การปฏิบัติงานของ
พนักงานราชการที่จ้างได้

ページ2:

ผู้ซึ่งจะได้รับการจ้างเป็นพนักงานราชการ ต้องมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปี
(3) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(4) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ไร้ความสามารถ หรือจิตฟันเฟือนไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบราชการพลเรือน
(5) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(6) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำ ความผิดทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
(3) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(6) ไม่เป็นข้าราชการ หรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของราชการส่วนท้องถิ่น
(9) คุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่ส่วนราชการกำหนดไว้ในประกาศ การสรรหา หรือการเลือกสรรบุคคลเพื่อจ้างเป็นพนักงานราชการ ทั้งนี้ ต้องเป็นไปเพื่อความจำเป็น
หรือเหมาะสมกับภารกิจของส่วนราชการนั้น
ให้ส่วนราชการ จัดทำกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการเป็นระยะเวลาสี่ปี โดยให้สอดคล้องกับเป้าหมายการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ และแผนงบประมาณเชิงกลยุทธ์
ทั้งนี้ ตามแนวทางการจัดกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการที่คณะกรรมการกำหนด
กรอบอัตรากำลังพนักงานราชการของส่วนราชการตามวรรคหนึ่ง จะต้องเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อให้ความเห็นชอบเมื่อคณะกรรมการให้ความเห็นชอบแล้ว ให้สำนักงบประมาณ
สนับสนุนงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคคลตามความจำเป็น และสอดคล้องกับกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการดังกล่าว ทั้งนี้ การเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตาม
ประเภทรายจ่ายที่ได้รับการจัดสรรตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด
ในกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็น ส่วนราชการอาจขอให้เปลี่ยนกรอบอัตรากำลัง พนักงานราชการได้โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ และแจ้งให้สำนักงบประมาณทราบ
การสรรหาและการเลือกสรรบุคคลเพื่อจ้างเป็นพนักงานราชการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
ในกรณีที่ส่วนราชการใดจะขอยกเว้น หรือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสรรหา หรือการเลือกสรรตามที่คณะกรรมการกำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้สามารถกระทำได้
โดยทําความตกลงกับคณะกรรมการ
การแต่งกายและเครื่องแ
การจ้างพนักงานราชการให้กระทำเป็นสัญญาจ้างไม่เป็นคราวละสี่ปี หรือตามโครงการที่มีกำหนดเวลาเริ่มต้น และสิ้นสุดไว้ โดยอาจมีการ
ต่อสัญญาจ้างได้ ทั้งนี้ ตามความเหมาะสม และความจำเป็นของแต่ละส่วนราชการ
แบบสัญญาจ้างให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด
การทำสัญญาตามวรรคหนึ่งให้หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ลงนามในสัญญาจ้างกับผู้ได้รับการสรร
หรือการเลือกสรรเป็นพนักงานราชการ
ตามที่ส่วนราชการทําหนด เครื่องแบบพิธีกรให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด
M
วันเวลาการทำงาน หรือวิธีการทำงาน ในกรณีที่ไม่ต้องอยู่ปฏิบัติงานประจำ ส่วนราชการ ให้เป็นไปตามที่ส่วนราชการกำหนด
ซึ่งอาจแตกต่างกันได้ตามหน้าที่ของพนักงานราชการในแต่ละตำแหน่งโดยคำนึงถึงผลสำเร็จของงาน
↓

ページ3:

หมวด 2 คาตอบแทน และสิทธิประโยชน์
อัตราคาตอบแทนของพนักงานราชการให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการประกาศ าหนด
ส่วนราชการอาจกำหนดให้พนักงานราชการประเภทใดหรือตำแหน่งในกลุ่มงานใดได้รับสิทธิประโยชน์อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(1) สิท เกี่ยวกับการลา
(2) สิทธิในการได้รับค่าตอบแทนระหว่างลา
(4) ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
(3) สิทธิในการได้รับค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลางาน
(5) ค่าเบี้ยประชุม
(6) สิทธิในการขอรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
(3) การได้รับรถประจำตำแหน่ง
(8) สิทธิอื่น ๆ ที่คณะกรรมการประกาศกำหนด
หลักเกณฑ์การได้รับสิทธิตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่ส่วนราชการกำหนด ทั้งนี้ เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับหลักเกณฑ์ที่
กำหนดเกี่ยวกับการได้รับสิทธิ์นั้นตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือมติคณะรัฐมนตรี ในกรณีที่เห็นสมควรคณะกรรมการอาจ
เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้แก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ ประกาศ หรือมติคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามวรรคหนึ่ง
ในกรณีที่เห็นสมควรคณะกรรมการอาจกำหนดมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการกำหนด สิทธิประโยชน์ให้แก่พนักงานราชการ
เพื่อให้ส่วนราชการปฏิบัติที่ได้
ให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนอัตราค่าตอบแทน และสิทธิประโยชน์ของพนักงานราชการเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสมเป็นธรรม
และมีมาตรฐานโดยคำนึงถึงค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลง ค่าตอบแทนของเอกชน อัตราเงินเดือนของข้าราชการ พลเรือน และฐานะการคลังของประเทศ รวมทั้งปัจจัย
อื่นที่เกี่ยวข้อง
ให้พนักงานราชการได้รับสิทธิประโยชน์ และมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม
ส่วนราชการอาจกำหนดให้พนักงานราชการประเภทใด หรือตำแหน่งในกลุ่มงานใดได้รับค่า
ตอบแทนการออกจากงานโดยไ ความผิดได้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด

ページ4:

หมวด 3 การประเมินผลการปฏิบัติงาน
ในระหว่างสัญญาจ้างให้ส่วนราชการจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ ดังต่อไปนี้
(1) การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการทั่วไปให้กระทำในกรณี
(ก) การประเมินผลการปฏิบัติงานประจำปี
(1) การประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อต่อสัญญาจ้าง
(2) การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการพิเศษให้กระทำในกรณี
การประเมินผลสำเร็จของงานตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไป
ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่ส่วนราชการกำหนดในการนี้คณะกรรมการอาจกำหนดแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานดังกล่าวเพื่อเป็นมาตรฐานทั่วไปให้
ส่วนราชการปฏิบัติก็ได้
พนักงานราชการผู้ใดไม่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงา
ว่าสัญญาจ้างของพนักงานราชการผู้นั้นสิ้นสุดลง โดยให้
ส่วนราชการแจ้งให้พนักงานราชการทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ทราบผลการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการผู้นั้น
ให้ส่วนราชการรายงานผลการดำเนินการจ้างพนักงานราชการ รวมทั้งปัญหาอุปสรรค
หรือข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการภายในเดือนธันวาคมของทุกปี
หมวด 4 วินัย และการรักษาวินัย
พนักงานราชการมีหน้าที่ต้องปฏิบัติงานตามที่กำหนดในระเบียบนี้ ตามที่ส่วนราชการกำหนด และตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง
และมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม
บูชาซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ
พนักงานราชการต้องรักษาวินัยโดยเคร่งครัดตามที่กำหนดไว้เป็นข้อห้าม และขอปฏิบัติที่ส่วนราชการกำหนด
พนักงานราชการผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้าม หรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง พนักงานราชการผู้นั้นเป็นผู้กระทำผิดวินัย
จะต้องได้รับโทษทางวินัย
การกระทำความผิดดังต่อไปนี้ ถือว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
(1) กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
(2) จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือเงื่อนไปที่ทางราชการกำหนดให้ปฏิบัติจนเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
(3) ปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
(4) ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญา หรือขัดคำสั่งหรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาจนเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
(5) ประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
(6) ละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าเจ็ดวัน สำหรับตำแหน่งที่ส่วนราชการกำหนดวันเวลาการมาทำงาน
(3) ละทิ้งหรือทอดทิ้งการทำงานจนทำให้งานไม่แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด จนเป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง สำหรับตำแหน่งที่ส่วนราชการกำหนด การทำงานตามเป้าหมาย
(6) ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หรือกระทำความผิดอาญาโดยมีคำพิพากษาถึงที่สุด ให้จำคุก หรือหนักกว่าโทษจำคุก
(9) การกระทำอื่นใดที่ส่วนราชการกำหนดว่าเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
ค

ページ5:

เมื่อมีกรณีที่พนักงานราชการถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้หัวหน้าส่วนราชการ จัดให้มีคณะกรรมการสอบสวนเพื่อดำเนินการ
สอบสวนโดยเร็ว และต้องให้โอกาสพนักงานราชการที่ถูกกล่าวหาชี้แจงและแสดงพยานหลักฐานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ในกรณีที่ผลการสอบสวนปรากฏว่าพนักงานราชการผู้
นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรงให้หัวหน้าส่วนราชการมีคำสั่งไล่ออก แต่ถ้าไม่มีมูลกระทำความผิดให้สั่งยุติเรื่อง
หลักเกณฑ์และวิธีการการสอบสวนพนักงานราชการให้เป็นไปตามที่ส่วนราชการกำหนด
ในกรณีที่ปรากฏว่าพนักงานราชการกระทำความผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามที่ส่วนราชการกำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการสั่งลงโทษภาคทัณฑ์
ตัดเงินค่าตอบแทน หรือลดขั้นเงินค่าตอบแทนตามควรแก่กรณีให้เหมาะสมกับความผิด
ในการพิจารณาการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาสอบสวนให้ได้ความจริงและยุติธรรมตามวิธีการที่เห็นสมควร
ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นสมควรอาจกำหนดแนวทางการดำเนินการทางวินัยแก่พนักงานราชการ
เพื่อเป็นมาตรฐานทั่วไปให้ส่วนราชการปฏิบัติก็ได้
หมวด 5 การสิ้นสุดสัญญาจ้าง
สัญญาจ้างสิ้นสุดลงเมื่อ
(1) ครบกำหนดตามสัญญาจ้าง
(2) พนักงานราชการขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามระเบียบนี้หรือตามที่ส่วนราชการกำหนด
(3) พนักงานราชการ ย
(4) ไม่ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงาน
(5) พนักงานราชการถูกให้ออก เพราะกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
(6) เหตุอื่นตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้หรือตามข้อกำหนดของส่วนราชการหรือตามสัญญาจ้าง
ในระหว่างสัญญาจ้างพนักงานราชการผู้ใดประสงค์จะลาออกจากการปฏิบัติงาน ให้ยื่นหนังสือขอลาออกต่อหัวหน้า
ส่วนราชการตามหลักเกณฑ์ที่ส่วนราชการกำหนด
ส่วนราชการอาจบอกเลิกสัญญาจ้างกับพนักงานราชการผู้ใดก่อนครบกำหนดตามสัญญาจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า
และไม่เป็นเหตุที่พนักงานราชการจะเรียกร้องค่าตอบแทนการเลิกสัญญาจ้างได้ เว้นแต่ส่วนราชการจะกำหนดให้ใน
บคาตอบแทนการออกจากงาน
โดยไม้มีความผิดไว้
เพื่อประโยชน์แห่งทางราชการ ส่วนราชการอาจสั่งให้พนักงานราชการไปปฏิบัติงานนอกเหนือจากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้างได้
โดยไม่เป็นเหตุให้พนักงานราชการอ้างขอเลิก
รียกร้องประโยชน์ตอบแทนใด ๆ ในการนี้ส่วนราชการอาจกำหนดให้ค่าล่วงเวลา หรือค่าตอบแทน
อื่นจากการสั่งให้ไปปฏิบัติงานดังกล่าวก็ได้
ในกรณีที่บุคคลใดพ้นจากการเป็นพนักงานราชการแล้ว จากในการปฏิบัติงานของบุคคลนั้นในระหว่างที่เป็นพนักงานราชการ
ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ส่วนราชการ ให้บุคคลดังกล่าวต้องรับผิดชอบในความเสียหายดังกล่าว เว้นแต่ความเสียหายนั้นเกิดจากเหตุสุดวิสัย ในการ
นี้ส่วนราชการอาจหักค่าตอบแทน หรือเงินอื่นใดที่บุคคลนั้นจะได้รับจากส่วนราชการไว้เพื่อชำระค่าความเสียหายดังกล่าวก็ได้

ページ6:

หมวด 6 คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า " คณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ " เรียกโดยย่อว่า " คพร. " ประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรี
-มอบหมาย เป็นประธานกรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการราชการพลเรือน เป็นรองประธาน กรรมการ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะ - -
กรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม อัยการสูงสุด อธิบดีกรมบัญชีกลาง ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวง -
แรงงาน ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น เป็นกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งประธานกรรมการแต่งตั้งจากผู้เชี่ยวชาญในสาขาการ
บริหารงานบุคคล กฎหมาย เศรษฐศาสตร์ และแรงงานสัมพันธ์ สาขาละหนึ่งคน
ให้ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการราชการพลเรือน เป็นกรรมการและเลขานุการ และผู้แทนสำนักงบประมาณ และผู้แทนกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสองปี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ซึ่งพ้นจากตำแหน่งอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้
นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒินจากตำแหน่ง เมื่อ
(1) กาย
(2) ลาออก
(3) ประธานกรรมการให้ออก
ในกรณีที่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่วางหรือแต่งตั้งเพิ่มขึ้นให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งมีวาระเท่ากับ
วาระการดำรงตำแหน่งที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งยังอยู่ในตำแหน่ง
ให้ คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
(1) กำหนดแผนงานและแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งเสนอแนะส่วนราชการในการปรับปรุงหรือแก้ไขระเบียบหรือประกาศเกี่ยวกับการบริหารพนักงานราชการเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบนี้
(2) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการสรรหา และการเลือกสรรบุคคลเพื่อจ้างเป็นพนักงานราชการ รวมทั้งแบบสัญญาจ้าง
(3) กำหนดกลุ่มงานและลักษณะงานในกลุ่มงาน และคุณสมบัติเฉพาะของกลุ่มงานของพนักงานราชการ
(4) ให้ความเห็นชอบกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการที่ส่วนราชการเสนอ
(5) กำหนดอัตราค่าตอบแทนและวางแนวทางการกำหนดสิทธิประโยชน์อื่นของพนักงานราชการ
(6) กำหนดมาตรฐานการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ
(3) ตีความและวินิจฉัยปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้บังคับระเบียบนี้
(8) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตามที่เห็นสมควร
(9) อำนาจหน้าที่อื่นตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ หรือกฎหมายอื่น
ให้สำนักงานคณะกรรมการราชการพลเรือนรับผิดชอบในงานธุรการของคณะกรรมการ
และปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย
ในกรณีที่เรื่องใดตามระเบียบนี้กำหนดให้ส่วนราชการกำหนดหลักเกณฑ์ หรือปฏิบัติในเรื่องใด คณะกรรมการอาจกำหนดให้เรื่องนั้นต้องกระทำโดย อ.ก.พ.
กรม องค์การ บริหารงานบุคคลอื่นของส่วนราชการ หรือให้หัวหน้าส่วนราชการแต่งตั้งคณะกรรมการเป็นผู้ดำเนินการก็ได้

ページ7:

บทเฉพาะกาล
ในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการตามระเบียบนี้ ให้คณะกรรมการ บริหารงานลูกจ้างสัญญาจ้างตามคำสั่งคณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย
และนโยบายกำลังคนภาครัฐ ที่ 3/2546 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานลูกจ้างสัญญาจ้าง ลงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2546 ปฏิบัติหน้าที่เป็นคณะ
กรรมการตามระเบียบนี้ จนกว่าคณะกรรมการตามระเบียบนี้จะเท่รับหน้าที่
ในกรณีที่ส่วนราชการยังจัดทำกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการไม่แล้วเสร็จ ถ้ามีความจำเป็นต้องจ้างพนักงานราชการในกลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ
ให้ดำเนินการจ้างได้ในกรณีที่มีงบประมาณ และโครงการแล้ว หรือสำหรับโครงการใหม่ โดยเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติการทาง
ในกรณีที่อัตราลูกจ้างประจำทางลง และคณะกรรมการกำหนดเป้าหมาย และนโยบายกำลังคนภาครัฐกำหนดให้จ้างเป็นลูกจ้างชั่วคราว ส่วนราชการจะดำเนิน
การจ้างเป็นพนักงานราชการตามระเบียบนี้ได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป หรือตามที่คณะกรรมการกำหนด
ในกรณีที่อัตราลูกจ้างประจำทางลง ระหว่างปีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2543 ซึ่งต้องยุบเลิกตำแหน่งนั้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2546
ใช้กรณีการจ้างเหมาบริการให้ขออนุมัติคณะกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดให้เป็นพนักงานราชการ
จากสวนราชการยังมีความจําเป็น
↑

Comment

No comments yet